#คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง ประจำวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค. 2565
"พระอาจารย์นำ"วัดดอนศาลา เกจิดังขมังเวทย์สายเขาอ้อ ปู่แท้ๆ"หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ"
วัดดอนศาลา ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.นครศรีธรรมราช เป็นวัดที่เชื่อมโยงกับสำนักเขาอ้อโดยตรง เจ้าอาวาสวัดดอนศาลามักจะมาจากเขาอ้อ หรือสลับสับเปลี่ยนกันอยู่เสมอๆ อดีตพระคณาจารย์ดังของวัดนี้มีด้วยกันหลายองค์ อาทิ พระครูสิทธิยาภิรัต “พ่อท่านเอียด ปทุมสโร”, พระครูกาชาด (บุญทอง เขมทตฺโต) พระอาจารย์นำ ชินวโร, พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร ปัจจุบันมี “พระมหาอุทัย วิมโล (ปธ.7)” เป็นเจ้าอาวาส
สุดยอดคณาจารย์ดังซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของวัดดอนศาลาที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดก็คือ “พระอาจารย์นำ ชินวโร” ศิษย์เอกของพ่อท่านเอียด
ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน ๙ (สิงหาคม) พ.ศ.๒๔๓๔ ที่บ้านดอนนูด ต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นบุตรของนายเกลี้ยง นางเอียด แก้วจันทร์ มารดาได้เสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเล็กอยู่ (หลังจากคลอดบุตรหญิงคนสุดท้อง) บิดาเป็นอาจารย์ที่เก่งกล้าทางไสยศาสตร์ ดังนั้นพระอาจารย์นำ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชาทางไสยศาสตร์เบื้องต้นแต่เยาว์วัย นอกจากนั้น บิดายังได้นำไปฝากให้ศึกษาวิชาเวทมนตร์คาถากับพระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงมากสมัยนั้น
พระอาจารย์นำอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๐ ปี ณ วัดดอนศาลา มีพระครูอินทรโมฬี วัดปรางหมู่นอก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูดิษฐ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ อยู่ศึกษาวิชาทางธรรมและเวทมนตร์ ฝึกฝนวิปัสสนากับพระครูสิทธยาภิรัตในระหว่างอุปสมบทได้ ๖ พรรษา จึงลาสิกขาแล้วได้สมรสกับนางสาวพุ่ม ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านดอนนูด มีบุตรชายหญิงด้วยกัน 4 คน หากยังคงไปวัดเขาอ้อปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์ทองเฒ่าอยู่เสมอ พร้อมช่วยประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในฐานะศิษย์ฆราวาส
เมื่อพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนศาลาสืบต่อจากพระอาจารย์เกลี้ยง ที่มรณภาพไปเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๐ อาจารย์นำ จึงไปมาหาสู่พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ที่วัดดอนศาลา
ด้วยความคุ้นเคยใกล้ชิดที่มีต่อกัน และได้ช่วยประกอบพิธีกรรมต่างๆ แม้ว่าตอนนั้นพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) จะมีศิษย์ฆราวาสคู่บารมีอยู่แล้ว คือ ผู้ใหญ่ยอดแก้ว แต่ต่อมาเมื่อผู้ใหญ่ยอดแก้วอายุมากขึ้น ภาระหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมสายฆราวาสจึงตกอยู่กับอาจารย์นำเรื่อยมาจนพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) มรณภาพ
ในปีพ.ศ.๒๕๐๕ อาจารย์นำ อายุ ๗๔ ปี ได้ล้มป่วยอาการหนักหนาสาหัสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยากแก่การจะมีชีวิตรอด ถึงขั้นมีการตระเตรียมงานศพไว้รอ แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น เมื่อภาพนิมิตของ พระอาจารย์ทองเฒ่าได้ปรากฏให้เห็น และบอกว่า "หากรับปากจะกลับไปบวชอีกครั้งหนึ่ง อาการป่วยที่เป็นอยู่ก็จะกลับกลายหายเป็นปกติ ทั้งยังมีโอกาสทำนุบำรุงวัดดอนศาลา และพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปในอนาคต"
ครั้นเมื่อท่านรับปากอาการเจ็บป่วยก็ทุเลา และหายเป็นปกติ จากนั้นวันที่ ๕ก.ค. ๒๕๐๖ ท่านจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้งที่วัดดอนศาลา มี พระพุทธิธรรมธาดา วัดสุวรรณวิชัย (วัดกุฏิ) รองเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูกรุณานุรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูกาชาด(บุญทอง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้พำนักจำพรรษาที่วัดดอนศาลา โดยมีลูกศิษย์รูปสำคัญคอยดูแลอย่างใกล้ชิดคือ “พระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร”
พระอาจารย์นำได้ทำประโยชน์หลายอย่าง ที่สำคัญ อาทิ การช่วยเหลือราชการปราบโจรผู้ร้าย ในสมัยที่ท่าน เป็นฆราวาส พ.ศ.2466 มณฑลนครศรีธรรมราชได้ส่งพระยาวิชัยประชาบาลไปปราบโจรผู้ร้ายในจังหวัดพัทลุง ได้ตั้งกองปราบที่บริเวณวัดสุวรรณวิชัย พระอาจารย์นำเป็นกำลังสำคัญในการนำสืบจับโจรผู้ร้าย
นอกจากนี้ ยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ปัจจุบัน ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อพระอาจารย์นำยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จและทรงเยี่ยมอาการป่วยของท่าน โปรดประทับอยู่ในกุฏินานถึง 2 ชั่วโมง
พระอาจารย์นำถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค. ๒๕๑๙ เวลา ๒๒.๐๐ น. สิริอายุได้ ๘๘ ปี ๑๒ พรรษา และในปีพ.ศ.๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ พระราชทานเพลิงศพ และพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร." ประทับด้านหลังเหรียญที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
ทั้งนี้ คนในวงการพระเครื่องและศิษยานุศิษย์ได้รับการ กล่าวขานว่า วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511-2519 ล้วนสร้างประสบการณ์ด้านอภินิหารให้แก่ผู้นําไปอาราธนา บูชาติดตัว โดยกล่าวกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล
เชื่อกันว่าใครมีวัตถุมงคลของท่านหากอยู่ในศีลในธรรม และขยัน ทํามาหากินในการประกอบสัมมาชีพชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง ไปไหนมีแต่คนเมตตา และจะไม่มีวันตายโหง ทําให้วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้เป็นที่นิยมของนักสะสมและสนนราคาในตลาดพระเครื่องขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับพระเกจิดังขมังเวทย์สายเขาอ้อในยุคปัจจุบันที่มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆของพระอาจารย์นำก็คือ "หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ" แห่งสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมบ้านใสหลวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อีกทั้งเป็นศิษย์สายตรงสืบทอดพุทธาคมจาก 2เสาหลักแห่งสำนักเขาอ้อคือ พระครูรัตนาภิรัตน์ หรือ"ตาหลวงเน" วัดควนปันตาราม และพระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม วัดเขาอ้อ
Commentaires