top of page
ค้นหา

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโรวัดพระธาตุดอนเรือง พระเกจิไทยที่ชาวพม่า-เนปาล-ภูฏานศรัทธา

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโรวัดพระธาตุดอนเรือง

พระเกจิไทยที่ชาวพม่า-เนปาล-ภูฏานศรัทธา


ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณของ"ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร"เกจิชื่อดังแห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นพระภิกษุฝ่ายอรัญวาสีชาวไทย ผู้ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงจากชาวยวน ไทใหญ่ ชาวลาว และชาวภูฏาน


โดยก่อนหน้านี้หากใครจำได้ เมื่อปี พ.ศ.2561 ท่านยังเคยทำพิธีเปิดทางช่วยเหลือเด็ก ๆ และโค้ช 13 ชีวิต หรือ ทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเผยว่า 1-2 วันออกมาแน่


ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ.2508 ที่บ้านดงป่าสัก หมู่ที่ 3

ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นบุตรของ พ่อคำหลัา แม่แสงหล้า ทาแกง เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 4 คน โดยก่อนแต่งงานคุณแม่แสงหล้าฝันว่า

ได้ขึ้นไปบนภูเขา ไปกราบไหว้พระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่เหลืองอร่ามรูปงาม แล้วก็

สะดุ้งตื่น อยู่มาไม่นานก็เริ่มตั้งครรภ์ พอครบ 9 เดือน ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนแรก น่ารัก น่าเอ็นดู


จากนั้นก็ต้องมีเหตุต้องแยกกันอยู่กับพ่อคำหล้า โดยแม่แสงหล้ากลับไปอยู่กับแม่อุ้ยนางหลวงที่เคยอยู่ด้วยกันมา เพราะไม่มีใครดูแล ส่วนพ่อคำหล้ากลับไปดูแลแม่หลวงอุ่น จึงเป็นเหตุต้องแยกกันอยู่ ครั้นเมื่อครูบาอายุครบ6 เดือน พ่อคำหล้าก็กลับมาเยี่ยม แล้วกลับไป ต่อมาไม่นาน แม่แสงหล้าก็ทราบข่าวว่าพ่อคำหล้าได้ล้มป่วยกะทันหันด้วยโรคบิดและถึงแก่กรรมขณะอายุ 25 ปีเท่านั้น


เมื่อครูบาอายุ 3 - 4 ขวบ ได้ย้ายจากบ้านดงป่าสัก ไปอยู่บ้านทาดอยชัย ต.ป่าสัก

อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และแม่แสงหล้าได้สมรสใหม่กับพ่อสม ไชยวงค์คำ เมื่อแม่อุ้ย

นางหลวงถึงแก่กรรม ครอบครัวของแม่แสงหล้ายิ่งลำบากกว่าเดิม ต้องไปทำกระท่อมอยู่ 4-5 คนแม่ลูก ฝาบ้านไม่มี หลังคาก็รั่ว มุ้งหมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้าแทบจะไม่มี


อุปนิสัยของครูบาบุญชุ่มในตอนเด็กชอบฝักใฝ่ในธรรมมะไม่ถือโทษโกรธใครเนื่องจากแม่แสงหล้าเป็นคนมีนิสัยใจคอดี โอบอ้อมอารีมีเมตตาต่อลูกๆ ญาติ และพี่น้องเป็นผู้รู้จักบุญคุณเสมอ ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่ครอบครัวจะยากจนขนาดไหน พอถึงวันพระ

ก็หาอาหารไปใส่บาตรเสมอ ก่อนที่แม่อุ้ยนางหลวงยังไม่เสียชีวิตในช่วงเข้าพรรษาก็จะพาครูบาบุญชุ่มไปนอนวัดปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ


ถึงปี พ.ศ.2517ท่านเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านด้าย อ.แม่สาย ชั้นประถมศึกษาปีที่2 โดยมีนายอิ่นแก้ว นามวงค์ เป็นครูใหญ่ คุณครูจำรัส คุณครูนีรมล เป็นครูประจำชั้น จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และในช่วงนั้นพ่อลุงทา กันทาเดช(พ่อลุงเขย)ได้เอาครูบาบุญชุ่มไปฝากวัด(เป็นขโยม) กับพระอธิการสิน จิระธัมโม เจ้าอาวาส วัดธรรมประสิทธิ์บ้านด้าย

ตอนนั้นท่านอายุได้ 11 ปี ท่านชอบสงบอยากบวชตั้งแต่อายุ 4-5 ปี


สมัยเป็นนักเรียน ท่านชอบนั่งสมาธิตามขอบสนามหรือใต้ต้นไม้ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร จนเพื่อนฝูงว่าท่านเป็นบ้า ใครจะว่าอย่างไรท่านไม่สนใจ ท่านถือว่าได้ปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธเจ้า ปี พ.ศ. 2519 ท่านได้บวช

เรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เยาว์วัย ถึงเวลากำหนดท่านก็ขอขมาลุงป้าแทนพ่อแม่

แล้วจึงอาบน้ำนุ่งผ้าขาว ในคืนหนึ่งท่าน ได้นิมิต(ฝัน)เห็นหลวงปู่องค์หนึ่งแก่ๆผมหงอก

ถือไม้เท้าเดินออกจากต้นโพธิ์ใหญ่ในวัด เดินเข้ามาหาท่านแล้วสอนธรรม กัมมัฏฐานให้

ภาวนาคำว่า "พุทโธๆ" และบอกว่าให้หมั่นภาวนา ในวันข้างหน้าจักได้เป็นครูบาอาจารย์

เป็นที่พึ่งแก่คนทั่วไปและมนุษย์โลกทั้งหลายจากนั้นหลวงปู่เฒ่าก็เดินหายไป


จากนั้นวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2519 ท่านก็บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญยืน ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีพระครูหิรัญเชตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อ.แม่จัน เจ้าคณะ อ.เชียงแสน เป็นพระอุปัชฌาย์ มีสามเณรที่บวชพร้อมกันทั้งตำบลจำนวน 32รูป ปัจจุบันเหลือท่านเพียงรูปเดียว

หลังบรรพชาแล้วก็กลับมาที่วัดบ้านด้ายธรรมประสิทธิ์ เข้ากัมมัฏฐาน ภาวนา 3 วัน เริ่มเรียนสวดมนต์ภาวนาทำ กิจวัตรต่างๆมีล้างบาตร ล้างถ้วยชาม ทำความสะอาดวัด ดายหญ้าท่านทำทุกอย่างที่ทำได้ วัตรที่จำเป็นที่สุดคือการเจริญภาวนา ท่านนอนองค์เดียว ในกุฏิที่เก็บกระดูกผีตาย ชอบอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่


พอบวชได้เป็นสามเณรได้ 1 เดือน คนทั้งหลายก็ลือกันว่ามีเณรน้อยต้นบุญถือกำเนิด ที่วัดบ้านด้ายธรรมประสิทธิ์ ศรัทธาสาธุชนทั้งหลายก็พากันมาทำบุญขอให้ทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ให้ สามเณรบุญชุ่มก็บอกว่าเราบวชเป็นเณรใหม่ยังไม่รู้อะไรสักอย่างให้ตั้งจิตอธิษฐานกันเองเถอะ บางคนก็ขอให้สั่งสอน ท่านก็บอกว่ายังไม่รู้อะไรเลย ขอให้หมั่นทำบุญ รักษาศีลห้า เจริญภาวนาพุทโธจะได้พ้นทุกข์


เมื่ออายุครบ 21 ปีได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2529 ณ อุโบสถวัดพระเจ้าเก้าตื้อ โดยมีพระราชพรหมจรรย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเวฬุวันพิทักษ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระครูศรีปริยัตินุรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์


นับตั้งแต่ออกบวชครูบาเจ้าบุญชุ่มมุ่งเน้นกัมมัฏฐาน โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์สายปฏิบัติชื่อดังหลายองค์ ได้มุ่งเน้นไปหลายที่ของประเทศไทย ข้ามไปฝั่งลาว พม่า และอีกหลายแห่งจนได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงจากชาวยวน ไทใหญ่ ชาวลาว และชาวภูฏานตลอดมา


สำหรับครูบาอาจารย์โดยตรงขิงครูบาบุญชุ่ม อาทิ ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทราวตากผ้า จ.ลำพูน,ครูบาอินทจักร์ วัดวนาราม (น้ำบ่อหลวง) จ.เชียงใหม่,ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน,ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่,ครูบาน้อย วัดบ้านปง

ครูบาคำแสน วัดดอนมูล จ.เชียงใหม่,หลวงพ่อฤาษีลิงดำ,หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง จ.เชียงใหม่,หลวงปู่โง่น วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร,หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา

,ครูบาเจ้าเทือง วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน เป็นพระสหธรรมิก


ครูบาอาจารย์ภาคอีสาน ที่ท่านได้ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่นิล วัดครบุรีจ.นครราชสีมา,หลวงปู่พุธ วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา,หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย,หลวงพ่อแสวง วัดถ้ำพระ จ.สกลนคร,หลวงปู่คูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา


ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page