top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนอ.อนุชา ทรงศิริ

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค. 2565

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค. 2565


“หลวงพ่อหน่าย”เกจิวัดบ้านแจ้ง

ศิษย์เอกรุ่นสุดท้าย “หลวงปู่ศุข”

เจ้าตำรับ“ยันต์จิ้งจก”เมตตามหานิยม 

           

วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งเป็นที่เคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ และวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นได้รับความนิยมกันมาก คือ "หลวงพ่อหน่าย  อินฺทสีโล" ในวงการผู้นับถือพระเกจิอาจารย์ทั้งหลาย คงเป็นที่ทราบกันดีว่า หลวงพ่อหน่ายเป็น พระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาก ทั้งที่นับถือในความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องรางของขลัง  และนับถือในเมตตาธรรม และวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ

            

ท่านจะดังมากในเรื่องของการสักยันต์ ว่ากันว่าชาวอยุธยาที่สักยันต์ที่มีการสักยันต์ในยุคนั้นจะต้องมีรอยสักจากท่านเกือบทุกคน โดยเฉพาะ “ยันต์จิ้งจก” โดดเด่นมากในเรื่องเมตตา มหานิยม


หลวงพ่อหน่าย เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านแจ้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496  ได้ปกครองดูแลพระภิกษุสามเณร รวมทั้งเกื้อกูลต่ออุบาสก อุบาสิกา มายาวนาน  ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ให้กุลบุตรทั้งหลายได้บรรพชาอุปสมบท เป็นสามเณรและพระภิกษุเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

            

จากวัตรปฏิบัติและเมตตาธรรมที่หลวงพ่อหน่ายได้ให้แก่ลูกศิษย์และญาติโยมทั้งหลายมายาวนาน  ทำให้ท่านเป็นที่เคารพนับถือ ประกอบกับเมื่อท่านได้สร้างวัตถุมงคลและมีผู้นำไปบูชาแล้วเกิดผลเป็นสุข ความเจริญ หรือแคล้วคลาดจากภัยพิบัติต่าง ๆจึงทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่ออยู่ในทำเนียบของพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย

            

ท่านเกิดในสกุล “มีความดี” วันที่เกิดจำไม่ได้จำได้แต่ พ.ศ. 2446 เกิดที่ ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ "นายหลาบ" มารดาชื่อ "นางพลอย" จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัด ในสมัยนั้นการศึกษายังไม่ค่อยเจริญ พออ่านออกเขียนได้ เมื่อจบการศึกษาแล้ว ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่กับบ้าน เมื่ออายุ 12 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านแจ้ง มีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌาย์ 

            

ขณะที่เป็นเณรได้ศึกษาธรรมวินัยและวิชาไสยศาสตร์บ้างเล็กน้อยเพราะอายุยังน้อยกระทั่งอายุครบ 22 ปี ได้เข้าอุปสมบทที่วัดบ้านแจ้ง โดยมีพระครูพัด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า “อินฺทสีโล”  หลังพรรษาแรกก็เริ่มออกเดินธุดงค์ไปในป่าเขาตามภาคต่าง ๆ ซึ่งมีสัตว์ดุร้ายที่ชุกชุม  แต่ท่านไม่มีความเกรงกลัวกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นเลย


ท่านเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งขณะที่เดินธุดงค์เข้าไปในป่าได้พบช้างยืนขวางหน้าอยู่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้มันได้ใช้งวงของมันมาเกี่ยวจีวรที่ท่านครองอยู่ไปพันกับงวงมัน ท่านจึงก้มลงแล้วหยิบดินขึ้นมาก้อนหนึ่งเสกแล้วโยนไปที่ช้าง ช้างจึงได้วางจีวรลงแล้วเดินหายเข้าไปในป่า โดยมิได้ทำร้ายท่านเลย เมื่อท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่าจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงได้กลับมายังวัดแจ้งเพื่อเยี่ยมญาติโยม 


