top of page
ค้นหา

พระเกจิชื่อดังแดนใต้ “หลวงปู่เกษม” พลีมวลสารกดพิมพ์ “พระปิดตาเสาร์ 5”

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

ลูกอมโภคทรัพย์-พิธีหุงสีผึ้งน้ำมัน

3ฆราวาสขมังเวทย์ประกอบพิธีเข้มขลัง

ฤกษ์มหามงคลวันเสาร์ 5 ค่ำเดือน 12

29ตุลาคม65เป็นวันแข็ง วันแรง วันดี


เจาะประวัติพระอาวุโสมากอาคมแดนใต้

"พ่อท่านเกษม เขมจาโร" วัดมะม่วงตลอด

ทายาทพุทธาคมพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศิษย์เอกผู้ปลงผม-จารยันต์-จารตะกรุด        


เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ตรงกับวันเสาร์ 5 ค่ำเดือน 12 เป็นวันแข็ง วันแรง วันดี หลวงปู่เกษมเขมจาโร หรือ พ่อท่านเกษม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้ วัดมะม่วงตลอด จ.นครศรีธรรมราช  ได้ เมตตาพลีมวลสาร กดพิมพ์นำฤกษ์พระปิดตาเสาร์ 5  และลูกอมโภคทรัพย์   และได้ประกอบพิธีกรรมหุงน้ำมันมหาเมตตา


พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ (พระครูภาวนาภิรมย์) อดีตเจ้าอาวาสวัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในพระเกจิดังแห่งเมืองคอน มีอายุยืนยาวถึง 5 แผ่นดิน เป็นพระมหาเถระองค์หนึ่ง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่9 ทรงเลื่อมใสศรัทธา


ปัจจุบันมีศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมของท่านคือ พระครูมงคลเหมรัต "หลวงพ่อเกษม เขมจาโร" หรือที่เรียกขานกันว่า"พ่อท่านเกษม" เจ้าอาวาสวัดมะม่วงตลอด อ.ร่อนพิบูลย์จ.นครศรีธรรมราช อายุ 90 ปี


ชาตภูมิของท่านเป็นชาวตำบลเสาธง อ.ร่อน พิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม2475  ในตระกูล"คุ้มกุมาร"  เมื่ออายุ20ปีได้เข้าอุปสมบทครั้งแรกที่วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์จ.นครศรีธรรมราช โดยพระครูประพัฒสุตคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"เขมจาโร"


ท่านได้ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้ พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ในกิจวัตรประจำวัน เช่น ดูแลเรื่องการฉันอาหาร การบีบนวด ช่วยเหลือทั่วไปตามที่พ่อท่านคลิ้งจะใช้งาน และติดตามไปเมื่อมีกิจนิมนต์ในสถานที่ต่างๆ โดยบวชอยู่เป็นเวลา 2 ปี ก็ลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาส


ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้วัดถลุงทอง ท่านก็ยังไปปรนนิบัติรับใช้พ่อท่านคลิ้งอย่างสม่ำเสมอตอนเช้าก็ไปช่วยจัดสำรับให้พ่อท่านคลิ้งฉันข้าว ตกตอนเย็นก็ก่อไฟรอบกุฏิให้เป็นควันเพื่อไล่ยุงเพราะกุฏิที่พ่อท่านคลิ้งจำวัดเป็นกุฏิหลังไม้เป็นโถง ไม่ได้กั้นห้องแต่อย่างใด


ในช่วงที่พ่อท่านคลิ้งมีชื่อเสียงมากขึ้น มีคนนำของต่างๆ มาให้ท่านทำวัตถุมงคลให้จำนวนมากจนทำไม่ไหว ท่านจึงได้เรียกหลวงพ่อเกษมมาเพื่อช่วยงาน โดยสอนวิชาในการจารตะกรุด การเขียนเลขยันต์ การทำผ้าขึ้นเปลเด็ก การทำสายคาดเอว และการปลุกเสกเลขยันต์ต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย ท่านก็ได้ฝึกตามคำแนะนำสั่งสอนของพ่อท่าคลิ้งจนจำขึ้นใจ


