top of page
ค้นหา

"หลวงปู่โสภณ จารุวณฺโณ" เกจิวัดหลวงอรัญ ศิษย์พุทธาคมปู่หมุน-ปู่สรวง-ครูบาเที่ยงธรรม

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

"หลวงปู่โสภณ จารุวณฺโณ" เกจิวัดหลวงอรัญ

ศิษย์พุทธาคมปู่หมุน-ปู่สรวง-ครูบาเที่ยงธรรม

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณ"หลวงปู่โสภณ จารุวณฺโณ" หรือที่เรียกขานกันสั้นๆว่า"หลวงปู่โส" เกจิอาจารย์วัดหลวงอรัญ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ศิษย์สืบสายพุทธาคม "หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล" วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว,หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ,ครูบาเที่ยงธรรม วัดเวฬุวัน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ,หลวงปู่ทอง วัดหลวงอรัญ ฯลฯ

หลวงปู่โสภณปัจจุบันอายุ 79 ปี ท่านได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาจากหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดป่าหนองหล่ม ผู้เป็นเสมือนพ่อแม่ครูอาจารย์ ถ่ายทอดสรรพวิชา อักขระเลขยันต์ พระคาถา พิธีกรรมต่างๆตามตำราหลวงปู่หมุน ตำราว่าน ยาสมุนไพร

นอกจากนี้ ท่านยังได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนให้ช่วยจารอักขระเลขยันต์ ในวัตถุมงคลคลของท่าน

หลวงปู่โสภณท่านเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่อุดมทรัพย์ สิริคุตฺโต วัดเวฬุวันธรรมาราม จ.ศรีสะเกษ และพระอาจารย์ขวัญเมือง สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหล่ม ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้ศึกษาวิชาจากหลวงปู่หมุนเช่นกัน

หลวงปู่โสภณเป็นพระเกจิอาจารย์ที่รักความสันโดษ ท่านจำพรรษาอยู่ในป่าช้าหลังวัดหลวงอรัญเพียงรูปเดียว เพราะในป่าช้าสงบเงียบ เป็นที่สัปปายะ เหมาะแก่การฝึกกรรมฐาน ฝึกสมาธิ ซึ่งผู้ที่จะอยู่ในป่าช้านั้น ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง ไม่เป็นคนขี้ตกใจ การที่อยู่ในป่าช้าเป็นการฝึกจิตที่ดีที่สุด เพราะไม่มีผู้คนเข้ามารบกวนในขณะนั่งสมาธิฝึกกรรม ฝึกสติ และได้ศึกษาธรรมชาติ

หลวงปู่โสภณท่านมีจิตเด็ดเดียว ไม่เคยกลัวสิ่งใด รักความยุติธรรม ผิดคือผิด ถูกคือถูก เป็นพระเกจิที่ยึดมั่นในพระธรรมวินัย เดินตามรอยพ่อแม่ครูอาจารย์ของท่าน นอกจากหลวงปู่หมุนแล้ว ท่านยังได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูอาจารย์หลายรูปถ่ายทอดสรรพวิชาให้ อาทิ หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน อริยะสงฆ์ผู้เหนือโลก เหนือกาลเวลา

เมตตาสอนสรรพวิชาต่างๆที่ท่านมีให้

หลวงปู่โสภณยังจำคำสั่งสอนของหลวงปู่สรวงที่มีให้ลูกศิษย์จำขึ้นใจ ภาพของความเมตตาที่ท่านมีต่อลูกศิษย์ หลวงปู่สรวงเป็นพระผู้เสียสละ เงินทองที่ผู้คนมาถวายท่านไม่เคยนำมาใช้ ส่วนมากท่านจำนำมาเผาไฟ ท่านว่ามันเป็นกิเลส ต้องเผา ดับกิเลสดับด้วยไฟ บางครั้งก็เผาสิ่งของที่ลูกศิษย์นำมาถวาย เป็นการแสดงธรรมให้เห็นซึ่งสัจธรรมว่า คนเรานั้นไม่ควรยึดติดกับสิ่งของ แก้วแหวนเงินทอง ทรัพย์สินอะไร ตายไปแล้วก็ไม่สามารถนำอะไรกลับไปได้ หลวงปู่โสภณ ก็น้อมนำคำสั่งสอนของหลวงปู่มาปฏิบัติ

