top of page
ค้นหา

"หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม"พระเถระ5แผ่นดิน สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทอง เมืองราชบุรี ศิษย์พุทธาคม 10 สาย

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม"พระเถระ5แผ่นดิน

สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทอง เมืองราชบุรี

ศิษย์พุทธาคม 10 สายพระเกจิอาจารย์ดัง

หลวงพ่อสดบวชให้/สำเร็จธรรมกาย-ลบผง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณ"หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม" อายุ 110 ปี แห่งสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ศิษย์ 10 สายพระเกจิอาจารย์หรือที่ลูกศิษย์เรียกกันว่า “หลวงปู่ทองพูน บารมี10 ทัศ”

พื้นเพท่านเป็นชาว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เกิดเมื่อปีพ.ศ.2456 ในสกุล"จันทร์นาค" เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของนายเพิ่มศักดิ์ และนางอบเชย (อังกินันท์) วัยเยาว์เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดไสค้าน จากนั้นบรรพชาที่วัดราษฎร์ศรัทธาราม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยมีพระครูวิสุทธิเมธร (หลวงพ่อเวก) วัดศาลาหมูสี เป็นพระอุปัชฌาย์ ช่วงนั้นวัดนิมนต์พระอาจารย์จากวัดปากน้ำภาษีเจริญมาสอนกัมมัฏฐาน

ช่วงหนึ่งพี่ชายชวนท่านลาสิกขา แต่ใจของท่านชื่นชอบทางธรรม จึงตัดสินใจอยู่จำพรรษาที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้พบและศึกษาธรรมกับหลวงพ่อสด จันทสโร ก่อนเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสังกัดวัดปากน้ำ มีโอกาสเรียนหนังสือจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดประยุรวงศาวาส และสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

ต่อมาอายุ 31 ปี ท่านเกิดติดเชื้อไข้มาลาเรียจนขึ้นสมอง โชคดีที่แพทย์ช่วยรักษาไว้ทัน แต่ทำให้สมองเสียหายบางส่วน ส่งผล กระทบในเรื่องความจำ จึงตัดสินใจลาสิกขา รวมเวลาอยู่ที่วัดปากน้ำ 22 ปี โดยหลวงพ่อสดได้สอนให้ท่านนั่งกัมมัฏฐาน โดยให้ใช้การบริกรรม “สัมมาอะระหัง”

หลังลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตฆราวาส ทำไร่ทำนา พร้อมกับรักษาศีล ด้วยความเป็นคนรักความยุติธรรม ท่านต่อสู้กับพวกอันธพาลคนเลวที่ชอบรังแกชาวบ้าน ท่านกล่าวว่า “อาตมาไม่เคยดื่มเหล้า ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่เกลียดคนทำชั่ว”

กระทั่งในปี พ.ศ.2520 ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ที่วัดบ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พรรษาแรกผ่านไป ท่านออกแสวงหาที่สงบหลายแห่งโดยย้ายไปอยู่วัดเขาเขียว แล้วไปอยู่ที่ถ้ำเขาปิ่นทอง วัดถ้ำสิงโตแก้ว จนสุดท้ายมาสน้างสพนักปฏิบัติธรรมอยู่ที่ถ้ำจำปาทองเป็นเวลา 9 ปี

หลวงปู่ทองพูน เป็นศิษย์ 10 สายพระเกจิอาจารย์หรือที่ลูกศิษย์เรียกกันว่า “หลวงปู่ทองพูน 10 ทัศ” ซึ่งส่วนมากเป็นอดีตเกจิดังแห่งเมืองเพชรบุรี ประกอบด้วย หลวงพ่อสด จันทสโร วัดปากน้ำ, สายพระเทพวงศาจารย์ หรือหลวงปู่อินทร์ อินทโชโต วัดยาง, สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี, สายหลวงพ่ออบ อินทวิริโย วัดถ้ำแก้ว, สายหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง, สายหลวงพ่อพิมพ์ (มาลัย มาลโย) วัดหุบมะกล่ำ จ.ราชบุรี, สายหลวงพ่อชม วัดดอนกอก, หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ, สายหลวง พ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ และหลวงพ่อเงิน วัดดอน ยายหอม

1.สายหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านได้รับการบวชเณรและบวชพระจากหลวงพ่อสด พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชามหาโภคทรัพย์และธรรมกายชั้นสูงให้จนสำเร็จธรรมกายเละการลบผงมหาโภคทรัพย์ตามแบบฉบับหลวงพ่อวัดปากน้ำ โดยท่านอยู่อุปัฎฐากและร่ำเรียนกับหลวงพ่อสดนานถึง 22 ปี ตั้งเเต่อายุ 9 ขวบ จนถึงอายุ 31 จนสามารถชักยันต์ลบผงและบรรจุวิชาสำเร็จ

2. สายพระเทพวงศาจารย์ หรือหลวงปู่อินทร์ วัดยาง เพชรบุรี เจ้าของวิชากระสุนหลง นะโมหัวช้าง ไม้สะแกตาบอด โดยหลวงปู่อินทร์มีศักดิ์เป็นหลวงลุงของท่าน

3. สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เพชรบุรี เจ้าของวิชาตะกรุดไมยราพสะกดทัพและวิชาด้านคงกระพันต่างๆจาก 2 ศิษย์เอกของหลวงพ่อกุน คือ หลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดท่อเจริญธรรม ซึ่งเป็นหลวงน้าโดยสายนี้ท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมอีกจากอาจารย์ฆราวาสซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงคือ"ปู่หมอหนู" ซึ่งเป็นศิษย์ทั้งหลวงพ่อกุน วัดพระนอน และหลวงพ่อชม วัดดอนกอก

4. สายหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เพชรบุรีเจ้าของวิชาชาตรี ตีไม่แตก หลวงปู่ทองพูนเป็นหลานหลวงพ่ออบ 5. สายหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงเรียนวิชานะปัดตลอด มหาอุตม์คงกระพัน จากหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร ลูกผู้พี่ของท่าน

6. สายหลวงพ่อพิมพ์มาลัย มาลโย วัดหุบมะกล่ำ ราชบุรี เจ้าของวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ สมัยหลวงพ่อพิมพ์อยู่วัดทับใต้ได้ฝังเข็มทองให้หลวงปู่ด้วย 7.สายหลวงพ่อชม วัดดอนกอก เพชรบุรี ศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เจ้าของลูกสะกด หมากทุย พระปิดตาคลุกรัก วิชามหาอุตม์คงกระพัน ของท่านนักเลงบ้านลาดเชื่อมั่น หลวงพ่อชมมีศักดิ์เป็นหลวงตาของหลวงปู่ทองพูน

8. สายหลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ เพชรบุรีคงกระพันแคล้วคลาด หลวงพ่อผินเป็นเพื่อนสนิทของโยมพ่อหลวงปู่ 9. สายหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ เพชรบุรี วิชามหาเมตตา เนื่องจากหลวงพ่อเทพเอ็นดูท่านตั้งแต่เป็นสามเณร ติดตามพระครูวิสุทธิเมธี (หลวงพ่อเวก) วัดศาลาหมูสี ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชเณรครั้งแรกของท่านและเป็นเจ้าคณะแขวงเดินทางมาแต่งตั้งหลวงพ่อเทพ เป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำรงค์

10. สายหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม เรียนวิชาโพธิสัตว์ บารมีสิบทัศน์ สาริกาลิ้นทองจากหลวงพ่อเวก วัดศาลาหมูสี ซึ่งเป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงพ่อเงิน เนื่องจากเมื่ออายุ 8 ขวบ โยมย่าพาท่านมาบวชเรอยู่กับพระพี่ชายที่วัดศาลาหมูสี ทำให้ท่านสนิทกับหลวงพ่อเวกซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ก่อนที่ปีต่อมาหลวงปู่จะหนีพระพี่ชายไปอยู่วัดปากน้ำและหลวงพ่อสดให้สึกและท่านเป็นอุปัชฌาย์บวชให้ใหม่ ภายหลังหลวงปู่กลับมาบ้านครั้งใดก็ไปกราบไปนอนกับหลวงพ่อเวกเป็นประจำ

พระอาจารย์แต่ละองค์ของท่านเป็นเกจิดังำม่ธรรมเา จึงชี้ชัดได้ว่า หลวงปู่ทองพูนท่านไม่ธรรมดาแน่นอน มีผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน โดยเฉพาะสายวัดปากน้ำรู้กันมานาน และแวะเวียนไปขอธรรมจากท่านเป็นประจำ คนกรุงเทพฯที่สนใจธรรมต่างไปกราบนมัสการท่านอยู่เสมอแทบทุกวัน

แม้วัยจะย่างเข้า111 ปีแล้ว แต่ท่านยังคงยิ้มแย้มต้อนรับญาติโยม และสนทนาธรรมได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งสงเคราะห์เหล่าศิษย์ที่เดือดร้อนอยู่ภายในกุฎิเสมอ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ คนที่ได้มากราบหลวงปู่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่มากราบขอพรหลวงปู่ กลับไปแล้วก็มีชีวิตที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเรื่องการงาน การเงิน ธุรกิจอย่างน่าอัศจรรย์

สำหรับวัตถุมงคลยอดนิยม อาทิ พระผงพญาเต่าเรือน เต่าหล่อ และเหรียญพญาเต่าเรือนที่ถ้ำจำปาทอง มีประสบการณ์ทางด้านโชคลาภเป็นกล่าวขานของลูกศิษย์ ในจังหวัดราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และทั่วประเทศ

สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทอง ตั้งอยู่ใน ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ของสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งก็อยู่บนภูเขาหินปูนลูกเล็กๆอีกที โดยด้านในบริเวณจะมีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นอย่างมาก เหมาะกับสายมูสายบุญที่อยากมาไหว้พระ แถมยังได้ชมวิวด้านบนสวยๆ นอกจากนี้ ยังประดิษฐาน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ อย่าง หลวงพ่อนำโชค อีกด้วย ซึ่งมีพุทธลักษณะดงามอลังการ ควรค่าแก่การกราบไหว้สักการะ โดยองค์พระนั้นเกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้านและหลวงปู่ทองพูนที่ร่วมกันสร้าง ซึ่งมีอายุมามากกว่า 28 ปี


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page