top of page
ค้นหา

คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ"ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 28-29 พ.ค. 2565

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ"

"พระดีเกจิดัง"ที่กราบไหว้ได้แบบสนิทใจ ยอดพระเกจิหนุ่มนักพัฒนามาแรงแห่งยุค 9มิย.ไหว้ครูปู่แผ้ว-10มิย.เสกเหรียญจำปีรุ่น1

จับชีพจรวงการพระ"กับ"นายขุนโหร" ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ 28-29 พ.ค. 2565 วันนี้ในอดีต : วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 สวนสนุก"แดนเนรมิต"ปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ...@วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ร่วมลงนามในสนธิสัญญาทางไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ขอนำเสนอ พระดีเกจิดังที่กราบไหว้ได้แบบสนิทใจ...พระดีเกจิดังแห่งสระแก้ว .. "หลวงปู่บุญเหลือ สํวโร"วัดโคกปี่ฆ้อง อายุ 86 ปีศิษย์สายวิชาพระครูรัตนสราธิคุณ หรือ"หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว" และ "หลวงปู่โห วัดพุทธิสาร" 2เกจิยุคสงครามอินโดจีน ท่านบวช 2 ครั้ง สมัยเป็นฆราวาสได้ศึกษาเล่าเรียนทางหมอสูตร หมอมนต์ หมอธรรม ตามประเพณีนิยมในท้องถิ่นแนวตะเข็บชายแดนที่มีการผสมผสานระหว่าง ไทยอีสาน กับไทยเขมร ทำให้ได้วิชาความรู้มากมาย อาทิ การรักษาโรคพยาธิด้วยการแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนโบราณด้วยว่านยาสมุนไพร ทั้งการรักษาอาการทางจิตด้วยพระคาถาอาคม การประกอบพิธีต่อดวงชะตาชีวิต ด้วยพิธีกรรมการเซ่นไหว้บูชา ทั้งการสะเดาะเคราะห์ ด้วยการอาบน้ำพระพุทธมนต์ เป็นต้น

"หลวงปู่ปัน สัมปันนธัมโม" อายุ82ปี พระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งวัดเทพนิมิตรจันทร์แสงวนาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ผู้สืบสายธรรมจาก "หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต" อดีตพระเกจิวัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยความที่ท่านเป็นพระปฏิบัติดี หลวงปู่ปันเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของพุทธ ศาสนิกชนในวงกว้างอย่างรวดเร็ว แต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลังจากท่านอย่างล้นหลาม ซึ่งท่านเมตตาช่วยปัดเป่าให้โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่มีความเมตตาให้ลูกศิษย์ลูกหาตลอด "หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท" แห่งสวนสงฆ์แกเปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ สมญานาม"จี้กงเมืองไทย" วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิต มั่นใจได้เรื่องพุทธคุณ เมตตามหานิยมโชคลาภ ค้าขาย แคล้วคลาด ปลอดภัยเป็นเยี่ยม ศิษย์กล่าวกันอย่างนั้น

พระเกจิดังเมืองโคราช! พระปลัดเอกรินทร์ ธมฺมรํสี หรือ"พระมหาต่อ" นักธรรมเอก ป.ธ.4 พธ.บ. ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมืองจ.นครราชสีมา ท่านเป็นพระที่มีเมตตาให้กับลูกศิษย์ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน เข้ากราบท่านเข้าขอพรท่าน เข้าทำพิธีต่างๆ ท่านไม่เคยเรียกร้อง ขอเพียง "ศิษย์ทุกคนอยู่ดีมีสุข" ท่านมักจะพูดแบบนั้นเสมอ

ส่วนพระเกจิอาจารย์หนุ่มมาแรงแห่งยุค!...เริ่มจากพระอาจารย์อนุวัฒน์ อนิญฺชิโต พระดีเกจิดังเมืองวีรชนคนกล้า.. "พระอาจารย์อนุวัฒน์ อนิญฺชิโต" เจ้าอาวาสวัดทางเรือ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พระเกจิหนุ่มคงแก่เรียน ผู้สืบสายตำรับตำราวิชาอาคมอดีตพระเกจิขมังเวทย์หลายองค์

เกจิหนุ่มมาแรงแห่งแปดริ้ว..."หลวงพ่อช้าง” หรือ "พระครูปลัดรณชัย เตชปญฺโญ" วัดจุกเฌอ พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีใจดี มีวิชาอาคมสูง ท่านเล่าเรียนมาจากพระคณาจารย์หลายสาย อาทิ หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ, หลวงปู่นิล วัดครบุรี,หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม,หลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม, หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน หลวงปู่มี วัดมารวิชัย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกะบอก หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก,หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ฯลฯ วัตถุมงคลท้าวเวสสุวรรณของท่านได้รับความนิยมอย่างมาก

