ย้อนรอยธรรมตำนานชีวิต/85ปี
พระครูพิพิธวรการ”หลวงปู่อึก"
เกจิดังวัดป่าห้วยเสนง จ.สุรินทร์
ศิษย์รุ่นสุดท้าย"พ่อริม"วัดอุทุมพร
ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์"น้อมถวายความอาลัย และร่วมย้อนรอยธรรม ตำนานชีวิต“พระครูพิพิธวรการ” หรือ “หลวงพ่ออึก อัคควัณโณ”
ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปราสาท เจ้าอาวาสวัดป่าห้วยเสนง อ.ปราสาท ต.หนองใหญ่ จ.สุรินทร์ ซึ่งถึงกาลมรณภาพด้วยโรคหัวใจขาดเลือด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 17.45 น. ณ โรงพยาบาลปราสาท จ.สุรินทร์ สิริอายุ 85 พรรษา 65
ทั้งนี้ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ท่านวันเกิดและมรณภาพตรงกับวันและเดือนเดียวกัน โดยช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566
มีการจัดงานอายุวัฒนมงคล ครบ 85 ปี พรรษา 65 โดยมัพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายประภาส ศรีจันทร์เวียง ปลัดจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยหลวงปู่อึกมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนทั้ง 14 โรงเรียน และมอบของขวัญให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 85 คน
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2481 การศึกษาเรียนจบเทียบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ที่วัดพรหมสุรินทร์
อายุ 18 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดพระชี บัวแก้ว ต.หนองใหญ่ ครั้นอายุ 21 ปีเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดพระชีบัวแก้ว โดยมีพระปราสาทคณาภรณ์ (หลวงพ่อแปะ) วัดปราสาทวารี บ้านพลวง อ.ปราสาท เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "อัคควัณโณ"
จากนั้นอยู่จำพรรษาที่วัดพรหมสุรินทร์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย เป็นเวลา 2 พรรษา จึงย้อนกลับไปจำพรรษาที่วัดพระชีบัวแก้ว ในปี พ.ศ.2503 เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระชีบัวแก้ว
ต่อมา นายชม บิดา เล่าประวัติของ พระอุปัชฌาย์มหานาด (หลวงพ่อจุก) เกจิผู้มีวิทยาคมแก่กล้า และประวัติของหลวงพ่อแปะ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ หนึ่งในศิษย์เอกหลวงพ่อจุก ท่านมีความวิตกเกรงว่าหลวงพ่อแปะ จะไม่รับเป็นศิษย์ จึงไปอุปัฏฐากรับใช้ที่วัดปราสาทวารีเป็นเวลา 1 พรรษา โดยได้รับความเมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้
พ.ศ.2510 ได้พัฒนาสร้างวัดขึ้นใหม่ที่บริเวณลำห้วยเสนง มีเนื้อที่ 20 ไร่เศษ มีต้นไม้ร่มรื่นให้ความร่มเย็น ศิษยานุศิษย์ได้นำลิงไปปล่อยในวัดจำนวนมากและพัฒนาจนเจริญก้าวหน้ากลายเป็นวัดป่าห้วยเสนงตราบเท่าปัจจุบัน
พ.ศ.2512 วัดป่าห้วยเสนง จัดโครงการอุปสมบทหมู่ประจำปี หลวงพ่ออึกได้นำคณะพระภิกษุสงฆ์ไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อริม รัตนมุนี เกจิอาจารย์ชื่อดังวัดอุทุมพร ต.ทุ่งมน
หลังปรนนิบัติรับใช้นาน 4 เดือน หลวงพ่อริมเมตตารับท่านไว้เป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย พร้อมถ่ายทอดวิทยาคม สะเดาะเคราะห์ เสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก เขียนแผ่นทองลงเหล็กจาร พร้อมนำตัวท่านไปร่วมในงานพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลายแห่ง ฝึกฝนจนสามารถอ่านออกและเขียนอักขระภาษาขอมได้
พ.ศ.2515 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลหนองใหญ่ มีวัดในปกครอง 5 วัด พ.ศ.2524 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2525 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าห้วยเสนง พ.ศ.2526 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีและชั้นโท ตามลำดับ วันที่ 10 ก.ย.2561 มหาเถรสมาคม(มส.)
มีมติแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปราสาท
พ.ศ.2530 ก่อสร้างอุโบสถวัดป่าห้วยเสนง ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 7 ปี เป็นเงินจำนวน 6,400,000 บาท พ.ศ.2540 อนุญาตให้วัดดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก พร้อมผ้ายันต์และตะกรุดโทน ใบโพธิ์ 7 สี เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญและสร้างเมรุ ปรากฏว่าวัตถุมงคลได้รับความนิยม ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
หลวงปู่อึกทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดป่าห้วยเสนงจนเจริญรุ่งเรืองทั้งถาวรวัตถุ และสาธารณูปโภค ท่านยังปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในวัด โดยร่วมกับญาติโยมปลูกไม้ยืนต้นภายในวัดตลอดปี ทำให้วัดแห่งนี้มีแต่ความสงบร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรม
ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้มีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวเมืองสุรินทร์อย่างรวดเร็ว ในวันธรรมดาและวันสำคัญทางศาสนาจะมีญาติโยมเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากท่านที่วัดอย่างล้นหลาม รวมทั้งขอให้ท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งท่านก็ช่วยปัดเป่าทุกข์ให้ ถึงแม้บางครั้งท่านจะเหน็ดเหนื่อยจากการต้อนรับญาติโยม แต่ด้วยจิตใจที่กล้าแกร่ง จึงไม่เคยย่อท้อ
ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ ให้ยึดศีล 5 อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท ให้เป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลก เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ
Comentarios