top of page
ค้นหา

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. 2565 “หลวงพ่อทองเหลือ ปาลิโต”วัดท่าไม้เหนือ

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 29 ต.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง

ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. 2565

“หลวงพ่อทองเหลือ ปาลิโต”วัดท่าไม้เหนือ

อดีตเกจิดังสายเมตตาอาคมขลังเมืองลับแล

ศิษย์ปู่กล่อม วัดป่ากะพี้/สหธรรมิกปู่ทองดำ

"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

พระครูสุนทรคุณวัฒน์ หรือ “หลวงพ่อทองเหลือ ปาลิโต” อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดท่าไม้เหนือ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ สมญานาม "เกจิขมังเวทย์เมืองลับแล" สหธรรมิกร่วมสมัยกับหลวงปู่ทองดำ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าทอง

ท่านมีนามเดิมว่า "ทองเหลือ อินสาแล" เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 พ.ย.2452 ที่หมู่ 5 ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บิดา-มารดา ชื่อ นายขำและนางตาล อินสาแล ในช่วงวัยเยาว์สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านท้ายน้ำ ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

ต่อมาได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2488 ณ วัดกลาง ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมี พระอธิการไฝ สิริมงคโล วัดคลองโพธิ์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์พระสิทธิ์ วัดคลองโพธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์ประสงค์ วัดธรรมาธิปไตย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า"ปาลิโต”

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2478 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท จากนั้น ได้ช่วยงานศาสนกิจคณะสงฆ์ในจังหวัดเมืองอุตรดิตถ์

นอกจากนี้ หลวงพ่อทองเหลือในสมัยเป็นพระหนุ่ม ศึกษาวิทยาคมกับพระอุปัชฌาย์ไฝ และฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อกล่อม วัดป่ากะพี้ พระเกจิดังศิษย์หลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ พร้อมหาประสบการณ์ด้านการปฏิบัติธรรม ด้วยการเดินธุดงค์ไปยังสถานที่หลายแห่งทั้งในประเทศไทย พม่าและลาว เพื่อศึกษาวิทยาคมนำมาช่วยสงเคราะห์ญาติโยม

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2492 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้เหนือ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พ.ศ.2497 เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2519 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักศาสนศึกษา วัดท่าไม้เหนือ พ.ศ.2529 เป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวงชั้นตรี ณ สนามสอบ วัดมหาธาตุ ต.ในเมือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พ.ศ.2530-2532 เป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวงชั้นตรี ณ วัดบ้านดง ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พ.ศ. 2533-2539 เป็นกรรมการกลางงานสอบธรรม สนามหลวงประจำวัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

ผลงานการศึกษาสงเคราะห์ พ.ศ.2533 เป็นประธานจัดหาอุปกรณ์การเรียนบริจาคให้แก่นักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ยากจน บริจาคปัจจัยซื้อหนังสือสูตรพระปริยัติธรรมชั้นตรี แจกให้กับนักเรียนที่ตั้งใจเรียนและพระผู้บวชใหม่เพื่อให้ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมวินัย, มอบทุนการศึกษาแก่พระภิกษุของวัดท่าไม้เหนือที่เข้าสอบธรรมและผู้ที่สอบได้ตามสมควร

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสชั้นตรี ในราชทินนามที่ "พระครูสุนทรคุณวัฒน์"

หลวงพ่อทองเหลือท่านมีเมตตาต่อสัตว์โลก ทั้งแมว สุนัข ไก่ มีคนนำมาปล่อยที่วัด ท่านรับเลี้ยงหมด รวมถึงปลาที่อยู่ในแม่น้ำน่านบริเวณท่าน้ำหน้าวัด ซึ่งชุกชุมมาก จึงได้ขอวิงวอนกับญาติโยมไม่ให้ใครจับ ตั้งเป็นเขตอภัยทาน พร้อมให้พระในวัดนำข้าวก้นบาตรไปหว่านเป็นอาหารปลาด้วย