หลวงปู่ทอง อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงอรัญได้เมตตาถ่ายทอดวิชาที่ท่านเรียนมาจากพระเกจิอาจารย์หลายรูปให้หลวงปู่โสภณ เช่น สุดยอดวิชาที่สีผึ้ง มหานิยมและด้ายผูกแขนแคล้วคลาด

เมื่อประมาณปี 2540 หลวงปู่โสภณได้รับการถ่ายทอดวิชาการหุงสีผึ้ง ตั้งแต่การออกหารังผึ้ง ล้างรังที่จะนำมาเป็นมูลสารตั้งต้นต้อง ปราศจากมดและแมลงที่มากัดกิน มวลสารต่างๆที่นำมาทำสีผึ้งต้องสะอาด เพราะสีผึ้งหลวงพ่อทองนั้นต้องรับประทานได้

การหาฟืนที่ใช้ในการหุงสีผึ้งก็ต้องใช้ไม้มงคลทั้งสิ้น เช่น ฟืนจากไม้คูณ ไม้ขนุน ไม้พะยง ไม้สัก ไม้มะยม ไม้รัก ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องเป็นไม้ที่ตายพรายทั้งสิ้น นำมาเป็นเชื้อเพลิงในการหุง โดยตลอดการหุงสีผึ้ง หลวงพ่อสอนว่า ต้องภาวนาคาถาตลอดจนกว่าจะหุงเสร็จ การหุงสีผึ้งต้องทำอย่างละเอียดระมัดระวัง หากทำสิ่งไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง สีผึ้งจะฟูล้นบาตรและนำสิ่งไม่ดี และของมงคลที่เราใส่เข้าไปลงไปยังพื้นดิน หรือแม่ธรณี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ธรณีสูบ" หมายความว่า การหุงสีผึ้งครั้งนั้นล้มเหลว

หลวงพ่อทองยังสอนให้หลวงปู่โสภณ ถักด้ายผูกแขนแคล้วคลาด โดยมีเคล็ดลับอยู่ว่าในการถักนั้นต้องถักให้ได้ 16 เปลาะตามเคล็ดลับวิชา ตลอดการถักต้องภาวนาพระคาถาตลอด ครั้งหนึ่ง มีชาวกัมพูชากลุ่มหนึ่งเดินทางข้ามพรมแดนมาเที่ยวงานประจำปีวัดหลวงอรัญ และได้เข้ามากราบหลวงปู่โสภณ แต่ในขณะนั้น ท่านยังไม่มีวัตถุมงคลใดๆที่จะแจกจ่ายให้ชาวกัมพูชากลุ่มนั้น ท่านจึงใช้ด้ายผูกแขนมัดข้อมือให้กับทุกคน

หลังจากข้ามพรมแดนกลับไปกัมพูชาแล้ว เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นที่วงเวียนฝั่งกัมพูชาเกิดระเบิดลงที่นั่น มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่คนที่มีด้ายผูกแขนของหลวงปู่โสภณผูกกลับรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ และนำเรื่องราวมาเล่าให้ท่านฟัง!!!!เป็นที่น่าอัศจรรย์

นอกจากนี้ ท่านยังไปกราบนมัสการ "หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน" สำนักสวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งท่านเป็นอริยะสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา มีพลังจิตที่กล้าแข็ง เป็นอีกหนึ่งพระเกจิที่มีสรรพวิชามากมาย เพราะท่านธุดงค์ไปอยู่หลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว ประเทศเขมร และประเทศศรีลังกา ท่านเดินธุดงค์ด้วยเท่าเปล่า ไปยังสถานที่ต่างๆตลอดหลาย10ปีเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม

​หลวงปู่ละมัยเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หมุน ท่านได้ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุนหลายรุ่น ท่านสำเร็จวิชาการหุงปรอท พระเกจิอาจารย์หลายองค์ต่างยกย่องว่ามีพลังมหาศาล พุทธคุณปรอทของท่านนั้นมีมาก ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี ท่านมีเมตตามาก ช่วยเหลือลูกศิษย์ ด้วยปรอท และยาสมุนไพร ต่างๆ โดยหลวงปู่ละมัยเมตตาถ่ายทอดวิชา หุงปรอทให้หลวงปู่โสภณ

หลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม ป่าช้าวัดเวฬุวัน อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ พระเหนือโลกอีกรูปหนึ่งที่มีเรื่องเล่าขานกันมาถึงเรื่องราวพลังจิตของท่านสูงมาก อีกทั้งครูบาเที่ยงธรรมยังรู้จักและสนิทสนมกับหลวงปู่สรวง ครูบาเที่ยงธรรม ท่านมีญาณหยังรู้อนาคต รู้วาระจิต ของผู้คน มีลูกศิษย์หลายคนที่ได้พบเจอเห็นต่างๆที่ครูบาเที่ยงธรรม หลวงปู่โสภณได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาพระธรรม สรรพวิชาต่างๆจากครูบาเที่ยงธรรม

​หลวงปู่โสภณ ท่านได้น้อมนำพระธรรมคำสั่งสอนและวิชาความรู้จากพระอาจารย์ทุกท่าน หลวงปู่หมุน หลวงปู่ละมัย หลวงปู่สรวง ครูบาเที่ยงธรรม นำมาเมตตาสงเคราะห์ลูกศิษย์ ไม่ว่าจะตำรา ฤกษ์ยาม วิชาว่านยาสมุนไพร และ ทุกครั้งที่หลวงปู่โสภณอธิษฐานจิตวัตถุมงคลของท่าน หรือได้รับนิมนต์นั่งปรกอธิฐานจิต ท่านต้องอาราธนา เชิญพ่อแม่ครูอาจารย์มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย

ในวาระที่หลวงปู่โสภณจัดสร้างรูปหล่อ หลวงปู่หมุนองค์ใหญ่เพื่อไว้ให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้ ได้อนุญาตให้"คุณนิพนธ์ระยองรีไซเคิล" จัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญหมุนเงิน หมุนทอง รุ่น"รวยแสนล้าน" ซึ่งท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นให้เพื่อความเป็นสิริมงคล รูปแบบเหรียญตามรอย เหรียญหมุนเงินหมุนทองของหลวงปู่หมุน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ขึ้น

คุณนิพนธ์ติดต่อไปยังโรงงานเพื่อทำบล็อกแม่พิมพ์ หลังจากช่างเริ่มทำบล็อกและแต่งบล็อกตัวผู้เสร็จ แล้วจะถอนบล็อกตัวผู้สู่บล็อกตัวเมีย ในขณะที่ช่างกำลังใช้เครื่องกดแม่พิมพ์นั้น จู่ๆบล็อกตัวผู้ก็แตกเป็น 3 ส่วน กระเด็นออกจากเครื่องถอดพิมพ์ โชคดีที่กระเด็นออกมาด้านข้าง ไม่โดนตัวช่าง

ช่างที่ถอนบล็อกเล่าว่า ในขณะที่ถอนบล็อกนั้นได้ทำตามมาตรฐานทุกอย่างทุกขั้นตอน ซึ่งเหตุการณ์บล็อกแตกนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะเหล็กที่นำมาทำบล็อกแม่พิมพ์ เป็นเหล็กที่แข็งและเหนียวมาก โอกาสที่จะแตกจึงแทบจะไม่เกิดขึ้น ชิ้นส่วนของบล็อกแตกออกเป็น3 ส่วน แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจคือ ตรงใบหน้าหลวงปู่โสภณ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย ยังคงสภาพสมบูรณ์ ซึ่งปกติบล็อกทั่วไปถ้าแตกแบบนี้ ตรงใบหน้าต้องได้รับความเสียหาย ทางโรงงานจึงรีบแจ้งกลับมา คุณนิพนธ์ระยองรีไซเคิล จึงกราบเรียน หลวงปู่โสภณ เรื่องบล็อกแตก ท่านจึงเดินทางไปทำพิธีให้ที่โรงงาน กระทุ่มแบน

หลังจากนั้นท่านได้เดินทางจากวัดหลวงอรัญมาทำพิธี พลีมวลสาร หล่อมหาชนวน ที่โรงงาน โดยอัญเชิญบารมีพ่อแม่ครูอาจารย์ หลอมชนวน โดยนำชนวนหลวงปู่หมุน ชนวนชินบัญชร, หลวงปู่ทิม,เหรียญหมุนเงินหมุนทอง, เหรียญมนต์พระกาฬ หลวงปู่บุดดา ชนวนชินบัญชร หลวงปู่สุข วัดหนองฆ้อ, แผ่นชนวน หลวงปู่ทวด วัดสุทัศน์ (หลวงปู่หมุนเสก" หลวงปู่โสภณ ได้จุดธูป 16 ดอก บอกกล่าวเทวดาฟ้าดิน แล้วเมตตาหล่อให้จนสำเร็จเสร็จสิ้น


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page