ตำนานชีวิต100ปี"หลวงปู่ขันธ์ สิริวณฺโณ"
เกจิอายุยืนวัดมงคลโสภิต(ต้นสน)แปดริ้ว
ศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์มั่น
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมย้อนตำนานชีวิต น้อมถวายความอาลัยในการจากไปของ พระราชมงคลวชิรโสภิต หรือ"หลวงปู่ขันธ์ สิริวณฺโณ" ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต (วัดต้นสน) ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อเวลา 23.16 น. วันที่ 19 ส.ค. 2566 สิริอายุ 100 ปี 80 พรรษา
ท่านศิษย์สายพระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์ที่สำคัญหลายรูป เช่น หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม และหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ เป็นพระสายวิปัสสนาแห่งกองทัพธรรม ผู้เดินธุดงค์มาแล้วทั่วไทย เหนือใต้ออกตก
ท่านเกิดในสกุล "คงสาคร" เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ค. 2466 ที่บ้านหมู่ที่ 1 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ออกมาช่วยงานครอบครัว
เมื่ออายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 เม.ย.2486 ที่วัดโพธาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระครูวิจารณ์ธรรมานุวัตร วัดโพธาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบู่ วัดประเวศวัฒนาราม อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แม้น วัดโพธาราม ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จากนั้นอยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมรับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิทยาคม สำเร็จนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก สำนักเรียนวัดมงคลโสภิต อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ต่อมา กราบพระอุปัชฌาย์ออกท่องธุดงค์แสวงวิเวกประพฤติธรรมไปในที่ต่างๆ ตัดสินใจออกสะพายย่ามแบกกลดเดินทางออกจากวัด ตามแบบพระธรรมยุต มุ่งศึกษาแนวทางปฏิบัติตามแบบอย่างบูรพาจารย์สายพระป่าพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ท่านได้ฝากตัวเรียนด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานกับศิษย์สายพระอาจารย์มั่นรูปสำคัญหลายรูป เช่น หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล, หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง, หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม นอกจากนี้ ยังธุดงค์ไปศึกษาวิปัสสนากับท่านพุทธทาส ณ สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฏร์ธานี อีกด้วย
ในช่วงถือธุดงควัตรนั้น ท่านเล่าย้อนอดีตให้ฟัง ว่า ถือธุดงค์วัตรนั้นเป็นไปอย่างอุกฤษฏ์ ได้บุกป่าฝ่าดงไปมาเกือบทั่วประเทศ มีครั้งหนึ่ง เข้าไปเจริญภาวนาในถ้ำ พอออกจากถ้ำจะไปบิณฑบาต พบเสือแม่ลูกอ่อนที่ปากถ้ำ ต่างจ้องตากันอยู่ จิตตอนนั้นไม่คิดกลัว มีแต่การกำหนดรู้เท่านั้น ไม่นานเสือแม่ลูกอ่อน ก็กระโดดหายไปในป่าลึก”
นอกจากนี้ มีสติปัญญาดีเลิศ มีความจำได้แม่นยำมาก สามารถท่องสวดปาติโมกข์ โดยลำพังรูปเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ครั้งหนึ่งอยู่อบรมพระกัมมัฏฐานกับศิษย์สายหลวงปู่มั่น
ครั้นพอถึงวาระสวดปาติโมกข์ ปรากฏว่า พระภิกษุในอุโบสถนั้น ไม่มีรูปใดสวดได้ ท่านต้องขึ้นสวดปาติโมกข์ ในท่ามกลางพระสงฆ์ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น โดยมีหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ จ.นครพนม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งเป็นศิษย์อาวุโสของหลวงปู่มั่นเป็นประธานสงฆ์
ต่อมา เดินทางกลับวัด คอยช่วยเหลืองานศาสนกิจภายในวัด พ.ศ.2488 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมวัดมงคลโสภิต จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต ในปี พ.ศ.2511
ในปี 2490 หลวงปู่ขันธ์ จำพรรษาที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ได้ปฏิบัติธรรมและเป็นครูสอนนักธรรมอยู่ประมาณ 2 ปี ต่อมาในปี 2501 ได้รับการแต่งตั้งให้พระวิปัสนาจารย์ไปเผยแพร่การปฏิบัติธรรมในสถานที่ต่างๆ
หลวงปู่ขันธ์ ได้รับแตงตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดมงคลโสภิต(ต้นสน) เมื่อปี 2512 ได้รับพระราชทานยศเป็นพระครูชั้นประทวนเมื่อปี 2517 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีเมื่อปี 2520 จากนั้น และได้เลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทในพระราชทินนามว่า พระครูโสภิตมงคลการในปี 2528 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลเทพราช เมื่อปี 2535 และในปีถัดมา ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2523ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวรวิหาร ให้เป็นกรรมการอบรมประชาชนประจำตำบล พ.ศ.2535 เป็นเจ้าคณะตำบลเทพราช ในระหว่างนี้ หลวงปู่ขันธ์ได้ให้กำเนิดธุดงคสถานเขาพระครูหลวงพ่อขันธ์ หมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ชั่วคราวของพระธุดงค์
พ.ศ.2536 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2546 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเทพราช ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2520 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่"พระครูโสภิตมงคลการ" พ.ศ.2528 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2544 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2552 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามเดิม 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชมงคลวชิรโสภิต"
แม้จะเป็นพระสงฆ์ในฝ่ายมหานิกาย แต่หลวงปู่ขันธ์ มีเชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป็นยิ่งนัก ดังปรากฏว่า ได้รับพระราชทานพัดยศขาว และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยเป็นหนึ่งในพระเถระเมืองแปดริ้วที่ได้รับการยกย่องว่าเคร่งครัดระเบียบวินัย ใส่ใจกัมมัฏฐาน มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ
Comments