top of page
ค้นหา

"หลวงปู่หลิน จันทสาโร"เกจิหมอยาเมตตาสูง สำนักสงฆ์บ่อศิลาหงษ์ทอง เมืองมุกดาหาร

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 22 พ.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

"หลวงปู่หลิน จันทสาโร"เกจิหมอยาเมตตาสูง

สำนักสงฆ์บ่อศิลาหงษ์ทอง เมืองมุกดาหาร

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ขอนำเสนอประวัติ "หลวงปู่หลิน จันทสาโร" พระดีเกจิดังแห่งสำนักสงฆ์บ่อศิลาหงษ์ทอง อ.ดงเย็น จ.มุกดาหาร พระเกจิสายเหนียวและเมตตา อดีตเสือเก่าจอมขมังเวทย์ในตำนานแห่งอีสานใต้

ท่านมีนามเดิมว่า "ถวิล" นามสกุล "พุฒป่า" เกิดที่บ้านหนองบัว ต.ทุ่งมน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนมาขึ้นกับจังหวัดยโสธร) เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เม.ย. 2481 ตรงกับขึ้น 3 ค่ำ 4 ปีขาล บิดาชื่อ "คุณพ่อยน" มารดาชื่อ "คุณแม่ปุ่ม" โดยมีพี่น้องร่วมสายเลือดทั้งหมด 4 คน คือ 1.นายปุ๋ย พุฒป่า (เสียชีวิตแล้ว) 2.นายอิน พุฒป่า 3.นางเวิน พุฒป่า (เสียชีวิตแล้ว) 4.นายถวิล พุฒป่า

ครอบครัวประกอบอาชีพชาวไร่ชาวนา

ด้านการศึกษาท่านจบชั้นประถมฯ4 ซึ่งสมัยนั้นถือว่าสูงมาก หลังเรียนจบได้ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำสวนตามปกติ จนกระทั่งอายุได้ 14 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ชีวิตพลิกผัน ท่านได้ออกจากบ้านหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้ว่าไปไหน ไปกับใคร และเป็นอยู่อย่างไร โดยท่านหายไปเป็นเวลานานถึง 26 ปี จนพ่อแม่และญาติพี่น้องคิดว่าท่านเสียชีวิตแล้ว ก็เลยพากันทำบุญ ทางอีสานเรียกว่า"แจกข้าวหา"

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังทำบุญหาท่าน ปรากฏว่า ท่านกลับมาในวันนั้นแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ญาติพี่น้องต่างประหลาดใจเลยถามท่านว่า "ช่วงที่หายไป ไปอยู่ไหนมา ไปทำอะไร" ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า วันที่หายไป ท่านเห็นชายแก่ผมขาว แต่งชุดขาวมาบอกว่าจะพาไปเรียนวิชาเพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ท่านจึงเดินตามออกไป และท่านก็ได้ไปเรียนวิชาตามที่ต่างๆ และฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลายสำนัก ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส หลายท่านจนสำเร็จมาหลายวิชา

สำหรับอาจารย์ที่หลวงปู่หลินได้ไปเรียนวิชาด้วย 1.หลวงปู่โต วัดถ้ำเขาพระกู จ.ลพบุรีบ้านหมี่ 2.อาจารย์เหลือ กุมารทอง บ้านปากดง จ.ราชบุรี 3.อาจารย์เยื่อ น้องของอาจารย์เหลือ 4.เกจิอาจารย์เขมร (หลวงปู่ไม่ขอเอ่ยนาม) 5.สายกรรมฐานเคยอยู่กับหลวงปู่จาม

มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร 6.แลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่ทา ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น,แลกเปลี่ยนวิชากับญาถ่านขาน วัดหนองอ้อ จ.มุกดาหาร และอีกหลายท่านที่หลวงปู่บอกว่ายังจำไม่ได้

ตอนที่ท่านเรียนวิชาอยู่นั้น ท่านได้ลองวิชาที่ร่ำเรียนมาจนเป็นที่เลื่องลือกันว่า ท่านฟันแทงไม่เข้า และยังมีเรื่องราวอีกหลายอย่างที่ท่านไม่สามารถเปิดเผยได้ ท่านได้ทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านมา 26 ปี ท่านจึงนึกถึงคำของชายแก่ชุดขาวที่บอกว่าให้นำวิชามาช่วยเหลือคนเดือดร้อน ท่านจึงออกบวชที่บ้านเกิดของท่าน เมื่ออายุ 40 ปี จากนั้นได้ธุดงค์สร้างวัดไปเรื่อยๆถึง 14 วัด จนมาถึงที่พักสงฆ์บ่อศิลาหงษ์ทอง จ.มุกดาหาร ท่านได้มาพัฒนาสร้างศาลาหอฉัน สร้างพระใหญ่, พญานาค, ห้องน้ำและศาลาการเปรียญประตูโค้งจนแล้วเสร็จ

จากนั้นจึงออกเดินธุดงค์อีกครั้งมาสร้างวัดใหม่วัดที่ 15 คือสวนสงฆ์บ่อศิลาเต่าทอง อยู่ที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหารโดยมี"ตาเสริม"ผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายที่ดินจำนวน 1 ไร่ 2 งานให้สร้างเป็นสวนสงฆ์บ่อศิลาเต่าทอง

ส่วนวัตถุมงคลที่หลวงปู่หลินได้ร่วมปลุกเสก มามีด้วยกันหลายรุ่น คนที่เอาไปใช้ต่างรู้ดีว่ามีพุทธคุณสูงแค่ไหน โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มีประสบการณ์เล่าขานมากมาย

คำสอนของหลวงปู่..."ฉันน้อย พูดน้อย ทำให้มาก"..."สติปัญญาจะทำให้ตัวเราสู่พระนิพพาน..."

จากอดีตเสือเก่าในตำนาน จอมขมังเวทย์แห่งแดนอีสานใต้ที่มีผู้คนเกรงกลัว กลายมาเป็นพระเกจิสายเหนียวและเมตตา ช่วยเหลือผู้คน เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำโขง สุดยอดพระเกจิผู้มากด้วยเมตตา รักษาโรคช่วยชีวิตคน โรคกระดูก ขาหัก แขนหัก ได้ตามแบบวิชาหมอธรรมพื้นบ้าน และปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page