top of page
ค้นหา

หลวงพ่อสุวรรณ นาคสุวัณโณ-78ปีวัดพนมดินสุวรรณาราม จ.บุรีรัมย์พระนักเทศน์-พัฒนา

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

หลวงพ่อสุวรรณ นาคสุวัณโณ-78ปี

วัดพนมดินสุวรรณาราม จ.บุรีรัมย์

พระนักเทศน์-พัฒนาผู้คงแก่เรียน

สายวิชาลป.ฤทธิ์-สนิท"ลป.หงษ์"


พระดีเกจิดังแห่งอีสานใต้อีกหนึ่งรูป..."หลวงพ่อสุวรรณ นาคสุวัณโณ” (พระครูสิริปริยัติวิธาน) เจ้าคณะตำบลสูงเนิน เจ้าอาวาสวัดพนมดินสุวรรณาราม อ.กระสังจ.บุรีรัมย์ สหธรรมิกที่สนิทสนมกับหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี และสืบสายวิชาจาก "หลวงปู่ฤทธิ์ รัตนโชโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานราชดำริ พระเกจิดังอาคมขลังสายเขมร "เทพเจ้าลุ่มน้ำชีตะวันตก"


ชาติภูมิท่านเป็นชาวบุรีรัมย์โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2486 ที่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 1ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ บิดาชื่อ นายเยียน มารดาชื่อ "นางกวน"นามสกุล "สำราญ"  ครอบครัวประกอบอาชีพทำนาทำไร่ เบื้องต้นจบการศึกษาชั้นประถมปีที่6 เมื่ออายุ22ปีได้อุปสมบทที่วัดท่าสว่าง อ.กระสังจ.บุรีรัมย์ ตรงกับวันที่18มี.ค. 2508 โดยมีพระครูประสานสังฆกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเหลือ มหาปัญโญเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการบุญ นันทิโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า"นาคสุวัณโณ" 


ช่วงปี2517ท่านไดัออกธุดงค์กรรมฐานประจำที่วัดไทยเดิมผดุงธรรม อ.ปากช่อง จ.นครราชสี มา โดยมีพระอาจารย์เล็ก เจ้าอาวาสในขณะนั้นเป็นผู้อบรมสั่งสอน และพาท่านเดินธุดงค์จากวัดไทยเดิมฯผ่าน.สีคิ้ว,อ.บำเหน็จ ณรงค์,อ.ด่านขุนทดไปอยู่บนเขาพระพุทธบาทจ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นวัดโบราณหลายร้อยปีอยู่บนภูเขาเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด อาทิ เสือ ช้าง หมูป่าฯลฯ


ต่อมาได้ไปศึกษาพระอภิธรรมปิฎกที่วัดเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แล้วเดินทางไปศึกษาบาลีต่อที่วัดพลับ จ.จันทบุรีโดยพักอยู่ที่วัดสิงห์ ต.บางกะจะ อาจารย์ผู้สอนคือ"พระมหาพร้อม กันตสีโล" ป.ธ.7 ปัจจุบันเป็นพระสุธีปริยัติยาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี หลังจากนั้นไปช่วยทำหน้าที่สอนบาลีและสอนปฏิบัติธรรมอุบาสกอุบาสิกาที่วัดท่าพาณิชย์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปสังกัดวัดชนะสงคราม บางลำพู กทม. 


ท่านได้ศึกษาพระธรรมจนสำเร็จนักธรรมชั้นเอกเปรียญธรรม5ประโยค การศึกษาทางโลกสำเร็จพุทธศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย จ.สุรินทร์ และปริญญาโท ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยจ.ร้อยเอ็ด


ด้านวิชาอาคมต่างๆท่านได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งมีความสนิทสนมกันดี และหลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ช่วยถ่ายทอดคาถาอาคมและให้คำแนะนำสั่งสอน


ในปี2525 หลวงปู่ฤทธิ์ได้นิมนต์มาอยู่วัดป่าตะครองใต้ต.สูงเนินอ.กระสังจ.บุรีรัมย์ ปีพ.ศ.2526ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตช่วยปฏิบัติภาระเขต อ.กระสัง ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ปีเดียวกันนี้ท่านได้ตั้งสำนักเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี


ปี2529 รักษาการเจ้าคณะตำบลสูงเนินจากนั้นในปี2531ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลสูงเนิน ปี2532เป็นพระปริยัตินิเทศก์จังหวัดบุรีรัมย์ ปี2535เป็นพระอุปัชฌาย์ของต.สูงเนิน ปี2536เป็นพระครูชั้นเอกที่"พระครูสิริปริยัติวิธาน"


หลวงพ่อสุวรรณท่านเป็นพระนักพัฒนาที่มีผลงานการสร้างหลายอย่าง อาทิ จัดตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านตะครองใต้ สถานีอนามัย,สำนักงานองค์การบริการส่วนตำบลสูงเนิน,ศูนย์กศน.ตำบลสูงเนิน,โรงเรียนสูงเนินพิทยาคม ระดับมัธยม ม.3-ม.6,ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ทั้งตำบล6ศูนย์ รวมทั้งพัฒนาซ่อมสร้างถนนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นพระนักเทศน์ระดับต้นๆอีกด้วย


ต่อมาในปี2560 ท่านเห็นวัดวัดป่าตะครองใต้อยู่ในที่สาธารณะจึงย้ายไปตั้งเป็นที่พักสงฆ์ก่อนจะได้รับอนุญาตเป็นวัด โดยญาติโยมและผู้เกี่ยวข้องในการสร้างช่วยกันตั้งชื่อว่า"วัดพนมดินสุวรรณาราม ตั้งอยู่ที่199 บ้านอังกรวง หมู่16ต.สูงเนินอ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เริ่มต้นมีเพียงกุฏิเล็กๆ ศาลาใช้ประกอบกิจสงฆ์ จากนั้นคณะศิษย์ศรัทธาก็มาร่วมบุญซื้อที่ดินถวายเพิ่มอาณาเขตวัด ซึ่งขณะนี้ท่านกำลังดำเนินการพัฒนาก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ โครงการสำคัญคือการก่อสร้างอุโบสถหลังแรกเพื่อให้เป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ และเร็วๆนี้ท่านจะออกเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรกเพื่อนำปัจจัยสมทบทุนการสร้างวัดต่อไป










 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page