top of page
ค้นหา

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค. 2566 "หลวงพ่อเทพ สิริธโร" วัดถ้ำรงค์ เพชรบุรี

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 27 ส.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค. 2566

"หลวงพ่อเทพ สิริธโร" วัดถ้ำรงค์ เพชรบุรี

เกจิดังร่วมยุคหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ

อาจารย์ของ"หลวงปู่ทองพูน บารมี10 ทัศ”

สมเด็จ/เหรียญประสบการณ์แคล้วคลาด

“หลวงพ่อเทพ สิริธโร” (พระครูบรรพตวิบูลกิจ) อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำรงค์ และเจ้าคณะตำบลท่าเสน ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกับ “หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ” ท่านทั้งสองดังเคียงคู่กันมา ด้วยความที่หลวงพ่อเทพเป็นพระเก็บตัว ชอบความสงบ จึงไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่เรื่องวิชาอาคมและพระเครื่องนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันทีเดียว

ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติธรรม จนสามารถมีญาณวิเศษมองเห็น รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งในอดีตก็ได้ปัจจุบันก็ได้ อีกทั้งยังมีความสามารถในด้านการทำนายทายทัก ดูฤกษ์ดูยามในการประกอบพิธีการงานต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น การออกรถใหม่ การแต่งงาน อุปสมบท จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ทั่วทุกสารทิศ ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติธรรม เคร่งครัดในธรรม-วินัย จนสามารถมีอิทธิฤทธิ์ในเรื่องต่างๆ ได้แพร่กระจายจากปากต่อปากของลูกศิษย์ลูกหาที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากท่าน จากเพียงคนเดียวก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อเทพปลุกเสกมาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกศิษย์ลูกหา เกิดปาฏิหาริย์ให้ลูกศิษย์ได้ประจักษ์ จึงทำให้มีผู้คนที่เดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือจากท่านมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านขจรขจายไปทั่วประเทศ

แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว ผู้คนก็ยังมีความศรัทธาอย่างมั่นคง หลายคนไปขอให้ท่านช่วยเหลือ เมื่อได้ตามที่ขอก็จะนิยมแก้บนกันด้วย “หนังตะลุง” ซึ่งเป็นสิ่งที่หลวงพ่อเทพชอบดูเป็นที่สุด โดยเฉพาะเรื่อง “รามเกียรติ์”

หลวงพ่อเทพ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ต.ค. 2449 ณ บ้านหมู่ที่ 4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 9 คนของนายพวง นางเภา ปานดำ เยาว์วัยได้เรียนหนังสือกับพระอธิการวัน วัดถ้ำรงค์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีความรู้ในด้านต่างๆ มาก จนอ่านออกเขียนได้ตามสมัย จากนั้นก็ออกมาประกอบอาชีพทำนาทำไร่ ช่วยเหลือครอบครัวของท่านด้วยความเอาใจใส่อย่างดี ไม่เคยเกียจคร้านแม้แต่น้อย

เรื่องการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตท่านไม่เคยคิดทำ เพราะเกรงกลัวต่อบาป อีกทั้งเรื่องเที่ยวเตร่ก็ไม่เคยไปร่วมวงกับใคร แต่กลับสนใจในวิชายาแผนโบราณ และทางด้านวิชาอาคมขลัง โดยเดินทางไปเรียนจากพระอาจารย์หลายท่านทั้งที่เป็นพระสงฆ์ และฆราวาส อาทิ หลวงพ่อบุญ วัดท่าศาลา และอาจารย์ของหลวงพ่อบุญ

ปีพ.ศ.2469 ได้เข้าอุปสมบทที่วัดถ้ำรงค์ มีหลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เขียว วัดท่าศาลาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการวัน วัดถ้ำรงค์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"สิริธโร" หลังจากนั้นได้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ตลอดมา เฝ้าปฏิบัติวัตรพระอาจารย์อย่างสม่ำเสมอ และเรียนอาคมขลังเพิ่มเติมจนก้าวหน้ามาก

แม้แต่พระอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน เมื่อต้องการติดต่อเรื่องราวอันใด ก็จะใช้สมาธิติดต่อกัน บางเรื่องท่านจะไม่ใช้ผู้อื่นเดินทางไปแทน ทำเอาผู้เดินทางถึงกับงงมาก เมื่อพระที่ท่านใช้ให้ไปหา สั่งข้อความและฝากของมาให้ เหมือนกับพูดกันทางโทรศัพท์

หลังสอบนักธรรมโทได้แล้ว ก็แบกกลดเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระธุดงค์เข้าป่าหา ความสงบบำเพ็ญเพียรภาวนา เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน จนถึงประเทศลาวทางฝั่งพม่าก็เข้าไปถึงเมือง หงสาวดี ย่างกุ้ง

เรื่องการอดอาหารเป็นวันๆ ท่านเคยอดมาแล้ว โดยไม่มีความหวั่นไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย ท่านใช้เวลาเดินธุดงค์อยู่หลายปี จนมีเสียงร่ำลือกันว่าท่านตายไปแล้ว พ่อแม่ของท่านจึงไปสอบถามจากหลวงพ่อบุญ วัดท่าศาลาราม ได้รับคำตอบว่า เร็วๆ นี้ท่านก็จะกลับมา จากนั้นไม่นานท่านก็เดินทางกลับมาที่วัด และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ.2481 ด้วยความเอาใจใส่ในการก่อสร้าง ท่านก็สร้างสรรค์วัดจนสำเร็จลุล่วง ปรากฏผลงานการก่อสร้างมากมายเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของญาติโยม

เรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านมากก็คือ การดูฤกษ์ผานาที การพยากรณ์เกี่ยวกับที่ดินจะปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ ซึ่งใครให้ท่านดูแล้ว กิจการจะก้าวหน้า

