top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนอ.อนุชา ทรงศิริ

ร่วมมุทิตาคล้ายวันเกิดหลวงพ่อจอน


เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา คณะศิษย์ร่วมจัดงานแสดงมุทิตาสักการะคล้ายวันเกิด พระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตาต่อศิษย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดงพญาเย็น “หลวงพ่อจอน วัฑฒจิตโต” เจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีใน จ.นครราชสีมา โดยมี พระสมาจารวิมล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ศิษย์นำรูปม้าคึกคักเนื้อโลหะราศีปีเกิดมาถวายตั้งในพิธี บอกเป็นสื่อถึงสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนั้นยังจัดทำเค้กมาถวายเป็นเลข 78 ซึ่งหมายถึงอายุครบ 78 ปี พร้อมข้อความ สุขสันต์วันเกิด หลวงพ่อจอน ขอให้สุขภาพแข็งแรง อยู่ 109 ปีขึ้นนะค่ะ ภายในงานยังมีการบรรเลงดนตรีไทยของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-5 ปี ของโรงเรียนผ่านศึกสงเคราะห์ และโรงเรียนบ้านลำทองหลางด้วย หลังจากจัดเลี้ยงภัตตาหารเพลพระสงฆ์แล้ว ก็เปิดให้ศิษยานุศิษย์พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไปร่วมแสดงมุทิตาสักการะสรงน้ำขอพรด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

หลวงพ่อจอน ท่านเป็นศิษย์พุทธาคมสายตรงของ “หลวงปู่โทน กันตสีโล” แห่งวัดเขาน้อยคีรีวัน ปัจจุบันสิริอายุ 78 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาว ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2485 ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา เมื่ออายุครบตามเกณฑ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบุญฤทธิ์ (บึงบน) ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยมี หลวงปู่พัทธ วัดบึงบวรสถิตย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ในขณะนั้นเอง ท่านได้มีโอกาสไปฝากตัวเป็นศิษย์กับ หลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พระเกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ได้ศึกษาวิทยาคมอีกหลายแขนง รวมทั้งศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ คือ การเสกน้ำมันมนต์ประสานกระดูกจากหลวงปู่โทนอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาต้องลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพ อย่างไรก็ตาม แม้จะลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงคฤหัสถ์แล้วก็ตาม ในใจท่านยังระลึกอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งท่านต้องกลับมารับใช้พระพุทธศาสนาตามที่ใจตั้งมั่นไว้ให้ได้ เพียงเวลาไม่นาน ท่านก็สมปรารถนา ได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่วัดกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มี พระครูอนุรักษ์วรันดร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์นฤนาท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “วัฑฒจิตโต” หลังจากบวชครั้งนี้ ศึกษาเล่าเรียนในพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดมิตรภาพวนาราม จ.นครราชสีมา ต่อมา ได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กับการศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่เก่งในทางนี้ ท่านเคยเดินทางไปวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ตะเบง ภิกษุสงฆ์ชาวพม่า ซึ่งธุดงค์มาวิปัสสนาอยู่แถบรอยต่อระหว่าง อ.แม่สอด และประเทศพม่าอยู่ระยะหนึ่ง โดยหลวงพ่อจอนได้มีโอกาสรับถ่ายทอดวิชาความรู้ทางพุทธาคมกับภิกษุชาวพม่าท่านนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังได้มีโอกาสรับเอาตำรับการสร้างเครื่องรางของขลัง การนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในรูปแบบขอมโบราณ และรูปแบบต่างๆ จากหลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิอาจารย์ชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลวงพ่อจอนได้ตั้งปณิธานจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถึง ที่สุด โดยได้ช่วยพระอาจารย์สุวรรณ วณโพ เจ้าอาวาสรูปแรกพัฒนาบูรณะสำนักฝึกจิตนิมิตธรรม จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ ซึ่งก็คือวัดบุญฤทธิ์ในปัจจุบันนี้ โดยวัดได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2539 จากเริ่มแรกมีเพียงกุฏิไม้หลังเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้น จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด หลังจากสำนักสงฆ์เปลี่ยนเป็นวัดบุญฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์สุวรรณ เจ้าอาวาสรูปแรก ท่านได้จาริกธุดงค์ไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อจอนจึงได้เลื่อนเป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา ซึ่งท่านก็ได้ทำนุบำรุงวัดบุญฤทธิ์ให้การปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้าง อาคารเสนาสนะต่างๆ เรื่อยมา เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2528 จวบจนปัจจุบัน วัตถุมงคลหลวงพ่อจอน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาทิ แก้วราหู เบี้ยแก้ ตะกรุดโทนนะเมตตา พระกริ่งพญาราหู รวมถึงพระขุนแผน ที่ใช้มวลสารเก่าและปลุกเสกด้วยวิชาพระราหู ผสมมวลสารพรายกัญญา มวลสารพรายกุมาร เช่น พระขุนแผนพรายชุมพล พระขุนแผนพรายกุมารกัญญา พระขุนแผนปู่โสมดงพญาเย็น พระขุนแผนพรายนารี และล่าสุดกำลังเปิดให้สั่งจอง พระขุนแผนเศรษฐีบุญฤทธิ์


ดู 13 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page