top of page
ค้นหา

พระเกจิดัง"หลวงปู่ยวง อาภัสสโร"อายุ89ปี

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ









วัดโพธิ์ศรี อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ศิษย์เอกหลวงปู่ป๋อง วัดหนองกระทุ่ม เมืองราชบุรี มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยเป็นถิ่นกำเนิดพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมากมาย

หนึ่งรูปที่โด่งดังอยู่ในปัจจุบันคือ "หลวงปู่ยวง อาภัสสโร" หรือ "พระครูสิริโพธิรักษ์" วัดโพธิ์ศรี ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พระเกจิอาจารย์ที่มีเมตตา มักน้อย ถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มอาคมแก่กล้า ปัจจุบันอายุ 89 ปี

ท่านเกิดในสกุล"ชาวนรินทร์" เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2475 ที่บ้านต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี วัยเยาว์เรียนจบชั้นประถม 4 พออายุ 23 ปี ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันพุธที่ 20 พ.ค. 2498 ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์สมานฉันท์ ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.ราชบุรี

พระครูขันตยาภิรัต (หลวงปู่ป๋อง) เจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แห วัดหนองกระทุ่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์บุญช่วย วัดเขาย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังอุปสมบทได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยา คมกับพระเกจิคณาจารย์หลายท่าน อาทิ เรียนวิชาอักขระขอมจากหลวงปู่นาค วัดช่องลม และศึกษาวิชาเสกหินสะกดจากหลวงปู่นาค โดยนำแผ่นหินมาลงอักขระยันต์ ปลุกเสกตามตำราแล้วให้เจ้าของนำไปฝังยังมุมบ้านของตนเอง เพื่อรักษาดูแล และกันไม่ให้ขโมย หรือโจรเข้าบ้านหรือลักขโมยสิ่งของในบ้าน

ส่วนวิชาการลงตะกรุดท่านเรียนมาจากพระครูขันตยาภิรัต หรือหลวงปู่ป๋อง วัดหนองกระทุ่ม ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่นวม วัดแจ้งเจริญ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี

หลวงปู่ป๋องเป็นพระที่ดุมากๆ พระเณรที่วัดได้กลิ่นยาฉุน ยังไม่ต้องเห็นตัวหลวงปู่ป๋องก็ไม่กล้าเดินเข้าใกล้หรือเดินเฉียดแล้ว มีงานวัดก็ไม่ต้องจ้างเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หลวงปู่ป๋องเดินถือไม้เท้า ไม้ตะพดอันเดียว พวกวัยรุ่นก็ไม่มีใครกล้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน

ส่วนวิชาลงปลัดขิกนั้นเรียนกับหลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรี นอกจากนี้ ได้ไปเรียนวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่บุญ วัดวังมะนาว เรียนวิชาจาก "ตาชม" ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาส ท่านได้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดสอดที่ตา ตะกรุดแปดทิศ และการทำยาวาสนาจินดามณี และอีกหลายอย่าง

ต่อมาได้นำวิชาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบหรือมาพึ่งบารมีของท่าน ช่วยขจัดปัดเป่าให้บรรเทาเบาบางลงไป ด้วยความเป็นพระที่เมตตา เข้าถึงง่าย จึงเป็นที่เคารพและศรัทธาของคนในพื้นที่และใกล้เคียง

หลวงปู่ยวงสร้างวัดเมื่อปี พ.ศ.2507 ตั้งชื่อวัดว่า "โพธิ์ศรี" ด้วยการเอาต้นโพธิ์มาตั้งเป็นชื่อ

ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวราชบุรีรู้จักกันดี มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ เป็นพระที่ใจดีมากๆ ด้วยความที่หลวงพ่อยวงเป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก แต่ท่านจะไม่ค่อยได้สร้างวัตถุมงคลสักเท่าไร และถ้าท่านจัดสร้างวัตถุมงคลส่วนมากจะมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์และเสนาสนะภายในวัด

เมื่อมีคนเดินทางไปที่วัดของท่าน ท่านจะออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี และเมื่อเอ่ยปากขอท่านถ่ายรูป ท่านก็จะรีบเดินไปห่มผ้า และมาให้ถ่ายรูปในทันทีเช่นกัน

นอกจากนี้ท่านยังสงเคราะห์ญาติโยมที่มากราบขอความเมตตา ไม่ว่าขอให้อาบน้ำมนต์ ลงกระหม่อม จารตะกรุดหรือขอตะกรุดของหลวงพ่อเอาไว้ทำมาค้าขายเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงผู้ที่มานิมนต์ให้ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล ในงานวันไหว้ครูของสำนักต่างๆ เป็นประจำทุกปี

กล่าวขวัญกันว่า วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณโดดเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตา โดยเฉพาะตะกรุดและเหรียญรุ่นแรก ปี2519

แต่สำหรับผู้ที่ได้รับวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของท่านพกพาบูชาติดตัวแล้ว ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มีพุทธคุณโดนเด่นรอบด้านครบเครื่อง

อาจกล่าวได้ว่า เมืองราชบุรี นับแต่สิ้นหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ยอดพระเกจิอาจารย์แห่งอำเภอปากท่อ ปัจจุบันพระเกจิอาจารย์ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาและน่ากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป คือ "หลวงปู่ยวง แห่งวัดโพธิ์ศรี"

ล่าสุด หลวงปู่ยวง เมตตาอนุญาตให้จัดสร้าง เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ยวง รุ่นสร้างบารมี และพระผง พระขุนแผนพรายกุมาร พระครูสิริโพธิรักษ์ หรือ หลวงปู่ยวง อาภัสสโร วัดโพธิ์ศรี จ.ราชบุรี วัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมบุญสั่งจองบูชา เพื่อนำรายได้ซื้อเครื่องมือแพทย์ มอบให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน และสมทบกองทุนอุปัฏฐากดูแลสุขภาพหลวงปู่ยวง

 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page