top of page
ค้นหา

“ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ” พระเกจิ2แผ่นดิน

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 4 ม.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

ปี2564 มาน้อมนำรำลึกถึงคุณงามความดี พระเกจิชื่อดัง มีอายุพรรษาอาวุโสท่านเพิ่งละสังขารไปเมื่อปี 25 63 นำประวัติของแต่ละท่านมาบันทึกไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเคารพกราบไหว้บูชาขอพร

“ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ” พระเกจิ2แผ่นดิน วัดคลองจาก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด “เสือซ่อนเล็บแห่งเกาะกง”ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และอดีตประธานสงฆ์วัดคลองจาก จ.ตราด หรือพระเกจิสองแผ่นดิน(ไทย-กัมพูชา ) สิริอายุ 96 ปี พรรษา 33 ท่านก๋งเตื่องเกจิอาจารย์ขลังฝั่งทะเลบูรพาสองแผ่นดิน (ไทย-เขมร) ผู้สืบทอดวิชาอาคมมาจาก “หลวงปู่รอด” วัดมรคาราม (พนมกรุง) เกาะกง เป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดระดับผู้นำประเทศกัมพูชายังศรัทธาและนับถือก๋งเตื่องมาก เคยจัดสร้างและนำวัตถุมงคลของท่านไปแจกจ่ายสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารหาญและประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และบนเกาะกงหลายครั้ง

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2466 เดิมชื่อ “นายเตื่อง” อาศัยอยู่ในตำบลเเหลมเปาะ ในเขตจังหวัดเกาะกง ชาวบ้านที่นั่นพูดภาษาไทย ท่านมีพี่น้องหลายคน ชาวเกาะกงสมัยนั้นส่วนมากก็มีอาชีพทำไรทำนา มีทำประมงบ้างไม่มาก สมัยนั้นพระเกจิมีด้วยกัน3ท่านคือ ท่านก๋งหมึก ท่านพ่อเวียน วัดประชุมชน ท่านพ่อรอด วัดมรคาราม(วัดพนมกรุง)

ช่วงอายุ 22 ปี ได้อุปสมบทโดยมี หลวงพ่อรอด วัดมรคาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยศึกษาพระธรรมวินัย พระธรรมคำสั่งสอน และวิชาอาคมต่างๆจนจนแตกฉาน จากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะบวชได้ 2 พรรษา ด้วยความยากจนของทางบ้านและครอบครัว จึงสิกขาบทออกมาเป็นผู้นำชุมชนให้กับฝ่ายรัฐบาล ประเทศเขมรในขณะนั้น และมีครอบครัว

จนกระทั่งช่วงอายุ 63 ปี เมื่อท่านเห็นว่าครอบครัวมีความสุขสบายและลูกเติบโตจนช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงกลับเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพักตร์อีกครั้ง โดยไปกราบขอ “ท่านพ่อเลี่ยน” เจ้าอาวาสวัดเเหลมเปาะ ให้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ และอยู่จำพรรษาที่วัดเเหลมเปาะเป็นเวลา 10 กว่าพรรษา โดยเริ่มนำวิชาความรู้ที่ท่านได้ร่ำเรียนกับหลวงพ่อรอด มาทำตะกรุดและลูกอมแจกลูกหลานและชาวบ้าน แหลมเปาะ ขณะนั้นตะกรุด มีประสบการณ์จนเป็นที่ล่ำลือและเป็นที่ต้องการมากในหมู่คนเเหลมเปาะและชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ในปีพ.ศ. 2540 ท่านก๋งเตื่องมาเยี่ยมเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังอาพาธ และได้รับการฝากฝังให้รับเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงสืบต่อ หากว่าท่านต้องมรณภาพลง ท่านก๋งเตื่องก็ตกลงรับปาก จนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงมรณภาพ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง เเละกระทรวงธรรมการ จึงถวายการเเต่งตั้ง ท่านก๋งเตื่องให้ดำรงตำเเหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงมาตลอด

กระทั่งปีพ.ศ.2548 ท่านก๋งเตื่องเริ่มอาพาธด้วยอาการเหน็บชาที่ขาจึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง แล้วย้ายมาจำพรรษาในประเทศ ไทยที่วัดคลองจาก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งลูกหลานท่านก็ได้ตั้งรากฐานอยู่ที่หมู่บ้านคลองจากด้วย แต่ท่านก็ไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงว่าจะช่วยดูแลวัดแห่งนี้ ท่านจึงไม่ละทิ้งที่จะกลับไปดูแลวัดคลองม่วงแม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านก๋งเตื่องทั้งในนามวัดคลองม่วงและวัดคลองจาก

ท่านก๋งเตื่องได้รับการนับถือจากเจ้าอาวาสวัดคลองจากให้เป็นประธานสงฆ์วัดคลองจาก โดยท่านไม่ลืมที่จะทำวัตถุมงคลโดยเฉพาะตะกรุด แจกชาวบ้านคลองจากและชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จนมีประสบการณ์พุทธาคมมากมายหลายครั้ง ทำให้ทุกคนต่างยกย่องนับถือท่านว่าเป็น “พระเกจิสองแผ่นดิน(ไทย-เขมร)”

ท่านก๋งเตื่องกลายเป็นที่กล่าวขานกันมากถึงความเป็นพระผู้มีวิชาอาคมขลัง มีวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก เป็นที่ยึดมั่นของลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพ่อค้า ส่งผลให้วัตถุมงคลของท่านหลายๆรุ่นหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรุ่นแรก ตะกรุด ปรกชนะมาร รูปหล่อ เหรียญเสมา ฯลฯ และทุกรุ่นเปี่ยมด้วยพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งด้านเมตตามมหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นทุกแบบล้วนเป็นที่หมายปองของลูกศิษย์และนักสะสมทั้งในพื้นที่และส่วนกลางอย่างกรุงเทพฯ คนพื้นที่ในจ.ตราด โดยเฉพาะอ.คลองใหญ่ ล่วงรู้ถึงกิตติศัพท์ของท่านเป็นอย่างดีว่า พระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก โดยเฉพาะ “ตะกรุดจารมือ”ของท่านนั้น มีพุทธคุณดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด เล่าขานกันไม่รู้จบ ถึงขนาดตั้งฉายาท่านว่า “เกจิเสือซ่อนเล็บแห่งเกาะกง”

 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page