top of page
ค้นหา

"หลวงปู่วาส สีลเตโช"เกจิดังขมังเวทย์เมืองนนท์สายพุทธาคมวัดสะพานสูง

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงปู่วาส สีลเตโช" เกจิดังขมังเวทย์เมืองนนท์ สายพุทธาคมวัดสะพานสูง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอพาย้อนตำนานเกจิอาจารย์ดังขมังเวทย์ "หลวงปู่วาส สีลเตโช" หรือ"หลวงตาวาส" อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งวัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นศิษย์เอกสืบสายธรรมจากหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่กลิ่น หลวงพ่อทองสุข และหลวงตาใย แห่งวัดสะพานสูง รวมทั้ง อาจารย์แปลก ร้อยบาง ฆราวาสจอมขมังเวท

ท่านเกิดในสกุล "เกิดน้อย"เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2459 ที่บ้านในเขต อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพัดและนางเลื่อน เมื่ออายุครบ 21 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา-อุปสมบท มี พระสุเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส (วัดปากอ่าว) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า "สีลเตโช"

สำหรับประวัติหลวงปู่วาสที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูงที่ชัดเจนที่สุด คือ หลวงปู่วาสสืบทอดพุทธาคมจากอาจารย์แปลก ร้อยบาง แห่งวัดสะพานสูง และยังเป็นทายาทโดยสายเลือดของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง โดยเป็นเหลนของทวดอิ่ม ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมอุทรของหลวงปู่เอี่ยม นอกจากนี้ ยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ที่เป็นทั้งน้าและอา เกี่ยวโยงเป็นญาติกัน

ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ.2480 เมื่อครั้งที่ท่านบวชนั้น ทั้งหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง และหลวงพ่อสุ่น ได้เดินทางไปร่วมงานฉลองพระใหม่ที่บ้าน และหลวงพ่อสุ่นได้มอบหนุมานเนื้องาและผ้ายันต์ให้เป็นของที่ระลึก พร้อมกับบอกคาถาปลุกเสกหนุมานให้ด้วย

ส่วนพระอาจารย์ผัน แห่งวัดอินทาราม ศิษย์เอกของหลวงปู่กลิ่น และเป็นผู้ที่สร้างพระปิดตา-พระลำพูน ถวายหลวงปู่กลิ่นแจกในงานแซยิด ครบ 6 รอบ ท่านมีความเกี่ยวข้องเป็นญาติผู้พี่ของหลวงปู่วาสด้วย ส่วน"หลวงพ่อจำปา นารโท" พระเกจิอาจารย์ทางด้านสักยันต์ เจ้าของตำนาน"หนังไม่เหนียว ห้ามเที่ยววัดสาลีโข "มีศักดิ์เป็นหลวงน้าของหลวงปู่วาส

กล่าวกันว่า หลวงปู่วาสป็นผู้สืบทอดวิชาตะกรุดโสฬสมหามงคล ตะกรุดมหาอุด โดยท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์แปลก ร้อยบาง ฆราวาสทายาทพุทธาคมยันต์มหาอุดตำรับหลวงปู่เอี่ยม

อาจารย์แปลก ร้อยบาง เป็นศิษย์ฆราวาส ร่ำเรียนวิชาการทำตะกรุดโสฬสมหามงคล มาจากหลวงปู่กลิ่น ในฐานะศิษย์สายตรงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นฆราวาส ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมืองนนทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง

จวบจนหลวงปู่กลิ่นมรณภาพ อาจารย์แปลกก็ยังคงจารตะกรุดจนถึงสมัยของหลวงพ่อทองสุข และในช่วงนั้นเอง อาจารย์แปลกได้ถ่ายทอดวิชาการทำตะกรุดมหาอุดให้หลวงปู่วาสืส่วนหลวงตาใย ศิษย์หลวงพ่อทองสุข ได้ครอบครูยันต์โสฬสมงคลให้กับหลวงปู่วาสอีกด้วย

หลวงปู่วาสร่ำเรียนวิชานี้อย่างครบสูตรวิชาโสฬสมหามงคลและยันต์มหาอุดจนเกิดความชำนาญ สามารถสานต่องานลงจารเขียนยันต์ด้วยจิตที่มีสมาธิแน่วแน่บังเกิดเป็นพุทธคุณ เห็นทันตาในยุคนั้น

หลวงพ่อวาสท่านครองตนอย่างสมถะ ไม่สะสมทรัพย์สินเงินทอง มักน้อย ถือสันโดษ นอกจากความเป็นพระเกจิชื่อดังแล้ว ในอีกด้านหนึ่งท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่มีแต่ให้ ไม่เคยหวังผลจากความดีความชอบ หรือการตอบแทนใดๆทั้งสิ้น โดยท่านได้พัฒนาวัดสะพานสูงจนเตริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมการเรียนการสอนแก่นักเรียนและเยาวชนในละแวกวัดด้วยการมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

วาระสุดท้ายท่านละสังขารเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2559 ที่โรงพยาบาลกรุงไทย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สิริอายุมากถึง 101 ปี

สำหรับพระเครื่องของท่านรับประกันได้ในความเข้มขลัง ทั้งพระปิดตาหรือว่าตะกรุด กล่าวขานกันว่าสุดๆเรื่อง"เหนียว" แคล้วคลาดปลอดภัยตามตำรับสายวัดสะพานสูงแท้จริง!






 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page