top of page
ค้นหา

มุทิตา 89 ปี พระสุขวโรทัย (จง จัตตมโล) เกจิดังวัดสังฆาราม/ที่ปรึกษาจจ.สุโขทัย ศิษย์”หลวงพ่อปี้”

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 2 ต.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

มุทิตา 89 ปี พระสุขวโรทัย (จง จัตตมโล)

เกจิดังวัดสังฆาราม/ที่ปรึกษาจจ.สุโขทัย

ศิษย์”หลวงพ่อปี้”เกจิอภิญญาสรงน้ำในโหล

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ร่วมถวายมุทิตาสักการะ เนื่องในโอกาสเจริญอายุวัฒนมงคล 89 ปี 69 พรรษา

พระสุขวโรทัย หรือ"หลวงปู่จง จตฺตมโล"

ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เจ้าอาวาสวัดสังฆารามอ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย

วันที่ 2 ตุลาคม 2566

อดีตมหาเถระเรืองนามผู้ทรงคุณวิเศษล้ำเลิศองค์หนึ่งของจังหวัดสุโขทัย ย่อมปรากฏชื่อของ “พระครูสุวิชานวรวุฒิ” หรือ “หลวงพ่อปี้ ทินโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดลานหอย เกจิอาจารย์ดังสุโขทัยผู้ทรงอภิญญา ที่กล่าวขานกันว่าท่านสรงน้ำในขวดโหล และนั่งสมาธิบนก้อนเมฆ

ปัจจุบันศิษย์เอกของหลวงพ่อปี้ที่ยังดำรงขันธ์อยู่คือ พระสุขวโรทัย หรือ"หลวงปู่จง จัตตม โล"เจ้าอาวาสวัดสังฆาราม (บ้านด่าน) อ.บ้าน ด่านลานหอย จ.สุโขทัย และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย ท่านเป็นเกจิอาจารย์ร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงรูปหนึ่ง มีผู้เคารพนับถืออย่างกว้างขวางในจ.สุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนปริยัติสามัญวัดสังฆาราม อุทยานพระพุทธศาสนา และสร้าง”พระพุทธอสีติวัสสามหาบพิตร”พระร่วงเจ้าองค์ใหญ่ประจำจังหวัดสุโขทัย

หลวงปู่จงเกิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2477 ที่บ้านด่าน ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโข ทัย โยมบิดาชื่อ “นายชื้น” โยมมารดาชื่อ “นางมุด” นามสกุล “สุขอิ่ม” มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 7 คน หลวงพ่อจงเป็นคนโต

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ (พ.ศ. 2497) ได้เข้าอุปสมบท ณ อุโบสถวัดสังฆาราม อันเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน โดยมีพระครูสุวิชานวรวุฒิ (หลวงพ่อปี้ ทินฺโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จัตตมโล”

ท่านได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อปี้ และได้รับการถ่ายทอดการปฏิบัติและการศึกษาวิชาอาคมต่างๆให้หมดสิ้น จนถือได้ว่าหลวงพ่อจงเป็นศิษย์เอกผู้มีความเชี่ยวชาญทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง นอกจากมีความรู้ความสามารถในทางการศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติแล้ว ท่านยังมีความสามารถในเชิงช่างอีกด้วย

กล่าวคือ ไม่ว่าจะเป็นการทำตู้โบราณ, ทำโต๊ะเรียน ทำเก้าอี้ หรือสร้างศาลาการเปรียญ หลวงพ่อจงทำเป็นหมด นับได้ว่าท่านมีพรสวรรค์ในทางช่างโดยแท้

ที่สำคัญ ในการเย็บปักถักร้อยนั้น ท่านก็มีความสามารถเป็นพิเศษ เห็นได้จากเมื่อผ้าจีวรผ้าสบง ผ้าอังสะหรือผ้าสังฆาฏิขาด ท่านก็ตัดเย็บเพื่อห่มเองเป็นประจำ

วิทยฐานะ พ.ศ. 2489 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนวัดสังฆาราม อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย พ.ศ.2503 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดสุโขทัย งานปกครอง พ.ศ. 2500 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2501 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆาราม พ.ศ.2510 เป็นเจ้าคณะตำบลบ้านด่านลาน หอย

พ.ศ.2519 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2529 เป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านด่านลานหอย พ.ศ.2542 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาฯวัดสังฆาราม พ.ศ.2548 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย พ.ศ.2557 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย

​สมณศักดิ์ เริ่มจากพ.ศ.2517 เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี ที่”พระครูสุวิชานวรวุฒิ” พ.ศ.2522 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2530 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอ ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2543 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม พ.ศ.2548 เป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะจังหวัดชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2551 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ “พระสุขวโรทัย”

ในส่วนของวัตถุมงคลนั้น แต่ละรุ่นท่านจะสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และเน้นการสร้างอย่างถูกต้องตามหลักโบราณจารย์ โดยทุ่มเทในการเจริญภาวนาแผ่พลังจิตปลุกเสกเดี่ยวทุกคืน จนท่านมีความเชื่อมั่นแล้วว่าวัตถุมงคลของท่านมีความสมบูรณ์จึงจะนำออกให้บูชา ทำให้ได้รับความนิยมจากสานุศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะได้เกิดประสบการณ์แก่ผู้บูชาไปหลายต่อหลายรุ่น

​วัตถุมงคลยอดนิยมของท่าน อาทิ เหรียญรุ่นแรก ปี2529 (พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก) รูปหล่อเหมือนรุ่นแรก ปี2529 แหวนเนื้ออัลปาก้า มีประสบการณ์ในด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ

ล็อกเก็ตสร้างเมื่อปีพ.ศ.2539 จำนวน 1,000 เหรียญ ท่านปลุกเสกในวันเสาร์ห้า รุ่นนี้จึงมีความโด่งดังมากเพราะมีพุทธคุณสูงในหลายๆ ด้านเช่น ด้านเมตตามหานิยมและป้องกันภัย ซึ่งมีผู้ประสบการณ์มากเป็นพิเศษจึงเป็นที่กล่าวขานของคนในอำเภอบ้านด่านลานหอยกันมาก

เคยมีผู้ถูกลอบยิงที่ท่ารถเมล์โดยสารในอำเภอแต่ยิงไม่เข้า ทำให้มีผู้ขอบูชาสูงถึงเหรียญละ 4,000 ถึง 5,000 บาท แต่ก็ยังไม่มีใครอยากปล่อยกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page