หลวงพ่อเทพเป็นอีกหนึ่งเกจิที่เข้มขลังทางพุทธาคมอย่างยิ่ง ในอ.บ้านลาด ถึงขนาดที่หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ ยังให้ความเคารพท่าน นอกจากนั้น ยังเป็นพระเกจิหนึ่งใน 2 รูปของจังหวัดเพชรบุรี ที่ได้รับนิมนต์มาปลุกเสก เหรียญหลักเมือง กรุงเทพฯ ปีพ.ศ. 2518 ซึ่งอีกรูปก็คือ"ท่านเจ้าคุณอินทร์ วัดยาง"

ด้านวัตถุมงคลท่านสร้างไว้ไม่มาก แต่เป็นที่ต้องการของชาวเมืองเพชรมาก มีทั้งพระเนื้อผง, เหรียญรูปเหมือน, เครื่องรางขิงขลังอย่างตะกรุด และผ้ายันต์ สำหรับพระเครื่องที่คนบ้านลาดให้ความนิยมและเสาะหากันอย่างมากคือ “เหรียญ” ซึ่งสร้างไว้หลายรุ่นมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นเลิศ เหรียญรุ่นแรก เนื้อทองแดง หลังยันต์เฑาะว์ รุ่นนิยม ในพิธีปลุกเสกปรากฏเหตุการณ์อัศจรรย์ ให้ประชาชนที่เข้าร่วมพิธีได้เห็นกันอย่างมาก คือ ในช่วงตอนบ่ายหน้าแล้ง แดดแรง ทันทีที่ท่านจุดธูปเทียนบูชาพระและบูชาครูบาอาจารย์ ฝนก็ตั้งเค้ามาตกในบริเวณงานพอให้คลายความร้อนระอุลงไป ประตูโบสถ์ที่ปิดสนิทก็เปิดอ้าออก เหมือนมีคนไปเปิดออก ซึ่งทำให้ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกล่าวว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

“พระสมเด็จฐานแซม เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน ปี 2504” เป็นพระเนื้อผงที่มีประสบการณ์ และเริ่มหายากแล้ว โดยท่านกดพิมพ์เองบ้าง ให้พระเณรช่วยกดบ้าง ส่วนมวลสารที่ผสมจัดสร้างเป็นองค์พระ อาทิ ว่านเกสรดอกไม้ ตะไคร่เสมา ตะไคร่เจดีย์ ตะไคร่รอยพระพุทธบาท น้ำพระพุทธมนต์ และผงพุทธคุณที่ท่านสะสมไว้ เนื้อพระจะออกหยาบมีสีขาวอมเหลืองอ่อน ลักษณะด้านหน้าเป็นรูปองค์พระประทับนั่งบนฐาน 3 ชั้น องค์พระเรียว มีจีวรและสังฆาฏิปรากฏให้เห็นชัดเจน ตรงพระพักตร์กลม หูยาวลงมาจรดที่ไหล่ พระเกศจรดซุ้ม ด้านหลังมี “ยันต์เฑาะว์ขึ้นยอด” นับว่าเป็นพระสมเด็จที่น่าบูชาอีกรุ่น

พระพิมพ์สมเด็จฯ เป็นพระพิมพ์ที่หลวงพ่อเทพ ท่านสร้างขึ้น โดยในพิธีปลุกเสกได้อัญเชิญดวงวิญญาณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) มาร่วมพิธีด้วย โดยเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกคือ หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ, หลวงพ่อเชื่อม วัดแก่นเหล็ก, หลวงพ่อทองสุข วัดบันไดทอง, หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ, หลวงพ่อเริ่ม วัดโพธิ์ลอย และ เจ้าคุณอินทร์ วัดยาง เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี ในขณะนั้น

ประสบการณ์จากพระเครื่องของท่านมีเรื่องกล่าวขวัญกันมาก มาย อาทิ ลูกจ้างชาวอีสานคนหนึ่งทำเหรียญหล่นขณะขนไม้ไปก่อสร้างที่พัก หาอย่างไรก็ไม่พบ จึงเอาไฟจุดเผาหญ้า ปรากฏว่า เมื่อจะถึงเหรียญห่างเพียงเมตรเศษ ไฟที่จุดเผาก็ดับลง เขาสงสัยอย่างมากจึงค้นหาดูอีก จึงพบเหรียญของท่าน อีกรายห้อยเหรียญของท่านขับปิกอัพไปพลิกคว่ำข้างทาง ขณะเดินทางไปประจวบคีรี ขันธ์ ตัวเขาแค่กระเด็นออกจากรถโดยไม่เป็นอะไร แต่เพื่อนที่นั่งมาด้วยกลับตายอย่างอนาถ

วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ท่านถึงกาลมรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลวที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2525 สิริอายุได้ 72 ปี

แม้กาลเวลาจะผ่านมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ผู้ที่เคารพศรัทธายังคงไปกราบไหว้สักการะรูปเหมือนของท่าน เพราะคุณงามความดีที่ยากจะลืมเลือนนั่นเอง เช่นเดียวกับพระเครื่องของท่านที่ยังคงความเข้มขลัง และเป็นที่ต้องการของศิษย์สายตรง และคนเมืองเพชรอยู่เสมอ

สำหรับศิษย์เอกสืบทอดพุทธาคมของหลวงพ่อเทพที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันคือ "หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม" อายุ 110 ปี แห่งสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ศิษย์ 10 สายพระเกจิอาจารย์หรือที่ลูกศิษย์เรียกกันว่า “หลวงปู่ทองพูน บารมี10 ทัศ” โดยหลวงพ่อเทพเอ็นดูท่านตั้งแต่ยังเป็นสามเณร และถ่ายทอดวิชาด้านเมตตามกานิยมให้

#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page