top of page
ค้นหา

มุทิตา82ปีหลวงพ่อแม้นเกจิดังอยุธยา

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 13 มี.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที





สักการะคล้ายวันเกิด 82ปีหลวงพ่อแม้นวัดหน้าต่างนอก คณะสงฆ์ดอยหล่อสืบชะตาล้านนา หลวงพ่ออนันต์-หลวงพ่อสมบูรณ์ร่วม เด่น กีรติ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า วันที่ 13 มีนาคม 2563 เป็นวันคล้ายวันเกิด พระครูสมบูรณ์จริยธรรม หรือ หลวงพ่อแม้น อาจารสมฺปนฺโน ปัจจุบันสิริอายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง อีกรูปหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งท่านมีวัตรปฏิบัติดี เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป สำหรับงานแสดงมุทิตาสักการะหลวงพ่อแม้น อายุวัฒนมงคล 82 ปี จัดขึ้น 2 วัน วันที่ 12 มีนาคม เวลา 10.00 น.พระสงฆ์ 33 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 130 รูป เวลา 12.00 น.ทักษิณานุปทาน พระสงฆ์ 130 รูป วันที่ 13 มีนาคม เวลา 07.00 น.ตักบาตรพระสงฆ์ 108 รูป เวลา 08.30 น.ไถ่ชีวิตสัตว์ ปล่อยปลา 100 โล เวลา 09.00 น.ทำพิธีสืบชะตาฉบับล้านนา จากคณะสงฆ์ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เวลา 10.00 น.พระสงฆ์ 1,500 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 11.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 1,500 รูป เวลา 12.00 น.สรงน้ำขอพรหลวงพ่อแม้น ซึ่งการนี้ หลวงพ่ออนันต์ เทพเจ้าพญาวานร เจ้าอาวาสวัดบางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ และหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพฯ ได้เดินทางมาร่วมงานแสดงมุทิตาสักการะอายุวัฒนะมงคล 82 ปี หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก ด้วย ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ร่วมแสดงมุทิตาสักการะในวันแห่งความเป็นมงคลนี้

กล่าวสำหรับประวัติ พระผู้เมตตาแห่งทุ่งบางไทร หลวงพ่อแม้น อาจารสมฺปนฺโน นามเดิมชื่อ แม้น คานอ่อน เกิด ณ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2481 เกิดในครอบครัวชาวนา และทำอิฐขาย ฐานะของครอบครัวค่อนข้างยากจน จึงได้เรียนหนังสือจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชีวิตในวัยเยาว์ ชอบการทำบุญตักบาตรมาก เกินกว่าความเป็นเด็กในวัยเดียวกัน สมัยในวัยหนุ่ม ไม่เคยสนใจเรื่องเพศตรงข้ามเลย ทำแต่งานทุกอย่างเวลาว่างก็ไปปฏิบัติธรรม และสนใจเรื่องมนต์คาถา เริ่มศึกษาจากคนเฒ่าคนแก่ในย่านใกล้บ้าน และเที่ยวเสาะหาครูบาอาจารย์ จนได้เป็นศิษย์หลวงปู่แดง วัดบางเตยนอก และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ว่าน วัดบางเตยใน

ต่อมาเดินทางเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปเรียนวิชากับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก โดยพายเรือมาที่วัด เมื่อเดินขึ้นไปเห็นหลวงพ่อจงนั่งอยู่หน้ากุฏิ เมื่อพบท่านมีความปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก หลวงพ่อจงถามว่า "เหนื่อยไหม จะเอาอะไรล่ะ" จึงตอบว่า "ผมจะมาขอศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อครับ"

หลวงพ่อจงก็รับท่านเป็นศิษย์ สอนแนวทางปฏิบัติกัมมัฏฐานเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งหลวงพ่อจงมรณภาพ ในปี พ.ศ.2508 เมื่อสิ้นหลวงพ่อจงแล้ว ท่านได้เรียนต่อวิชาสายหลวงพ่อจง จากหลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์, หลวงพ่อหอม วัดบางเตยกลาง, หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา, พระอาจารย์รวย วัดกลางคลองสาม ครั้นอายุ 27 ปี ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาว พัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา มีหลวงพ่อพระครูภาวนารังสี เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล ในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "อาจารสมฺปนฺโน"

หลังบวชแล้วได้มาจำพรรษาอยู่วัดกลางคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จำพรรษาอยู่ได้หนึ่งพรรษา ก่อนย้ายมาอยู่กับพระครูภาวนารังสี วัดใหญ่ชัยมงคล ได้ศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแม้นเริ่มศึกษาธรรมอย่างจริงจัง โดยเริ่มเรียนพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมตรี ในปี พ.ศ.2510 ต่อมาในปี พ.ศ.2511 ได้ศึกษาเล่าเรียนบาลีที่วัดพระศรีมหาธาตุ ไปจนถึงกาลออกพรรษาครูที่สอนบาลีถึงแก่กรรม จนต้องทำให้หยุดเรียนอย่างกะทันหัน ทำให้หลวงพ่อแม้นกลับมาเรียนนักธรรมโทในปีเดียวกัน แต่ยังสอบไม่ผ่าน หลวงพ่อแม้นก็ได้สอบอีกครั้ง จนได้นักธรรมโทและสอบนักธรรมเอกได้ในปี พ.ศ.2513 หลังจากนั้นมาหลวงพ่อแม้นได้เรียนพระปาติโมกข์และท่องพระปาติโมกข์จนจบ ช่วงปี พ.ศ.2515 ช่วงนั้นวัดหน้าต่างนอก ยังขาดเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่จะปกครองวัด หลังจากหลวงพ่อจงได้ละสังขารไป ทางคณะกรรมการวัดหน้าต่างนอก ได้มีมติให้อาราธนาหลวงพ่อแม้น แห่งวัดกลางคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดหน้าต่างนอก เป็นต้นมา เมื่อก้าวแรกของหลวงพ่อแม้น ที่เหยียบพื้นวัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อแม้นได้นมัสการบารมีธรรมหลวงพ่อจงพระเถราจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และกล่าวว่ามีความปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ที่ได้เข้ามารับใช้ใต้บารมีของหลวงพ่อจงอีกครั้งหนึ่ง ต่อมา หลวงพ่อแม้น ได้ศึกษาวิทยาคมตามตำราที่หลวงพ่อจงได้ทิ้งไว้ให้อย่างแตกฉาน เป็นพระเถระอีกหนึ่งรูปที่เดินตามรอยปฏิปทาบารมีของหลวงพ่อจงด้วยดีสม่ำเสมอ

 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

ความคิดเห็น


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page