top of page
ค้นหา

พระกริ่งพุทโธปี53-กระแสแรงหลวงปู่วาสเสก

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 14 มี.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที








พกติดตัวแช่ทำน้ำมนต์จขัดโรคภัย ผ่านพิธีสุดเข้มขลังวัดอาวุธวิกสิตาราม “ท่านเจ้าคุณธงชัย”เป็นประธานในพิธี พระเกจิชื่อดัง-หลวงปู่วาสร่วมนั่งปรก ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า ห้วงนี้วัตถุมงคลประเภท “พระกริ่ง” กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เสาะแสวงหาไว้บูชาอาราธนาติดตัว และไว้ทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับดื่มกินและประพรมตามตัวและสิ่งของเพื่อความเป็นสิริมงคล ค้าขายร่ำรวย โชคลาภ นักสะสมถามหากันอย่างมาก “พระกริ่งพุทโธกลาง” วัดอาวุธวิกสิตาราม ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 72 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างมาแล้วประมาณ 200 ปี เริ่มต้นจากได้มีพระและชาวบ้านจำนวนหนึ่งอพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อ ครั้งกรุงแตกพ.ศ.2310 ได้มาตั้งรกรากถิ่นฐานที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาปี 2422 จึงได้ตั้งเป็นวัดขึ้น สร้างกุฏิเสนาสนะขึ้นหลายหลัง เดิมทีเป็นวัดในสังกัดมหานิกาย

วัดอาวุธวิกสิตารามด้วยปรารภเหตุที่พระและชาวบ้านได้ อพยพพลัดถิ่นมาจากกรุงศรีอยุธยานี้เอง จึงได้เรียกสถานที่ตรงนี้ว่า "บางพลัด" ครั้งแรกชาวบ้านเรียกว่า "วัดปากคลองบางพลัด" หรือ "วัดบางพลัดนอก" เพราะตั้งอยู่ตรงปากคลองบางพลัด แม้ในปัจจุบันนี้ชาวบ้านก็ยังนิยมเรียกกันว่า "วัดบางพลัดนอก" อยู่ และนิยมเรียกวัดบางพลัด ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของวัดอาวุธฯว่าวัดบางพลัดใน

ต่อมาปี พ.ศ.2438พระอาจารย์สี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น ท่านเป็นพระนักวิปัสสนารูปหนึ่ง มีความเคารพนับถือกับพันเอกพระยาอาวุธภัณฑ์เผด็จ (ท้วม) เจ้ากรมคลังแสงในรัชกาลที่ 5 นำเข้าเฝ้า สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทูลขอแปลงวัดปากคลองบางพลัดเป็นวัดธรรมยุต

สมเด็จพระมหาสมณะเจ้าฯ ทรงเห็นชอบด้วย และตรัสสั่งให้พันเอกพระยาอาวุธภัณฑ์เผด็จ เป็นผู้อุปถัมภ์บูรณปฏิ สังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรม ท่านได้บริจาคทรัพย์พร้อมด้วยญาติมิตรลงมือซ่อมแซมกุฏิหอสวดมนต์ สร้างศาลาการเปรียญ และได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่แล้วจึงขอพระราชทานวิสุงคามสีมา แปลงเป็นวัดธรรมยุต พร้อมนำความกราบทูลขอพระราชทานนามวัดใหม่ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดอาวุธวิกสิตาราม" ในปี พ.ศ.2441มีความหมายว่า "วัดพระยาอาวุธฯ และคุณหญิงแย้มฯ" (เป็นผู้บูรณปฏิสังขรณ์) จึงได้ชื่อว่า "วัดอาวุธวิกสิตาราม" ปัจจุบันมี "พระเทพปัญญาจารย์" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม

วัดอาวุธวิกสิตาราม ได้จัดงานมงคลยิ่งใหญ่ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก "พระกริ่งพุทโธ" ซึ่งจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก ณ พระอุโบสถวัดอาวุธฯ เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสกคือ พระกริ่งพุทโธใหญ่ พระพุทโธกลาง และ พระชัยวัฒน์พุทโธน้อย พิธีจักรพรรดิพุทธาภิเษกเป็นพิธีที่ใหญ่มาก ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถาและพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษกครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ 1และได้มีการกระทำพิธีนี้อีกเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2515ในสมัยรัชกาลที่ 9 หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏว่ากระทำพิธีนี้อีกเลย

วัดอาวุธวิกสิตารามพระเทพปัญญามุนี กล่าวว่า พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษกนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งในปัจจุบันนี้จะหาผู้ที่ทรงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีจักรพรรดิมหา พุทธาภิเษกนั้นมีน้อย แต่ยังโชคดีที่ปัจจุบันนี้ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงความรู้ความสามารถแตกฉานในตำราพระเวทต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วประเทศ ท่านเป็นเจ้าพิธีจักร พรรดิพุทธาภิเษก ซึ่งจัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 19-21พ.ย.2553

พระคณาจารย์ชื่อดัง ร่วมพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกพร้อมกับพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร เป่ายันต์โสฬสมหามงคลโดย หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี เป็นเจ้าพิธี และสวดภาณยักษ์ใหญ่ตลอดทั้ง 3 วัน มีการจัดทำบุญตักบาตรพระ กรรมฐาน เช่น หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร หลวงปู่บุญพิน หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่แปลง วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร พระครูอุดมญาณโสภณ วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม จ.สกลนคร หลวงพ่อวงศ์ สภาจาโร วัดป่าคำพระองค์ จ.หนองคาย พระอาจารย์เฉลิม วัดป่าภูแปลก จ.เลย พระอาจารย์วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย สนใจสอบถามบูชาได้ที่เพจร้านแดงเอกคัมภีร์ หรือบูชาที่ร้านเอกคัมภีร์ ข้างวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี

 
 
 

Comentários


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page