top of page
ค้นหา

รำลึกชาตกาล141ปีหลวงปู่ทิม

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ







วันที่16 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของ “พระครูภาวนาภิรัต” หรือ “หลวงปู่ทิม อิสริโก” อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2422 มรณภาพเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2518 รวมสิริอายุ 96 ปี 72 พรรษา ขอบุญบารมีหลวงปู่ทิม ช่วยหนุนนำให้บรรดาศิษย์ที่ศรัทธามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เจริญในหน้าที่การงาน ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีทุกท่านทุกคนเทอญฯ “อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโม พุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ” สาธุ

ถือเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมมาแรงมาก “พระกริ่งชินบัญชร” หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ปัจจุบันสนนราคาเล่นหาสูงมาก และหายากสุดๆ รวมถึงวัตถุมงคลประเภทรูปเหมือน เหรียญ และเครื่องรางของขลังต่างๆด้วย

หลวงปู่ทิม ท่านมีนามเดิมว่า “ทิม งามศรี” เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2422 เมื่ออายุ 17 ปี บิดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อสิงห์ วัดละหารใหญ่ เล่าเรียนหนังสือทั้งไทยและอักษรขอม เมื่ออายุครบบวชได้เข้าอุปสมบทที่วัดทับมา โดยมี พระครูขาว เจ้าคณะแขวงเมืองระยอง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อสิงห์ เป็นกรรมวาจาจารย์ เจ้าอธิการเกตุ เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “อิสริโก”

หลังบวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนทางธรรมกับหลวงพ่อสิงห์ และศึกษาวิชาต่างๆ จากตำราคู่วัดละหารใหญ่ ซึ่งเป็นตำหรับเดิมของหลวงปู่สังข์เฒ่า จนมีความรู้แตกฉาน จากนั้นท่านได้ออกจาริกปฏิบัติธุดงค์กับหลวงพ่อยอด ครั้นเมื่อใกล้เข้าพรรษาได้กลับมาที่จังหวัดชลบุรี จำพรรษาที่วัดนามะตูมถึง 2 พรรษา ร่ำเรียนศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระเกจิอาจารย์ดังหลายรูป

จากนั้นได้กลับมาจำพรรษาที่วัดละหารไร่ และได้รับนิมนต์จากชาวบ้านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ด้วยความเป็นพระที่มากเมตตาจึงมีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาท่านมากมาย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2518 สิริอายุ 96 ปี 72 พรรษา

ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก สนนราคาเล่นหาสูงๆทั้งนั้น อาทิ พระขุนแผนผงพรายกุมาร สภาพสวยๆสู้กันถึงหลักแสน

ประเภทเหรียญรูปเหมือนก็ไม่ธรรมดา รวมถึง “พระกริ่งชินบัญชร” ด้วย

“พระกริ่งชินบัญชร” ของหลวงปู่ทิม ประกอบพิธีเททองหล่อที่ลานวัดละหารไร่ ตรงกับบริเวณที่ตั้งของศาลาภาวนาภิรัตในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2517 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ปี ขาล เวลา 08.49 น.ลัคนาสถิตเทวีแห่งฤกษ์วางฤกษ์ พอได้เวลา 06.45 น. หลวงปู่ทิม จุดเทียนชัยพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์แล้วสวดคาถาจุดเทียนชัย (ฤกษ์ในการจุดเทียนชัย)

การหล่อพระกริ่งชินบัญชรครั้งนั้นอยู่ในช่วงฤดูฝนและเป็นระยะที่มีฝนตก แต่ในเวลาที่เททองหล่อพระชุดชินบัญชรนี้ บริเวณวัดละหารไร่กลับไม่มีฝนตกเลย ทั้งที่รอบนอกห่างจากวัดไปไม่เท่าไร มีฝนตกหนักมากจวบจนเททองหล่อพระกริ่งเสร็จ ฝนจึงตกลงมาอย่างหนัก ผู้คนทั่วไปเห็นความมหัศจรรย์นี้ ผู้คนที่มาจึงเริ่มหาใบจองพระในครั้งนั้น

วัตถุประสงค์การสร้างพระชุดชินบัญชรเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่จะร่วมบริจาคเงินสำหรับซ่อมสร้างถาวรวัตถุในวัดละหารไร่ ซึ่งกำลังชำรุดทรุดโทรม โดยเฉพาะพระอุโบสถซึ่งสร้างด้วยไม้ พระประธานซึ่งปั้นด้วยดินดิบโดยฝีมือของหลวงปู่ทิมกำลังพัง พื้นอุโบสถที่เป็นดินดิบแบบแข็งกะเทาะ พิ้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ มีเพียงอุโบสถซึ่งกำลังก่อสร้างแต่ยังไม่แล้วเสร็จ หลวงปู่ทิมเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารไร่มาตั้งแต่หนุ่มๆ เพราะท่านบวชตั้งแต่อายุ 23 ปี และเป็นเจ้าอาวาสมานานหลายสิบปี

