"ย้อนรอยเกจิดัง"
ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566
"หลวงปู่ผาด"อดีตเกจิดังวัดบ้านกรวด
นักบุญแห่งอีสานใต้/สายอาคมเขมร
"พ่อคูณ"ยกย่อง"ของท่านดี-ศักดิ์สิทธิ์"
"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ "หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ" หรือ "พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์" อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับสมญานามว่า "นักบุญแห่งอีสานใต้" แม้แต่หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ยังให้การยกย่องว่าท่านเก่ง วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังไม่แพ้ท่าน
ชาติภูมิท่านเป็นชาวบ้านดู่ ตำบลปราสาท อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ วันเดือนปีเกิดจริงของหลวงปู่ผาดคือวันที่ 3 พฤษภาคม 2452 แต่วันเกิดตามใบเกิดคือวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2454 เพราะโยมบิดามารดาหลวงปู่แจ้งเกิดช้า2ปี บิดาชื่อนายเอี้ยง มารดาชื่อนางเตียบ นามสกุล"ดิบประโคน" มีพี่น้อง 4 คน ท่านเป็นคนที่ 3 ครอบครัวมีอาชีพทำนา
ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประชาบาล จนจบชั้น ป.4 จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2470 ที่วัดบ้านพลับ ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ บวชได้ 2 พรรษาก็สิกขาไปช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา
ต่อมาปี พ.ศ. 2476 ขณะมีอายุ 22 ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ้านกรวด ได้ปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ ขณะศึกษาธรรม ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
หันมาศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติม และเรียนวิทยาคมควบคู่กันไป ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด จนมีความรู้ในวิทยาคมเป็นอย่างดี ด้วยความเป็นพระหนุ่มไฟแรง ท่านได้ออกจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งด้านวิทยาคม วิชาแพทย์แผนโบราณ ในครั้งนั้น ได้ไปศึกษวิทยาคมที่กัมพูชา จังหวัดอุดรมีชัย ถึง 3 ปี ก่อนจะจาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นครวัด นานกว่า 8 ปี จนมีความรู้ในวิทยาคมสายเขมร
เมื่อได้เวลาอันเหมาะสม ท่านจึงเดินทางกลับบ้านเกิด อาศัยจำพรรษาในวัดบ้านกรวดเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดา กระทั่งท่านเริ่มมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับการถวายที่ดินจากชาวบ้าน เกิดความคิดริเริ่มในการพัฒนาบูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า ให้กลายเป็นศาสนสถาน คือ วัดตาอี, วัดบ้านปราสาท และวัดบ้านบึงเก่า
ในกาลต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้าน กรวดมรณภาพ ชาวอำเภอบ้านกรวดได้นิมนต์ให้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ แม้ตอนแรกจะปฏิเสธแต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยม ไม่ได้จึงยอมรับและดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันในที่สุด
วัดบ้านกรวด ถือเป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอบ้านกรวด สร้างขึ้นในยุคปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2469 มีพระพุทธรูปศิลาศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ
มีเรื่องเล่าขานกันว่า ครั้งหนึ่งมีคณะศรัทธาจากชาวบ้านกรวดนั้นเดินทางไปกราบนมัสการ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด พระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
หลวงพ่อคูณ ถามว่า "พวกเอ็งมาจากไหนกัน" คณะศรัทธาบอกว่ามาจากบ้านกรวด หลวงพ่อคูณตอบกลับไปว่า "มึงจะมากราบ มาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่น ของท่านศักดิ์สิทธิ์ พวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลย ของดีอยู่กับตัว ยังไม่รู้ค่าอีก"
ทั้งนี้ หลวงปู่ผาดเคยร่วมพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลร่วมกับหลวงพ่อคูณ เช่น
ในปี 2552 และพระเกจิอาจารย์ระดับประเทศอีกหลายท่าน ณ วัดปทุมธาราม (หนองบัว) ต.หนองบัว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
หลวงปู่ผาด สร้างคุณูปการแก่วัดบ้านกรวดและวัดสาขาทั้ง 3 แห่ง เป็นอันมาก เช่น ตั้งสำนักอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน งานด้านการสงเคราะห์ญาติโยม งานสาธารณูปโภค การก่อสร้างถาวร วัตถุของวัด อาทิ สร้างพระอุโบสถ อุปถัมภ์โรงเรียน ศาลาการเปรียญ สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล
ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง อาทิ พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ, พระกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่ผาด, พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ผาด, พญาครุฑ และอื่นๆ
หลวงปู่ผาด เป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธ ในการสร้าง วัตถุมงคลมาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้าท่านว่า มีผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงปู่อยากจะได้พระเครื่อง วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่จึงอนุญาตให้จัดสร้าง วัตถุมงคลออกมาหลายรุ่นหลายรูปแบบ
ด้วยหลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา โดยแท้ ทุกลมหายใจเข้าออกท่านกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคลและเครื่องรางที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณเด่น เมตตามหานิยมดีเยี่ยม มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลทั่วประเทศ
ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดมีพุทธคุณเข้ม แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนให้ญาติโยมเสมอว่า ".. อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว เพราะอายุคนนั้นสั้นนัก ถึงไม่แก่ไม่เฒ่าก็ตายได้เช่นกัน จงอย่าประมาท
หลวงปู่ผาดมรณภาพลงเมื่อช่วงเวลา 11.58 น. ของวันที่ 5 มกราคม 2558 ด้วยสิริอายุที่มากถึง 105 ปี 8 เดือน 2 วัน พรรษา 85 พรรษา
#ฉัตรสยาม
Comments