top of page
ค้นหา

รำลึก124ปีชาตกาล"จอมพล ป."ผู้สร้างเหรียญประวัติศาสตร์พระพุทธสิหิงค์5เหลี่ยมปี2495

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 14 ก.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

รำลึก124ปีชาตกาล"จอมพล ป." อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนที่3 ผู้สร้างเหรียญประวัติศาสตร์ พระพุทธสิหิงค์5เหลี่ยมปี2495

ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอวันที่14 กรกฎาคม 2564 ตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบ 124ปีของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม(แปลก ขีตตะสังคะ) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "จอมพล ป." อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่3ของไทย

จอมพล ป. เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2440 นามเดิม "แปลก ขีตตะสังคะ" เกิดที่อำเภอเมืองนนทบุรี ศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก โรงเรียนเสนาธิการ และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นได้กลับมารับราชการจนกระทั่งได้ยศพันตรี มีบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น "หลวงพิบูลสงคราม"

ท่านเป็นหนึ่งในคณะราษฎร ที่ทำการอภิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนา ยน 2475 อีกสองปีต่อมาได้เลื่อนยศเป็นพันเอกและดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก จอมพล ป. เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของไทย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2481 โดยการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป. ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร หลังจากสงครามสิ้นสุดลงจอมพล ป. จึงติดคุกในฐานะอาชญากรสง ครามและต้องยุติบทบาททางการเมืองทั้งหมด ท่านกลับไปพำนักที่บ้าน อ. ลำลูกกา จ. ปทุม ธานี ก่อนจะคืนสู่อำนาจอีกครั้งในปี 2491 เมื่อทหารกลุ่มหนึ่งทำรัฐประหารแล้วเชิญท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรี คราวนี้ท่านครองตำแหน่งนานถึง 9 ปี

จอมพล ป. ต้องพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ โดยใช้นโยบาย ชาตินิยม อาทิ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทยเน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” ประกาศ รัฐนิยม เพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่ ทั้ง เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ ดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม และเปลี่ยนชื่อประเทศสยามมาเป็นประเทศไทย โดยมีคำขวัญว่า "เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย"

ถือว่าจอมพล ป. ได้ทำการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่ไม่พอใจได้พยายามลอบสังหารท่านหลายครั้ง แต่ก็รอดหวุดหวิดทุกครั้ง จนได้รับฉายาว่า “จอมพลกระดูกเหล็ก” จนในที่สุด พลเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500 ท่านจึงต้องลี้ภัยทางการเมืองไปที่ประเทศญี่ปุ่น และพำนักอยู่ที่นั่นจนวาระสุดท้ายของชีวิต ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจวาย ณ บ้านพักที่ตำบลซากามิโอโน ชานกรุงโตเกียว รวมอายุได้ 67 ปี

ทั้งนี้ จอมพล ป.ท่านเคยสร้าง"เหรียญห้าเหลี่ยม พระพุทธสิหิงค์ หลังลายเซ็นของท่านเมื่อปี พ.ศ.2495 เพื่อเป็นการบูชาและรำลึกถึงพระกฤตยาภินิหารของพระเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ที่ประดิษฐานอยู่บนเรือหลวง"ศรี อยุธยา"ที่ได้ช่วยคุ้มครองท่านจอมพล ป.ที่ถูกควบคุมตัวจากฝ่ายกบฏแมนฮัตตัน ที่โจมตีด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดและอาวุธต่างๆ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้ชัยชนะในที่สุด

พิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ โดยมีท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) วัดสุทัศน์ ศิษย์เอกของท่านสมเด็จสังฆราชแพ เป็นเจ้าพิธี และเกจิดังขมังเวทย์ร่วมปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา,หลวงพ่อคงวัด บางกะพ้อม,หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ,หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ,หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง และพระสายกรรมฐาน พระอาจารย์มั่นอีกหลายรูป ...มีประสบการณ์คลาดแคล้วปลอดภัย ดีทุกด้าน







 
 
 

コメント


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page