พุทธลักษณะของพระกริ่งชินบัญชร ได้ถอดแบบมาจากพระกริ่งใหญ่ของจีนซึ่งมีอายุราว 800-1,000 ปี ลักษณะเป็นพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาพุทธเจ้าประทับนั่งบนโพธิบัลลังก์บัว 2 ชั้น ด้านหลังไม่มีบัว พระหัตถ์ซ้ายทรงถือหม้อยาอัคตะ พระหัตถ์ขวาทรงวางอยู่เหนือพระชานุ ขัดสมาธิเพชร พระเกศาเป็นเม็ดกลมๆ จัดว่าสวยงามพอสมควร ใต้ฐานปิดด้วยแผ่นทองคำ เงิน หรือทองแดง พระทุกองค์จะมีหลายเลขกำกับและตอกโค้ดไว้ที่ด้านหลังองค์พระเหมือนกับทุกองค์

ตอนที่พระกริ่งชินบัญชรออกมาใหม่ๆ ผู้จองต่างผิดหวังที่พระออกมาไม่ค่อยสวย พระกริ่งที่ออกให้บูชาองค์ละ 300 บาท เมื่ออกแล้วเคยมีผู้นำมาคืน เมื่อหลวงปู่ทิมทราบท่านกลับบอกว่า “อีกหน่อยพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ” เมื่อกาลเวลาผ่านไปไม่กี่ปี ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำบอกของหลวงปู่ท่านเป็นจริงแล้ว

พระชุดชินบัญชร เททองเสร็จเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2517 แล้วได้นำกลับไปตกแต่งที่โรงหล่อ เสร็จแล้วจึงนำกลับไปถวายแด่หลวงปู่ทิม โดยท่านปลุกเสกอีก 7 วัน 7 คืน จากนั้นจึงนำไปดอกโค้ด ซึ่งพระชุดชินบัญชรแบ่งออกได้ดังนี้ 1.พระกริ่งชินบัญชร เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 13 องค์ ทุกองค์จะตอกเลขไทยตั้งแต่ ๑-๑๓ ไว้ที่ใต้ฐานมีโค้ตตราศาลาอยู่และปิดก้นด้วยแผ่นทองคำ ด้านหลังตอกโค้ดตัวนะเล็กๆ ไว้ทุกองค์

2. พระกริ่งชินบัญชรก้นเงิน คือมีแผ่นเงินไว้ที่ฐานตอกโค้ดศาลาและตอดโค้ดตัวนะที่ด้านหลัง โดยพระกริ่งก้นเงินแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ ชุดก้นเงินแจกกรรมการ สร้างจำนวน 195 องค์ ด้านหลังตอกโค้ดตัวนะใต้ฐาน มีแผ่นเงินตอกโค้ดศาลา ชุดนี้ไม่ได้ตอกหมายเลขกำกับ พระกริ่งชินบัญชรก้นเงินอีกจำนวน 195 องค์ เหมือนชุดแรกทุกอย่าง แค่ตอกหมายเลข ๑-๑๙๕ ไว้ที่ด้านหลัง ซึ่งพระชุดนี้ถวายวัดเจ้าเจ็ด ในนาม “พระอาจารย์ทองเจือ” เพื่อช่วยหาปัจจัยเสร้างวัดเจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

พระกริ่งชินบัญชรก้นเงิน เนื้อพิเศษ สร้างจำนวน 16 องค์ พระชุดนี้ก้นหุ้มเงิน บุ๋ม เป็นท้องกระทะ ผู้ที่ร่วมทำด้วยเห็นหุ้มก้นแบบนี้สวยดี จึงเอาพระกริ่งตีก้นเงินหุ้มไว้ใช้เองอีกประมาณ 20 องค์ รวมพระนี้ก้นเงินและก้นหุ้มเงินมีจำนวนทั้งสิ้น 406 องค์

3.พระกริ่งชินบัญชรก้นทองแดง จะปิดแผ่นทองแดง ไว้ใต้ฐานและตอกหมายเลข ๒-๒๕๙๕ มีจำนวนทั้งสิ้น 2,595 องค์ เลข 95 ด้านท้ายมาจากอายุหลวงปู่ทิม พระก้นทองแดงทุกองค์ตอกโค้ดตัวนะไว้ด้านหลัง

พระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิมยังมีแบบพิเศษต่างๆ อีก เช่น ก้นอุดผงพรายกุมาร แต่พระมีจำนวนน้อยทำเอาไว้ใช้กันเองในหมู่ลูกศิษย์ อย่างไรก็ตามพระกริ่งชินบัญชรเป็นวัตถุมงคลที่นับวันจะมีค่านิยมเล่นหาสูงขึ้น ปัจจุบันของเก๊เฉียบขาดระบาดหนัก ฉะนั้นนักสะสมมือใหม่ต้องศึกษาให้ดี หรือปรึกษาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญก่อน

 
 
 

Komentar


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page