เมื่อเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น พ่อท่านคลิ้งจึงทำพิธีครอบครู ครอบมือ รับเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ และโยนตำราให้ ภายในเวลาอันสั้น ท่านก็เรียนรู้ได้จนหมดสิ้น ส่วนคาถาบางอย่าง ที่ไม่มีในตำราพ่อท่านคลิ้งว่าให้ฟังและให้จำเอาเอง


หลังจากนั้นเมื่อพ่อท่านคลิ้งไปประกอบพิธีกรรมที่ไหน หรือมีกิจนิมนต์ต่างๆ ท่านก็ให้ติดตามไปเป็นพราหมณ์สายฆราวาสไปทุกที่ และได้รับหน้าที่สำคัญคือปลงผมให้พ่อท่านคลิ้ง ในวันโกนทุกครั้ง โดยท่านได้เก็บเส้นผมของพ่อท่านคลิ้งไว้มาก แต่ในภายหลังได้แจกให้ลูกศิษย์จนหมดต่อมาเมื่อชาวบ้านเห็นว่าท่านเป็นหมอสายพราหมณ์จึงติดต่อไปประกอบพิธีกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ตั้งศาลพระภูมิ วางศิลาฤกษ์ สวดพลิกแผ่นดิน สะเดาะเคราะห์บ้านเรือน เป็นต้น

           

เมื่อครั้งที่พระองค์จ้าภาณุพันธ์ ยุคล นิมนต์พ่อท่านคลิ้งไปยังวังอัศวิน หลวงพ่อเกษมเมิ่อครั้งเป็นฆราวาสก็มีโอกาสได้ติดตามไปอยู่ที่ในวังครั้งละเป็นเดือน ท่านเล่าให้ฟังว่า บางวันพ่อท่านคลิ้งได้รับนิมนต์ไปบ้านเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เพื่อสวดมนต์ ฉันข้าวเพล สวดตามบ้านเรือนอยู่บ่อยๆบางวันอยู่ในวังไม่ได้ไปไหน พ่อท่านคลิ้งก็ให้ท่านจารผ้ายันต์ จารตะกรุด พ่อท่านคลิ้งปลุกเสกเสร็จได้แจกจ่ายผู้คนที่อยู่ในวังได้ไปบูชา

           

ต่อมาท่านได้อุปสมบทอีกครั้ง และจำพรรษาอยู่ที่วัดถลุงทองเรื่อยมาเป็นเวลา 5 พรรษา ในช่วงนั้นวัดมะม่วงตลอดว่างเว้นเจ้าอาวาส ชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาจึงนิมนต์หลวงพ่อเกษมมาจำพรรษาที่วัดมะม่วงตลอดตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ท่านได้บูรณะศาสนสถาน ดูแลปกครองสงฆ์ในวัดเป็นอย่างดี  อีกทั้งนำวิชาความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดจากพ่อท่านคลิ้งมาจัดสร้างเครื่องรางของขลังให้ลูกศิษย์ เช่น ตะกรุดโทนช้างผสมโขลง, ตะกรุดคู่กันภัยและเมตตา,สายคาดเอว,ผ้ายันต์ และอื่นๆตามโอกาส


เครื่องรางของท่านมีประสบการณ์มากในพื้นที่ และลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจ ทหาร อยู่ทาง3จังหวัดภาคใต้ มีพุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด และความเหนียว โดยเฉพาะสายคาดเอวที่ท่านจารมือลงบนผ้า ทั้งด้านหน้าและหลัง แล้วนำมาม้วนกับเชือกและถักมือทุกเส้น โดยขณะกำลังถักท่านได้ภาวนาปลุกเสกไปด้วยจนเสร็จ ทำให้เครื่องรางของท่านใช้ได้ผลดีมากๆ


หลวงพ่อเกษมท่านเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะเรียบง่าย เป็นกันเอง มีความเมตตาต่อผู้คนที่มากราบนมัสการขอพรอย่างทั่วถึง  ด้วยคุณงามความดี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555 ท่านได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ในราชทินนาม“พระครูมงคลเหมรัต”


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page