พระอาจารย์แจ้ หรือพระครูสมุห์ตะวัน อิทธิโชโต วัดน้อมประชาสรรค์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สืบทอดวิชาการอาบน้ำมนต์จาก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ท่านได้เล่าถึงเส้นทางชีวิตก่อนมาบวช ไว้ในช่องยูทูบ ถามมูตอบมู ว่า เคยเป็นฆราวาส อยู่พื้นที่วัดนี้มาก่อน ได้เรียนรู้วิชาอักขระจากครอบครัว สืบทอดต่อกันมา เดินทางไปศึกษากับพระอาจารย์หลายท่าน ในช่วงแรกได้ตระเวนไปสักยันต์ในต่างประเทศ จนวัดน้อมประชาสรรค์ว่างเว้นเจ้าอาวาส เนื่องจากเจ้าอาวาสท่านเดิมมรณภาพ จากนั้นจึงตัดสินใจบวชเพื่อกลับมาบูรณะวัดบ้านเกิด

"พระอาจารย์อดิเรก อนุตตโร” รองเจ้าอาวาสวัดหนองทราย ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี และเจ้าคณะตำบลหนองราชวัตร นามเรียกขานกันสั้นๆว่า ”พระอาจารย์เรก” เกจิหนุ่มมาแรงแห่งเมืองขุนแผน ผู้สืบทอดสายหล่อโลหะดินไทยแบบฉบับดั้งเดิมจากตำราของ “หลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา” ซึ่งวัตถุมงคลของท่านกำลังมาแรงแบบสุดๆ แรงไม่แรงวัดได้จาก "เฮียนันต์ ท่าพระจันทร์" เซียนพระเก่าชื่อดัง ยืนยันชัด พระอาจารย์ดิเรก ของจริงเก่งจริง “พระเก่งไม่จำเป็นต้องแก่”

เกจิหนุ่มมาแรงแห่งเมืองโอ่งมังกร..."พระอาจารย์กำพล อถฺกาโม" หรือที่เรียกขานกันว่า "พระอาจารย์น็อต" หรือ"หลวงพี่น๊อต" เจ้าอาวาสวัดตึกหิรัญราษฎร์ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เกจินักพัฒนา-เมตตาอาคมขลังพระสงฆ์ที่ชาวบ้านแถบนี้ และจังหวัดใกล้เคียงเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ...วิชาอาคมของท่านมากมายเกินวัย ไม่ธรรมดา เพราะสืบสายตำรับตำราวิชาของหลวงปู่อ่อน วัดตึกฯ และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งหลวงปู่อ่อนเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อแทน และหลวงพ่อแทนก็เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เหลือบ อดีตเจ้าอาวาสวัดตึกฯองค์ที่6 ทั้ง3ท่านมีอาคมขลังระดับตำนานของเมืองราชบุรี พระอาจารยน๊อตจึงได้รับมาแบบเต็มๆ...

พระดีเกจิหนุ่มมาแรงแห่งเมืองย่าโม.. "พระอาจารย์มหาคมกริช สิริจันโท" วัดป่าสบายใจ ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา พระสายกรรมฐานศิษย์หลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย และสายวิชาสมเด็จลุน ประเทศลาว ท้านขึ้นชื่อเรื่องการอาบน้ำมนต์เสริมดวง เสริมยศ หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี รวมทั้งวัตถุมงคลอย่างเบี้ยแก้, ตะกรุดมงกุฎพระเจ้าแคล้วคลาดปลอดภัย,ตะกรุดเมตตามหานิยม ค้าขายดี

ปิดท้ายงานบุญ...หลวงปู่แผ้ว พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ สำนักสงฆ์บ้านไสหลวง จ.พัทลุง กำหนดฤกษ์แล้ว วันที่9 มิถุนายน 2565 ไหว้ครู เวลา15:37 น. วันที่10 มิถุนายน 2565 พิธีพุทธาภิเษกเหรียญบูชาครู ที่กำลังมีกระแสร้อนแรง เวลา 13:13 น. ศิษย์สายตรงเชิญร่วมงาน...งานนี้ไลฟ์สด(ถ่ายทอดสด) ทางเพจหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ โดย "อ.อนุชา ทรงศิริ" บรรณาธิการ...สวัสดี

"นายขุนโหร"














 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page