อยู่วัดบ้านแจ้งได้ 3 เดือนจึงเดินทางไปศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ในช่วงนี้มีโอกาสพบกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับท่านบ้าง แต่ส่วนมากจะได้วิชาจากหลวงปู่ศุข เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้วิชาแขนงสุดท้าย หลวงปู่ศุขก็มรณภาพไปเสียก่อน

 

แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปี แต่ก็เป็นหนึ่งปีที่หลวงปู่หน่ายได้ฝึกฝน ทบทวนสรรพวิชาต่างๆ อย่างเข้มข้น จนถือว่าเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุขอย่างแท้จริง


หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาเครื่องรางของขลัง และวิชาไสยศาสตร์ต่อกับอาจารย์ย่ามแดง ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข  หลังจากเรียนวิชาจากอาจารย์ย่ามแดงจนแก่กล้าดีแล้ว จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านแจ้ง ซึ่งในขณะนั้นมี พระครูอนุวัติสังฆกิจ (เคลือบ) เป็นเจ้าอาวาส  ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ ในป่าช้านานถึง 20 ปี โดยบอกว่าในป่าช้าเงียบและสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฎฐาน


ท่านได้ช่วยพระครูสังฆกิจ(เคลือบ) พัฒนาวัดบ้านแจ้ง ด้วยการสร้างอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญ  เมื่อพระครูสังฆกิจมรณภาพลง ญาติโยมผู้มีศรัทธา จึงนิมนต์ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ขณะที่มีอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 59  โดยที่ท่านไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใดๆทั้งสิ้น ขออยู่อย่างพระธรรมดา 


เมื่อครั้งยังมีชีวิต แม้อยู่ในวัยชราภาพมากแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงดี โดยสามารถนั่งพูดคุยกับโยมที่ไปเยี่ยมได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย รวมทั้งมีอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตาแก่คน และสัตว์ต่างๆ

            

ตลอดชีวิตของหลวงปู่หน่ายท่านได้นำวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาช่วยเหลือชาวบ้านและลูกศิษย์อย่างต่อเนื่อง ท่านเป็นสงฆ์ที่รักสันโดษ ครองบรรพชิตอย่างเรียบง่าย และไม่เคยโอ้อวดตนเอง กระทั่งวาระสุดท้ายท่านได้ละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันอังคารที่ 10 พ.ค. 2531 สิริอายุ 86 ปี


หลวงพ่อหน่ายท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังไว้หลายอย่าง อาทิ  จิ้งจก,ตะกรุดโทน ตะกรุดมหาอุด พระโมคคัลลาน์ มีพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก พระพุทธโคดมพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก,รูปหล่อ และเหรียญรุ่นต่างๆ อีกหลายรุ่น   วัตถุมงคลของท่านที่ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้มักจะเจอกับประสบการณ์ต่าง ๆ หลายรายด้วยกัน


หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้งได้รับการ คัดเลือกและยกย่อง จากหลวงปู่ดู่ วัดสะแกให้ท่านเป็นหนึ่งใน “พระเกจิจตุรพิธพรชัย” ตามคำปรึกษาของนายเรียน นุ่มดี ผู้จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้  จึงเป็นที่มาของเหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง จะสังเกตว่าเนื่องจากท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า  จึงได้รับการนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงปู่ศุขในหลายๆรุ่น

          

เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างปี 2512 ออกที่วัดพฤกษวนาราม (หอไตร) อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ความนิยมและสนนราคาไปไกลแล้ว ส่วนเหรียญที่นำเสนอนี้เป็นเหรียญหูเชื่อมปี2517 ซึ่งจัดสร้างเป็นกรณีพิเศษ และพิถีพิถันมาก เนื่องจากคณะศิษย์ผู้สร้างได้รวบรวมโลหะศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากมาสร้างเป็นเนื้อเหรียญ ซึ่งได้มาจากชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์รุ่นเก่าๆ พระบูชาที่ชำรุด ตะกรุดและแผ่นยันต์จำนวนมาก เฉพาะโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาสร้างก็มากถึง 40 กิโลกรัม ทำให้เหรียญหูเชื่อมรุ่นนี้มีเนื้อออกไปทาง “สัมฤทธิ์” ไม่เหมือนเหรียญทองแดงทั่วๆไป เพราะผู้สร้างนิยมในการสร้างตามแบบโบราณ คือดีทั้งเนื้อหาและการปลุกเสก 

