top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนอ.อนุชา ทรงศิริ

“ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ” พระเกจิ2แผ่นดิน


ปี2564 มาน้อมนำรำลึกถึงคุณงามความดี พระเกจิชื่อดัง มีอายุพรรษาอาวุโสท่านเพิ่งละสังขารไปเมื่อปี 25 63 นำประวัติของแต่ละท่านมาบันทึกไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเคารพกราบไหว้บูชาขอพร

“ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ” พระเกจิ2แผ่นดิน วัดคลองจาก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด “เสือซ่อนเล็บแห่งเกาะกง”ท่านก๋งเตื่อง เตชปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และอดีตประธานสงฆ์วัดคลองจาก จ.ตราด หรือพระเกจิสองแผ่นดิน(ไทย-กัมพูชา ) สิริอายุ 96 ปี พรรษา 33 ท่านก๋งเตื่องเกจิอาจารย์ขลังฝั่งทะเลบูรพาสองแผ่นดิน (ไทย-เขมร) ผู้สืบทอดวิชาอาคมมาจาก “หลวงปู่รอด” วัดมรคาราม (พนมกรุง) เกาะกง เป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดระดับผู้นำประเทศกัมพูชายังศรัทธาและนับถือก๋งเตื่องมาก เคยจัดสร้างและนำวัตถุมงคลของท่านไปแจกจ่ายสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารหาญและประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และบนเกาะกงหลายครั้ง

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2466 เดิมชื่อ “นายเตื่อง” อาศัยอยู่ในตำบลเเหลมเปาะ ในเขตจังหวัดเกาะกง ชาวบ้านที่นั่นพูดภาษาไทย ท่านมีพี่น้องหลายคน ชาวเกาะกงสมัยนั้นส่วนมากก็มีอาชีพทำไรทำนา มีทำประมงบ้างไม่มาก สมัยนั้นพระเกจิมีด้วยกัน3ท่านคือ ท่านก๋งหมึก ท่านพ่อเวียน วัดประชุมชน ท่านพ่อรอด วัดมรคาราม(วัดพนมกรุง)

ช่วงอายุ 22 ปี ได้อุปสมบทโดยมี หลวงพ่อรอด วัดมรคาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยศึกษาพระธรรมวินัย พระธรรมคำสั่งสอน และวิชาอาคมต่างๆจนจนแตกฉาน จากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะบวชได้ 2 พรรษา ด้วยความยากจนของทางบ้านและครอบครัว จึงสิกขาบทออกมาเป็นผู้นำชุมชนให้กับฝ่ายรัฐบาล ประเทศเขมรในขณะนั้น และมีครอบครัว

จนกระทั่งช่วงอายุ 63 ปี เมื่อท่านเห็นว่าครอบครัวมีความสุขสบายและลูกเติบโตจนช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงกลับเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพักตร์อีกครั้ง โดยไปกราบขอ “ท่านพ่อเลี่ยน” เจ้าอาวาสวัดเเหลมเปาะ ให้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ และอยู่จำพรรษาที่วัดเเหลมเปาะเป็นเวลา 10 กว่าพรรษา โดยเริ่มนำวิชาความรู้ที่ท่านได้ร่ำเรียนกับหลวงพ่อรอด มาทำตะกรุดและลูกอมแจกลูกหลานและชาวบ้าน แหลมเปาะ ขณะนั้นตะกรุด มีประสบการณ์จนเป็นที่ล่ำลือและเป็นที่ต้องการมากในหมู่คนเเหลมเปาะและชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ในปีพ.ศ. 2540 ท่านก๋งเตื่องมาเยี่ยมเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังอาพาธ และได้รับการฝากฝังให้รับเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงสืบต่อ หากว่าท่านต้องมรณภาพลง ท่านก๋งเตื่องก็ตกลงรับปาก จนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงมรณภาพ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง เเละกระทรวงธรรมการ จึงถวายการเเต่งตั้ง ท่านก๋งเตื่องให้ดำรงตำเเหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงมาตลอด

กระทั่งปีพ.ศ.2548 ท่านก๋งเตื่องเริ่มอาพาธด้วยอาการเหน็บชาที่ขาจึงสละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองม่วง แล้วย้ายมาจำพรรษาในประเทศ ไทยที่วัดคลองจาก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งลูกหลานท่านก็ได้ตั้งรากฐานอยู่ที่หมู่บ้านคลองจากด้วย แต่ท่านก็ไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับอดีตเจ้าอาวาสวัดคลองม่วงว่าจะช่วยดูแลวัดแห่งนี้ ท่านจึงไม่ละทิ้งที่จะกลับไปดูแลวัดคลองม่วงแม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านก๋งเตื่องทั้งในนามวัดคลองม่วงและวัดคลองจาก

ท่านก๋งเตื่องได้รับการนับถือจากเจ้าอาวาสวัดคลองจากให้เป็นประธานสงฆ์วัดคลองจาก โดยท่านไม่ลืมที่จะทำวัตถุมงคลโดยเฉพาะตะกรุด แจกชาวบ้านคลองจากและชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จนมีประสบการณ์พุทธาคมมากมายหลายครั้ง ทำให้ทุกคนต่างยกย่องนับถือท่านว่าเป็น “พระเกจิสองแผ่นดิน(ไทย-เขมร)”

ท่านก๋งเตื่องกลายเป็นที่กล่าวขานกันมากถึงความเป็นพระผู้มีวิชาอาคมขลัง มีวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก เป็นที่ยึดมั่นของลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพ่อค้า ส่งผลให้วัตถุมงคลของท่านหลายๆรุ่นหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรุ่นแรก ตะกรุด ปรกชนะมาร รูปหล่อ เหรียญเสมา ฯลฯ และทุกรุ่นเปี่ยมด้วยพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งด้านเมตตามมหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นทุกแบบล้วนเป็นที่หมายปองของลูกศิษย์และนักสะสมทั้งในพื้นที่และส่วนกลางอย่างกรุงเทพฯ คนพื้นที่ในจ.ตราด โดยเฉพาะอ.คลองใหญ่ ล่วงรู้ถึงกิตติศัพท์ของท่านเป็นอย่างดีว่า พระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก โดยเฉพาะ “ตะกรุดจารมือ”ของท่านนั้น มีพุทธคุณดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด เล่าขานกันไม่รู้จบ ถึงขนาดตั้งฉายาท่านว่า “เกจิเสือซ่อนเล็บแห่งเกาะกง”

ดู 158 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page