ท่านเป็นพระที่มีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบไหว้ สมัยก่อนคนที่ไปหาท่าน ไม่ได้ไปขอของดี แต่ท่านมีวิชาดูดวงที่แม่นมากและยังแก้ดวงตกได้ด้วย ใครที่ไม่เคยเห็นหน้าท่านเวลาไปพบอาจจะงง เพราะท่านดูเหมือนพระลูกวัดชราที่อยู่อย่างเรียบง่าย ดูสมถะจริงๆ ใครไปใครมาพบท่านแล้วจะเกิดความศรัทธาขึ้นในใจทุกคน อีกทั้งท่านยังมีญาณรู้เห็นว่าใครจะมีโชคลาภ แต่ท่านไม่บอกตรงๆ

ด้านวัตถุมงคลยุคต้นของท่านส่วนใหญ่จะเป็นตะกรุด โดยท่านจะเตรียมของเอง จารเอง ลบเองกีบมือท่าน ไม่ผ่านมือลูกศิษย์ อาทิ "ตะกรุดมหารูด" ซึ่งประวัติการสร้างมีข้อมูลจากคนรุ่นเก่าๆ ว่าท่านสร้างไว้จำนวนน้อย และสร้างทีละดอกเท่านั้น โดยท่านดำลงไปจารใต้น้ำทีละดอก เสร็จแล้วก็ปล่อยลอยขึ้นเหนือน้ำ ถือว่าใช้ได้ มีแค่เนื้อทองแดงเท่านั้น ส่วนพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกะพันชาตี ,

เหรียญรุ่นแรกปี พ.ศ.2534 ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อทองเหลือ ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์สามเกลอกินน้ำบ่อเดียว มีทั้งเนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองแดง จำนวน 5,000 เหรียญ จัดสร้างเพื่อหาทุนสร้างกำแพงวัด

ปีพ.ศ.2539 สร้างรูปหล่อเหมือน ตะกรุดโทนเรียกทรัพย์เงินล้าน ตะกรุดโทนเสาร์ห้าเมตตา โดยหลวงพ่อจะดำลงไปในแม่น้ำน่านเพื่อนั่งบริกรรมคาถาปลุกเสก และปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถตลอดพรรษา มอบให้กับศิษยานุศิษย์ไว้ป้องกันตัว จัดทำครั้งละไม่เกิน 9 ดอก ทั้งตัดแผ่นทอง ลงอักขระ ม้วนบริกรรมคาถา ลงรักและมัดด้วยสายสิญจน์ พร้อมเข้าพิธีใหญ่จึงเสร็จสมบูรณ์

พ.ศ.2544 หลวงพ่อทองเหลือจัดสร้างวัตถุมงคลของดีเมืองพิชัย 92 ปี รายได้บำรุงการศึกษาพระปริยัติของสงฆ์ในอำเภอพิชัยและสมทบทุนสร้างศาลาธรรมสังเวช ประกอบด้วย ล็อกเกตรูปเหมือนทรงรูปไข่และสี่เหลี่ยม, พระปิดตาภควัมปบดีเนื้อโลหะ, พระสังกัจจายน์ เม็ดกระดุม

ปีพ.ศ.2545 จัดสร้างรูปเหมือน หน้าตักกว้าง 5 นิ้ว สำหรับซื้อเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ พร้อมรูปหล่อขนาดเล็ก รุ่นพิเศษ อายุ 93 ปี พระครูวิสุทธิปัญญาสาร ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้รับอนุญาต จัดสร้างเป็นรุ่นสุดท้าย หลวงพ่อปลุกเสกเดี่ยวตลอดพรรษา

วาระสุดท้ายท่านมรณภาพอย่างสงบ ที่วัดท่าไม้เหนือ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2545 เวลา 13.53 น. สิริอายุ 94 ปี พรรษา 57

#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page