            

เหรียญรุ่นนี้ ทางผู้สร้างยังคงเอกลักษณ์ของเหรียญเก่า คือการแกะรายละเอียดของเหรียญแบบ “นูนต่ำ” ทำให้รายละเอียดของเหรียญดูแลเหมือนมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนเหรียญยุคใหม่ที่แกะแบบนูนมากเกินไป ส่วนหูของเหรียญก็ทำแบบหูเชื่อม คือปั๊มเหรียญขึ้นมาก่อน แล้วไปเชื่อมหูทีหลังด้วยทองเหลือง

            

ลักษณะเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อหน่ายนั่งสมาธิ ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ รัดประคด มีตัวหนังสือด้านในขอบเหรียญอ่านว่า “หลวงพ่อหน่าย อินทสิโล วัดบ้านแจ้ง อยุธยา”  ส่วนด้านหลังเป็นอักขระเลขยันต์ ตามขอบเหรียญด้านใน อ่านได้ว่า “อะสังวิสุโลปุสะภุพะ สังววิธาปุภะยะปะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด นะมะพะธะ” ตรงกลางเป็นรูปยันต์สี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของท่าน ส่วนด้านบนและด้านล่างเป็นยันต์สาม หรือยันต์ใบพัด 


สำหรับยันต์นี้เดิมเป็นของหลวงปู่ศุข ว่ากันว่าครั้งหนึ่งเมื่อท่านนั่งสมาธิและนิมิตเห็นหลวงปู่ศุขมาหาและบอกถึงวีการลงยันต์สามหรือยันต์ใบพัดนี้แก่ท่าน เมื่อออกจากนิมิต ท่านก็นำมาศึกษาจนชำนาญและนำมาประทับไว้ด้านหลังเหรียญหูเชื่อมรุ่นนี้ไว้ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว หลวงพ่อหน่ายได้ทำการปลุกเสกแบบเดี่ยวอยู่นาน จึงได้นำออกบูชาเหรียญละ 30 บาท (ปี 2517) มีคนสนใจเช่าเก็บกันมาก เพราะต่างรู้กันว่าจัดสร้างอย่างดีตามแบบโบราณ

           

 เหรียญหูเชื่อมรุ่นนี้ มีปลอมมานานแล้ว ของเก๊ทำตามของแท้ออกมาไม่นานนัก จุดสังเกตของเก๊จะแกะพิมพ์ใหม่ เพราะสมัยนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ใบหน้าหลวงพ่อจึงผิดเพี้ยนไป อีกทั้งเนื้อเหรียญเก๊จะเป็นทองแดงไม่ได้เป็นสัมฤทธิ์เหมือนของแท้

           

สำหรับศิษย์หลวงพ่อหน่ายที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันคือ"หลวงพ่อรวย กนฺตสาโร" อายุ 61 ปี วัดป่ามหาลาภบุญญาแสงวนาราม (สำนักปฏิบัติธรรมปู่ฤาษีเมตตามหาลาภ) บ้านหนองไม้เอก หมู่.15 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี โดย ที่หลวงปู่หน่ายได้ถ่ายทอดวิชาเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ และวิชาจิ้งจกมหาเสน่ห์ ให้ และหลวงพ่อรวยได้ถวายการรับใช้โดยเขียนตะกรุดให้หลวงปู่หน่ายมาโดยตลอด


"#ฉัตรสยาม





ดู 10 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page