top of page
ค้นหา

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 2566 "หลวงพ่อเทศ”อดีตเจ้าอาวาสวัดสระทะเล

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. 2566

"หลวงพ่อเทศ”อดีตเจ้าอาวาสวัดสระทะเล

เกจิอาคมขลัง-วาจาสิทธิ์เมืองปากน้ำโพ

อาจารย์หลวงพ่อเดิม-โยมปู่หลวงพ่อพัฒน์

"ย้อนรอยเกจิ"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

“หลวงพ่อเทศ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระทะเล อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังยุคเก่าของเมืองปากน้ำโพ ซึ่งท่านเป็นโยมปู่ของพระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ "หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญากาโม" อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน (ธารทหาร) อ.หนองบัว จ. นครสวรรค์ ซึ่งมรณภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา โดยหลวงพ่อพัฒน์มีศักดิ์เป็นเหลนแท้ๆของหลวงพ่อเทศ

หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ท่านเป็นเกจิยุคเก่า ด้วยเหตุนี้ประวัติของท่านจึงไม่มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจน มีเพียงคำบอกเล่าสืบต่อกันมาจากคนรุ่นเก่าที่ทันท่านว่า ท่านเกิดราว ปีพ.ศ 2374 และมรณภาพปีพ.ศ. 2454 อายุประมาณ 80ปีกว่าๆ

ที่สำคัญ ท่านเป็นพระอาจารย์ของอดีตเกจิดังเมืองปากน้ำโพหลายองค์ อาทิ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (หลวงพ่อเทศเป็นพระอนุสาวนาจารย์) ,หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล,หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร, หลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ,หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล ฯลฯ

มีเรื่องเล่าขานไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพว่า หลวงพ่อเทศได้บอกกับหลวงพ่อเดิม,หลวงพ่ออิน และหลวงพ่อหมึกว่า “ในปีจอถัดไปจะมีลูกหลานของท่านมาเกิดเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนาไปตลอดอายุขัย ลูกหลานคนนี้จะมาสืบทอดกรรมฐานและพุทธาคมที่ท่านถ่ายทอดไว้ ขอให้ศิษย์ทุกท่านช่วยกันอบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาให้ด้วย

ล่วงถึงปีพ.ศ.2465 (ปีจอ) คำทำนายของหลวงพ่อเทศก็เป็นจริง เมื่อครอบครัวหลานของท่านชื่อนายพุฒ และนางแก้ว ก้อนจันเทศ ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งตั้งชื่อว่า”พัฒน์” เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พ.ค. 2465 ซึ่งในกาลต่อมาก็คือ"หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน"นั่นเอง

ทั้งนี้ หลวงพ่อพัฒน์ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชากรรมฐานและพุทธาคมต่างๆของหลวงพ่อเทศจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพโดยตรงจนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

กล่าวกันว่า หลวงพ่อเทศเป็นพระเกจิที่เก่งทางด้านอาคมขลัง ทางน้ำมนต์ มีวาจาสิทธิ์ เชี่ยวชาญเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน เป็นที่เคารพยำเกรงของชาวพยุหะคีรี โดยหลวงพ่อเทศ เรียนวิชามาจากหลวงพ่อรอด วัดหนองโพ อดีตเจ้าอาวาสก่อนหน้าหลวงพ่อเดิม

สำหรับศิษย์ร่วมสำนักของหลวงพ่อเทศ เท่าที่ทราบได้แก่ หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง ซึ่งมีวิชาเป็นที่เลื่องลือขนาด รัชกาลที่ 5 ยังเคยเสด็จไปกราบ อีกองค์หนึ่งคือหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทำมีดหมอเทพศาสตรา ต่อมาภายหลังหลวงพ่อเดิมก็ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากหลวงพ่อขำในวิชาสร้างมีดหมอ

ในประวัติหลวงพ่อเทศ ไม่เคยสร้างพระเครื่องที่เป็นรูปตัวของท่านเลย มีประเภทเครื่องราง อาทิ ตะกรุดไม้ไผ่ , มีดหมอเทพศาสตรา,หวายครู ประมาณปีพ.ศ. 2490

มีลูกศิษย์สร้างเหรียญท่าน เป็นรูปเหรียญเสมานั่งเต็มองค์ แล้วนำไปถวายให้หลวงพ่อเดิมปลุกเสก แต่หลวงพ่อเดิมไม่ยอมปลุกเสกให้ ท่านบอกว่า เหรียญขลังอยู่แล้ว แต่คนเอาไปให้ปลุกเสกไม่เชื่อ ได้นำไปทดลองยิง ปรากฏว่า"ยิงไม่ออก" จนต้องกลับมาขอขมาโทษหลวงพ่อเดิม

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการหลับตาของหลวงพ่อเทศว่า หากครั้งใดที่มีการถ่ายภาพของท่านขึ้นแล้วท่านไม่ได้หลับตา กล้องถ่ายรูปจะไม่สามารถถ่ายภาพได้ หรือในบางครั้งอาจจะถึงขั้นพังเสียหายได้ทุกครั้งไป

วัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณดีทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน

#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page