top of page
ค้นหา

พระปิดตา๐๘/ปิดตาเลือดหลวงพ่อหล่ำ พระเกจิชื่อดัง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 21 ก.ย. 2564
  • ยาว 1 นาที

พระปิดตา๐๘/ปิดตาเลือด หลวงพ่อหล่ำ พระเกจิชื่อดัง

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอเรื่องราว พระเครื่องหรือเครื่องรางที่ หลวงพ่อหล่ำ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดสามัคคีธรรม กรุงเทพฯ สร้างไว้ ได้รับความนิยมมากมาย

เนื่องมาจากหลวงพ่อหล่ำ ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากอาจารย์หลายรูป ซึ่งแต่ละรูปล้วนแล้วแต่มีพลังจิตที่แก่กล้าทั้งสิ้น

และ “พระปิดตา” ที่ศิษยานุศิษย์ ต่างหวงแหนเป็นอย่างมากก็คือ “พระปิดตา๐๘” หรือลูกศิษย์มักเรียกกันว่า “ปิดตาเลือด” ที่สร้างเมื่อครั้งอยู่วัดคลองบางปิ้ง ในปี ๒๕๐๘ การสร้างพระปิดตารุ่นนี้นับเป็นพระปิดตารุ่นแรกของท่าน มี ๓ พิมพ์ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก และยังมีพระอีก ๒ พิมพ์คือ พระพิมพ์พระสังกัจจายน์ และพระพิมพ์พระเชตุพน ซึ่งทั้ง ๒ พิมพ์นี้คือพระสังกัจจายน์และพระเชตุพลนี้ ต้องถือว่าเป็นพิมพ์พิเศษเนื่องจากสร้างไว้จำนวนไม่มาก

พระทั้ง ๕ พิมพ์นี้ สร้างโดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อหาทุนในการปฎิสังขรณ์วัด คือแจกไปแล้วแต่ ใครอยากจะทำบุญ มวลสารที่นำมาสร้างนั้น นอกจากว่านยาและเกสรดอกไม้ต่างๆที่ท่านได้รวบรวมตั้งแต่ครั้งธุดงค์แล้ว

หลวงพ่อหล่ำยังพลีเลือดของท่าน (ประมาณครึ่งขวดน้ำ) เพื่อเป็นส่วนผสมของพระ แล้วนำผสมลงไปในเนื้อพระ อันเป็นเคล็ดของหลวงพ่อหล่ำว่าได้สละของรักในตัวคือ เลือด ขอให้การเสียสละนี้นำมาซึ่งความเมตตา ปรองดองกันระหว่างผู้มีพระของท่านกับผู้อื่น ดุจที่ท่านมีเมตตาสละเลือดผสมลงไปในเนื้อพระ พระชุดนี้ได้มีการปิดทองไว้ทุกองค์

พระปิดตารุ่นนี้จึงเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดาลูกศิษย์ของท่านเป็นอย่างมาก เพราะต่างคนต่างได้ทราบกิตติศัพท์ความขลัง และปาฏิหาริย์ต่างๆ จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้พระปิดตารุ่นนี้ จึงกลาย เป็นวัตถุมงคลที่หายากและมีราคาสูง

ข้อมูลจาก พระลูกศิษย์ที่ร่วมยุคในสมัยนั้น รวมถึงสอบถามจากหลวงพ่อหล่ำแล้ว ท่านเคยเล่าไว้ว่า ที่บอกว่าปิดตารุ่นนี้ใช้ว่าน ๑๐๘ เกสร ๑๐๘ เป็นส่วนผสมนั้น ที่จริงแล้ว มวลสารแต่ละอย่าง เกิน ๑๐๘ เกือบ ๓๐๐ ชนิด เพราะช่วงที่เดินธุดงค์ไปนั้น เอาเฉพาะแค่เกสรที่เก็บ แล้วก็จดบันทึกไว้ ก็เกิน๑๐๘ แล้วยังมาหาเพิ่มเติมอีก อีกทั้งพระปิดตารุ่นนี้ ไม่ว่าไปประกวดที่ไหนก็มักจะได้รับรางวัล ไม่ที่ ๑ ก็ที่ ๒ หรือที่ ๓

หลวงพ่อหล่ำไม่ได้สร้างพระปิดตาแค่ปี ๐๘ เท่านั้น ยังสร้างอีกหลายรุ่น แต่รุ่นที่สร้างมากที่สุดคือรุ่นฝังใต้โบสถ์และฝังใต้เสมาวัดสามัคคีธรรม โดยสร้างเป็นจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นพระปิดตาเนื้อดินเผา ฝังไว้เมื่อตอนฉลองโบสถ์ปี ๒๕๓๐

-แต่เมื่อปี ๒๕๔๘ ได้มีการยกโบสถ์ให้สูงขึ้น ยกเสมาให้สูงขึ้น เมื่อมีการเคลื่อนย้ายเสมา จึงทำให้ใหที่บรรจุพระปิดตานั้นแตกไปบางส่วน เมื่อหลวงพ่อหล่ำทราบจึงได้ให้นำพระปิดตามาเพื่อจะให้ประชาชนได้บูชาและนำรายได้มาสบทบทุนในการยกโบสถ์ครั้งนั้น












 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page