top of page
ค้นหา

"พระอาจารย์น๊อต"วัดตึกหิรัญราษฎร์เกจิหนุ่มนักพัฒนา-เมตตาอาคมขลัง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 13 ส.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

"พระอาจารย์น๊อต"วัดตึกหิรัญราษฎร์ เกจิหนุ่มนักพัฒนา-เมตตาอาคมขลัง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของ พระอาจารย์น๊อต พระเกจิอาจารย์หนุ่มชื่อดังแห่งวัดตึกหิรัญราษฎร์ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สถานธรรมแห่งนี้ในสมัยยังไม่ได้สร้างเป็นวัด รัชกาลที่5เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลราชบุรี ในปี2438 พระองค์เคยมาประทับที่ตึกหรือวังหลังใหญ่อันเป็นที่มาของชื่อวัด ในอดีตถือว่าวัดนี้เป็นสำนักตักศิลาแห่งหนึ่งซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่ามีเกจิอาจารย์ดังหลายองค์ อาทิ หลวงปู่อ่อน อินทสุวณฺโณ ปฐมเจ้าอาวาส,หลวงปู่เหลือบ วรธัมโม ฯลฯ

ปัจจุบันมีเกจิอาจารย์ดังคือ พระอาจารย์กำพล อตฺถกาโม หรือที่เรียกขานกันว่า "พระอาจารย์น็อต" หรือ"หลวงพี่น๊อต" ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านแถบนี้ และจังหวัดใกล้เคียงเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2525 ช่วงวัยเยาว์ของพระอาจารย์น๊อต ใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กบ้านนอกทั่วไป แต่ที่แปลกคือท่านมีความสนใจในพระพุทธศาสนา ต่างจากเด็กในรุ่นๆเดียวกันที่เล่นยิงนกตกปลา โดยจะติดตามบิดามารดา หรือปูย่าตายายเข้าวัดเกือบทุกวันเพื่อสวดมนต์ ไหว้พระ ปัดกวาดเช็ดถูจนเป็นที่ประจักษ์และชินตาของชาวบ้านแถวนั้น

ท่านเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตน และสนใจศึกษาในธรรมะ เมื่ออายุ 10 ขวบได้เห็น"ตาเสงี่ยม" ซึ่งชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาและทราบถึงกิตติศัพท์ว่าเป็นคนมีวิชาอาคม โดยตาเสงี่ยมได้ท่องมนต์สวดคาถาอาคมอยู่ใต้ต้นไม้ที่วัดตึกฯเป็นประจำทุกวัน ท่านเกิดความสนใจในเรื่องคาถาอาคม จึงไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งปกติตาเสงี่ยมไม่ค่อยยอมรับใครเป็นศิษย์ อีกทั้งเด็กในหมู่บ้านก็ไม่มีใครสนใจในด้านนี้

แต่พระอาจารย์น็อตไม่ละความพยายามได้ช่วยดูแล ปรนิบัติรับใช้จนตาเสงี่ยมใจอ่อนรับเป็นศิษย์สั่งสอนวิชาอาคมให้ ซึ่งตาเสงี่ยมนั้นเป็นน้องของ"อาจารย์บุญรอด"หมอคาถาอาคมในหมู่บ้านซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่เหลือบ อดีตเจ้าอาวาสวัดตึก" หลังจากนั้นท่านก็เริ่มสนใจเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมมาตลอด

ต่อมาท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ "พระอาจารย์ผัน สิริวัฒโน" อาจารย์สักยันต์ที่เก่งทางด้านวิชาอาคมอักขระเลขยันต์ และเป็นหนึ่งในอาจารย์ของจอมโจรชื่อดัง"ตี๋ใหญ่"โดยอาจารย์ผันได้สักยันต์ให้ตี๋ใหญ่ในสมัยก่อนจนมีชื่อโด่งดังเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด

พระอาจารย์น๊อต อายุ 18 ปี ได้บวชเณรเมื่อปีพ.ศ.2542 โดยมี พระครูมงคลพิสิษฐ์ วัดสนามชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบรรพชาเป็นสามเณรแล้วได้ อยู่กับพระอาจารย์ผันและศึกษาวิชาอาคมต่างๆ รวมทั้งเรียนวิชาสักยันต์ตั้งแต่นั้นมา จนกรัทั่งช่วงหนึ่งทางวัดตึกฯขาดสัปเหร่อ ท่านจึงเรียนวิชาสัปเหร่อและได้เป็นสัปเหร่อทำหน้าที่มาตั้งแต่เป็นสามเณร ในปี2542 เป็นต้นมา โดยได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆมากมายจากวิญญาณผู้ตายแต่ละคนที่แตกต่างกันไป แต่ท่านก็ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาดำเนินการจนเสร็จสิ้นในเรื่องพิธีกรรมของสัปเหร่ออย่างเรียบร้อยทุกศพไป

