ศิษย์เอกหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอ เรื่องราว รำลึกนึกถึงคุณงามความดีของ "หลวงปู่แสน ปสนฺโน" อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองจิก อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ท่านได้รับการขนานนามว่า “เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย” เกจิอาจารย์ผู้มีอายุยืนยาวถึง 6แผ่นดิน
“แสน คุ้มครอง” เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของหลวงปู่แสน เกิดวันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้านโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ (ปัจจุบัน ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีษะเกษ)
ท่านบวชเณรที่วัดบ้านโพงแล้วไปเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม อินทปญโญ วัดปราสาทเยอใต้ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ จนจบป.4 และได้เรียนตำราพระเวทย์จากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลีจนเก่งกล้าวิชา กระทั่งอายุ 21 ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ้านโพง โดยนิมนต์หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
จนกระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิกขาบทมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรม ขณะที่เป็นฆราวาสระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม ท่านได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกฯได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมร แล้วร่ำเรียนมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คนรักษาคน
ต่อมาเมื่อหมดภาระทางบ้าน ท่านจึงบวชอีกครั้ง โดยไปจำพรรษาที่บ้านกุดเสล่า อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกธุดงค์ในเทือกเขาพนมดงรักเป็นนิจ และเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสล่าจึงรักและศรัทธาท่านมาก ต่อมาหลวงตาวันพระที่เป็นสหายรุ่นน้อง จึงได้ไปกราบนิมนต์มาช่วยสร้างวัด
โดยเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษณ์อนุญาตให้ท่านไปอยู่ที่วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์แล้ว ท่านจึงมาจำพรรษาที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แล้วย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์โนนไทย (วัดภูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่จำพรรษา 3 พรรษา ต่อมาได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเนื่องด้วยวัดจะร้างเพราะพระน้อย หลวงปู่จึงเข้ามาบูรณะพัฒนาจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ
ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเป็นเวลา 4 พรรษา โยมญาติพี่น้องเก่าได้มานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง จนกระทั่งอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพ จึงไปนิมนต์กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิก จนกระทั่งละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่กุฏิภายในวัดบ้านหนองจิก สิริอายุ 112ปี
วัตถุมงคลของหลวงปู่แสนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
Comments