top of page
ค้นหา

คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ วันที่ 10-11 ก.ค. 2564

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 10 ก.ค. 2564
  • ยาว 2 นาที

คอลัมน์"จับชีพจรวงการพระ ของดีเมืองชล"ขุนแผน-ลูกอม"วัดสำนักขาม ขอบารมีเกจิดังชื่อ"รอด"ช่วยไทยพ้นวิกฤต วัดศรีสุดาฯ-วัดอินทร์ศูนย์พักคอยป่วยโควิด "จับชีพจรวงการพระ"กับ"นายขุนโหร" ประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ วันที่ 10-11 ก.ค. 2564 ...วันนี้ในอดีต.. เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช...@วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ เมืองลพบุรี ทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที ทุกชีวิตตอนนี้ต้องอยู่ให้"รอด"ปลอดภัยจากมหันตภัยไวรัสระบาด ช่วยกัน"ล็อกดาวน์"ตัวเองและคนในครอบครัวให้ดีที่สุด แม้มาตร การล็อกดาวน์ 14 วันอาจไม่ใช่ทางแก้ที่ดีที่สุด แต่ก็ดีกว่าไม่หาทางแก้จนบ้านเมืองแย่สุดๆ อันคำว่า “รอด” ก็หมายถึงแคล้ว คลาดปลอดภัย ชื่อนี้จึงมีความเข้มขลังอยู่ในตัว ในแวดวงพระสงฆ์เมืองไทย มีพระเกจิที่โด่งดังเข้มขลังด้วยวิชาอาคมชื่อ"รอด"อยู่หลายองค์ ในกรุงเทพฯก็มี"หลวงปู่รอด วัดนางนอง" บางขุนเทียน ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง,"หลวงปู่รอด วัดนายโรง" ตลิ่งชัน เจ้าตำรับเบี้ยแก้อันเข้มขลัง... ทางภาคอีสานก็ต้องหลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธา นี ...ทางอยุธยาก็"หลวงปู่รอด วัดสามไถ" เกจิสายเหนียวยุคเดียวกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ...ที่แปดริ้วมี"หลวงปู่รอด วัดคลองเขื่อน" ฯลฯ...ใครชื่นชอบองค์ไหนก็ขอบารมีท่านคุ้มครองตามความเชื่อความศรัทธาส่วนบุคคลเลยครับ ส่วนที่สมุทรสาครคือ "หลวงปู่รอด" หรือพระครูรอด วัดบางน้ำวน เกจิสายรามัญเจ้าของเหรียญหล่อหลักล้าน ...ปัจจุบันทางวัดสร้างเหรียญหล่อพิมพ์แม่ครัวย้อนยุคโดยได้เกจิอาจารย์ชื่อดังๆหลายท่านมาร่วมจารแผ่นยันต์ และมีชนวนศักดิ์สิทธิ์นำมาหล่อหลอมมากมายบรรยายกันไม่หมด...พิมพ์ทรงสวยงามลงตัวไม่แพ้รุ่นเก่า... กำลังเปิดให้จองอยู่ สอบถามโทร.081- 4306018 พิธีปลุกเสกใหญ่เดือนมี.ค. 2565 ของดีพิธีขลังที่สร้างและปลุกเสกไว้เมื่อ3ปีก่อน... พระขุนแผนผงพรายรุ่นแรก,ลูกอม ผลงานสร้างปลดหนี้โบสถ์วัดสำนักขาม ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กดปั้มนำฤกษ์ปั้นลูกอมผสมผงว่านผงพรายกุมาร โดยพระเกจิคณาจารย์ รวมมวลสารเก่า อาทิ ลูกอมผงพรายกุมารกรุวัดสำนักขามปี17และพญาว่านแห่งสำนักขามอีก108 พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ในโบสถ์วัดสำนักขาม เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2561 เกจิคณาจารย์สายบูรพาร่วมนั่งปรก อาทิ หลวงปู่สิน วัดละหารใหญ่,หลวงปู่ฮก วัดมาบลำบิด, หลวงปู่สมบูรณ์ สำนักสงฆ์เขาพลอย,หลวงปู่ทวน วัดใหม่ทรายมูล,หลวงพ่อทัง วัดกุณฑีธาร,หลวงพ่อวิชิต วัดลิงงาม,หลวงพ่อสมศักดิ์ วัดหนองเขิน ฯลฯ วัดสำนักขาม มีอดีตเกจิอาจารย์ซึ่งเป็นสมภารองค์แรกคือ "หลวงพ่อเที่ยง" ปรมาจารย์ว่านแห่งภาคตะวันออก ศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม อ.พนัสนิคม และเป็นศิษย์รุ่นน้องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่มีส่วนร่วมในการหาว่านให้ปู่ทิมสร้างพระเครื่องจนได้รับขุนแผนพรายกุมารจากท่านมาฝังลงกรุวัดสำนักขามเป็นที่เล่นหาในหมู่นักสะสมสายปู่ทิม เมืองระยองยุคนี้ นอกจาก"สายบ้านค่าย"ที่มีเกจิดังๆหลายรูปแล้ว "สายนิคมพัฒนา"ก็ต้องพระครูพิทักษ์ถาวรคุณ หรือ "หลวงพ่อเชย ถาวโร" เจ้าอาวาสวัดกะเฉท ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของ"หลวงพ่อชื่น สุจิตโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดมาบข่า ซึ่งได้รับถ่ายทอดวิชาอาคมมาหมดสิ้น เป็นพระประเภท"คมในฝัก" และ"เสือซ่อนเล็บ" เก่งจริง รู้จริง แต่ไม่โอ้อวดตน ชอบความเป็นสมถะ เรียบง่าย เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา แต่ละวันมีญาติโยมมาให้ท่านสงเคราะห์ไม่ขาดสาย ทั้งทางกายและทางใจ เช่น รดน้ำมนต์, เจิมรถ,ไล่คุณไสย ฯลฯ วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม ทำพิธีเททองหล่อท้าวมหาพรหม หรือ พระมหาโสฬสพรหม ไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 โดยนายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร พร้อมคณะผู้บริหารเขต ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงองค์หลวงพ่อโต และเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถระสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ เป็นองค์ประธานเททองหล่อเป็นปฐมฤกษ์ ณ มณฑลพิธีศักดิ์สิทธิ์หน้าองค์หลวงพ่อโต ทั้งนี้ วัดอินทรวิหาร ได้สร้าง “ท้าวมหาพรหม” ปางประทานพร เพื่อเป็นที่สักการะระลึกธรรมด้วย พรหมวิหาร 4 และสถิตดำรงอริยบุคคลประกอบด้วยขั้น 1. พระโสดาบัน 2.พระสกทาคา 3.พระอนาคามี 4. พระอรหันต์ และ 5.พระโพธิญาณ ตามคติแนวทางของพระพุทธศาสนา จารึกในไตรภูมิพระร่วง และเป็นจุด Landmark ของที่ตั้ง ณ “บางขุนพรหม” ช่วงนี้ กทม.กำลังเร่งดำเนินการให้เปิดศูนย์พักคอยเพื่อให้ผู้ติดเชื้อแยกตัวออกจากครอบครัว และชุมชน เข้าสู่ระบบการรักษาให้ได้เร็วที่สุด เพื่อลดการระบาด และลดอัตราการเกิดความสูญเสีย โดยเมื่อวานนี้ ผู้ว่าฯกทม. พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง เป็นประธานเปิดศูนย์พักคอย วัดศรีสุดาราม เขตบางกอกน้อย กทม ซึ่งพระเทพประสิทธิมนต์ เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เมตตาให้ใช้ศาลารัตนวิจิตร เป็นศูนย์พักคอยดูแลผู้ป่วย เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น และให้ยารักษาตามอาการ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประสานส่งต่อผู้ป่วยเข้ารักษาใน รพ. เมื่อมีอาการมากขึ้น เช่นเดียวกับที่วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตพระนคร จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ เขตพระนคร(community Isolation) ในชุมชน เพื่อแยกกักผู้ติดเชื้อโควิด-19 สีเขียว ที่ไม่มีอาการ ให้พักแยกกับคนในครอบครัว ระหว่างรอการนำส่งโรงพยาบาล ณ อาคารปฏิบัติธรรม วัดอินทร วิหาร (ซึ่งพื้นที่คนละส่วนกับวัด มีรั้วรอบขอบชิด และเจ้าหน้าที่ดูแลเคร่งครัด) ...ทั้งนี้ ผู้ป่วยยืนยันที่ไม่สะดวกในการกักตัวที่บ้าน สามารถติดต่อสำนักงานเขต หรือสายด่วน ศูนย์เอราวัณ 1669 เพื่อเข้าศูนย์พักคอยใกล้บ้าน เหรียญเจริญพรมหาเศรษฐี หลวงปู่ทองดํา อินทวังโส จัดสร้างในวาระ รอบอายุ 90 ปี เพื่อจะนำเงินรายได้จากการบูชา ไปสร้างพระมหาเศรษฐี 9 หน้า องค์ใหญ่และวิหารพระมหาเศรษฐี 9 หน้าองค์ใหญ่ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ หนึ่งในพระเครื่องสายบุญ เจตนาชัดเจนเพื่อสร้างบุญ สร้างถาวรวัตถุฝากไว้ในพระพุทธศาสนา โดยมีวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่า บูชาเกิดพุทธคุณ เก็บสะสมไว้มีอนาคต "นายกล้า เกษสุรินทร์ชัย” คนวงการพระเครื่องเรียกว่า “เสี่ยกล้า” ประธานชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม จัดทำโครงการ “ศูนย์หลักทรัพย์พระเครื่อง” คนสะสมมีวัตถุ มงคลเหรียญพระเครื่องเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เหมือนท่านมีที่ดิน ที่มีใบโฉนด พร้อมทุกเวลาที่ท่านจะนำทรัพย์สินนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างไรก็ได้ ต้องการเงินด่วนชั่วคราว โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยภายใน 10 วัน วงเงินให้ยืมไม่เกิน 100,000 บาท ต่อเดือน ชมรมนี้ประกอบด้วยกลุ่มสมาชิกที่ต้องการช่วยเหลือนักนิยมสะสมพระเครื่องในบางเวลาเท่านั้น ศูนย์หลักทรัพย์พระเครื่อง” มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อใหญ่คือ 1. ยินดีรับวัตถุมงคลทุกวัด ทุกรุ่น ทุกหลวงพ่อ ทั่วประเทศ 2.สร้างความมีมาตรฐานหลักสากลและยุติธรรม ให้รู้ว่า “พระแท้ เป็นหลักทรัพย์ ได้แน่นอน” 3.ให้ความรู้ความเข้าใจ วัตถุมงคลที่จัดเข้าอยู่ในรายการของศูนย์หลักทรัพย์พระเครื่อง ไม่รู้เรื่องพระเครื่อง ไม่เข้าใจถามชมรมมีคำตอบให้ สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ 086-9954190 098-829 5253...สวัสดี "นายขุนโหร"









 
 
 

Comentarios


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page