ในปีพ.ศ.2544 ท่านได้อุปสมบทที่วัดตึกฯโดยมี พระครูประโชติธรรมาภิรัตน์ เจ้าอาวาสวัดมณีโชติ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนทางธรรม และเปิดสำนักสักยันต์ที่วัดเพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ที่ต้องการสักยันต์เรื่อยมา จนถึงปี2546ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ"พระอาจารย์ต้อย" วัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จนเรียนจบและมีความเข้าใจเรื่องการลงอักขระและการสักเป็นอย่างดี อาจารย์ต้อยจึงได้มอบเข็มสักมาให้พร้อมกับครอบครูและให้กลับมาสักที่วัดตึกฯ โดยที่อาจารย์ต้อยจะเดินทางมาหาท่านเป็นประจำ นอกจากนี้ ยังได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์ติ่ง วัดบางพระ อีกด้วย

ในส่วนวิชาอาคมต่างๆ ท่านได้ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองจากตำราโบราณสมุดข่อย เป็นตำราพระเวทของสายวัดประดู่ทรงธรรม ที่หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ได้เรียนมาซึ่งเป็นตำราเก่าที่รวมกันกับตำราของหลวงปู่อ่อน อดีตเจ้าอาวาสวัดตึกองค์แรก

ในปี 2552 มีเหตุในทางโลกที่ท่านต้องดูแล ทำให้ต้องลาสิกขาออกมา ในช่วงนี้ท่านก็ฝึกสมาธิและวิชาอาคมที่ได้เล่าเรียนมาช่วยเหลือชาวบ้าน โดยทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อวัดตึกและเป็นหมอธรรมรักษาโรคให้ชาวบ้านในละแวกนั้น เช่น งูสวัส ฝี หรือเริม และอื่นๆตามที่ได้เล่าเรียนมา จนกระทั่งในปี2562 ท่านจึงกลับมาบวชอีกครั้ง

บุคลิกลักษณะของพระอาจารย์น๊อตเป็นพระรูปร่างสูงใหญ่ อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเองกับญาติโยม ที่สำคัญ เป็นพระนักพัฒนาที่มีจิตใจเปี่ยมด้วยความเมตตา โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส คนพิการคนชราท่านจะให้ความช่วยเหลืออย่างมาก นอกจากนี้ยังทุ่มเทให้กับการบูรณะพัฒนาวัดตึกฯจนเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

พระอาจารย์น๊อตได้รับฉายาจากเหล่าลูกศิษย์ว่า “พระผู้มีแต่ให้” เนื่องจากทั้งปัจจัย และสิ่งของต่างๆที่ประชาชนนำมาถวายให้ เมื่อท่านได้รับมาก็จะนำไปใช้ทำประโยชน์ให้แก่ชาวบ้านทั้งหมด เช่น ซ่อมแซมถนนให้ชาวบ้าน ช่วยเหลือคนยากไร้ รวมถึงญาติโยมท่านใดไม่มีเงินค่าทำศพ หรือจัดงานศพ พระอาจารย์ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องเงินค่าทำศพ ค่างานศพ

แม้จะเป็นพระเกจิหนุ่ม แต่วิชาอาคมของท่านนับว่าไม่ธรรมดา เพราะสืบสายตำรับตำราวิชาของหลวงปู่อ่อน วัดตึกฯ และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งหลวงปู่อ่อนเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อแทน และหลวงพ่อแทนก็เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เหลือบ อดีตเจ้าอาวาสวัดตึกฯองค์ที่6 ทั้ง3ท่านมีอาคมขลังระดับตำนานของเมืองราชบุรี พระอาจารยน๊อตจึงได้รับมาแบบเต็มๆ

วัตถุมงคล,เครื่องรางของขลังของท่าน มีพุทธคุณรอบด้าน มีประสบการณ์หลากหลายโดยท่านให้แง่คิดว่า วัตถุมงคลืกอย่างขึ้นอยู่กับความศรัทธา ความเชื่อมั่น ถ้าไม่ศรัทธาก็เปรียบเสมือนก้อนดินก้อนหิน หรือโลหะธรรมดาๆเท่านั้น









 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page