top of page
ค้นหา

มีศิษย์หลายคนนึกถึงท่าน “หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร”

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 15 มี.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที








แห่งวัดสวนหินผานางคอย บ้านดงนา ต.หนามแท่ง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี

ศรัทธา...ปาฏิหาริย์ฤาษีหลวงปู่พรหมมานักธุรกิจดังร้านลาวปั้นข้าว ห้อยติดคอ

วันก่อนทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ นักธุรกิจ “นายประเสริฐ เกตุฉาย” หรือ “คุณอู๊ด” เจ้าของร้านลาวปั้นข้าวเขาใหญ่ นครราชสีมา ศรัทธาหลวงปู่พรหมมา พระดังเมืองอุบลฯ อย่างมาก ห้อย “ฤาษี” ของท่านติดคอระบุประสบการณ์ดีเมตตาค้าขาย

พระเถราจารย์ผู้มีอายุกาลสูงถึง 105 ปี เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนไทย-ลาวมาช้านาน ได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มลำน้ำโขง”

ชาติภูมิเป็นชาวบ้านกุษกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เกิดในสกุล “อ่อนจันทึก” เมื่อปี พ.ศ.2440 ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา แต่ท่านกลับชอบที่จะศึกษาเรื่องตำรายาสมุนไพร

อายุ 12 ปี เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บรรพชา โดยมี สมเด็จลุน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากประเทศลาว เป็นพระอุปัชฌาย์ พร้อมกับถ่ายทอดด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม

เล่าเรียนอยู่ที่เวินชัย นครจำปาสัก ประมาณ 5 ปี สมเด็จลุนก็มรณภาพ ท่านจึงออกธุดงค์ เพื่อหาประสบการณ์

กระทั่งอายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบท โดยมี หลวงปู่สีทัต เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากนั้น ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร จนได้พบกับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และอยู่ศึกษาวิชา พร้อมกับช่วยสร้างวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร จนแล้วเสร็จ

ท่านมีโอกาสพบกับ หลวงปู่สีทัต และ พระครูวิโรจน์รัตโนบล หรือ หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง ที่ จ.สกลนคร ได้ช่วยพระอุปัชฌาย์สร้างพระธาตุเจดีย์ แล้วออกติดตามธุงค์ไปจนถึงแคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน และทิเบต

ก่อนจะวกกลับมาทางเชียงรุ้ง ประเทศพม่า ผ่านเขตเทือกเขาบรรทัด จ.ระนอง เข้า จ.สตูล

ประมาณ พ.ศ.2532 ท่านธุดงค์ไปฝั่งแม่น้ำโขง บังเอิญพบบริเวณถ้ำสวนหินผานางคอย บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ เห็นเป็นสถานที่ที่สงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงเข้าพำนักและตั้งเป็นสำนักวิปัสสนาขึ้นจากป่ารกร้างที่ไม่มีอะไร พัฒนาจนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ทั้งกุฏิสงฆ์, ศาลาอเนกประสงค์, ห้องครัว, อุโบสถ, อาคารต้อนรับพระอาคันตุกะ, หอระฆัง, บันไดขึ้นเขา, ห้องน้ำ, ศาลามณฑปจัตุรมุข ฯลฯ

พร้อมกับชื่อเสียงที่เริ่มขจรขจายในฐานะพระผู้มากด้วยเมตตา

ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศลาวถึง 45 ปี พบประสบการณ์ชีวิตและได้วิชาจากพระเกจิ อาจารย์ดังๆ มากมาย

โดยเฉพาะศิษย์สายพระอาจารย์มั่น แม่ทัพใหญ่สายวิปัสสนากัมมัฏฐาน อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง ฯลฯ

และเคยแลกเปลี่ยนวิชากัมมัฏฐานกับ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ และครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์ จ.ตาก ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณ เรียกท่านว่า “อาจารย์ใหญ่”

ด้วยบารมีธรรม และการปฏิบัติ จึงดึงดูด นักแสวงบุญผู้ศรัทธาทั่วประเทศหลั่งไหลขึ้นไปกราบนมัสการเนืองแน่นตลอดมา

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเข้านมัสการถึง 2 ครั้ง

ในส่วนของวัตถุมงคลที่เป็นต้นตำรับและสร้างชื่อเสียงให้อย่างมากเป็นรูปพระฤๅษี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อว่าน เนื่องจากท่านมีความรอบรู้เรื่องยาสมุนไพรเป็นพิเศษ

ท่านเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 มีทั้งที่สร้างเองและคณะศิษย์จัดสร้างถวาย ส่วนใหญ่แล้วจะสร้างโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสภาพสังคมท้องถิ่น เช่น การคมนาคม การศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น

ช่วงบั้นปลายชีวิต ท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคหัวใจ ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง

กระทั่งเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2545 มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ สิริอายุ 105 ปี

 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page