ฮอตสุด“หลวงพ่อพัฒน์”วัดห้วยด้วน

พระคณาจารย์ชื่อดังเมืองปากน้ำโพ กระแสร้อนแรงที่สุดเวลานี้ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองปากน้ำโพ "หลวงปู่พัฒน์" วัดห้วยด้วน บ้านห้วยด้วนพัฒนา ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์

พระเกจิฯรูปนี้ของจริง หลังโควิดถอย ท่านมา นักสร้างหลั่งไหลไปที่ขออนุญาต จนวัดต้องออกมาตรการเข้ม 3 เดือนที่ขออนุญาต ถ้ายังไม่ออกหรือออกไม่ทันก็เอวัง

ช่วงนี้จึงได้เห็นแบบลายเส้นพร้อมภาพถ่ายกระจายอยู่ทั่วสื่อออนไลน์ ภาพถ่ายที่นำไปประกอบ เป็นภาพหน้าตรง ถ้าพอจำกันได้ใช้กับรุ่นสรงน้ำ 61 ถ่ายโดย “บก.อนุชา ทรงศิริ” หนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ตอนนั้นหลวงพ่อพัฒน์ท่านเมตตา ห่มผ้าอย่างดี และเมตตานั่งหน้าตรงให้ถ่าย เพื่อนำไปแกะบล็อกเหรียญปาดตาล และพระผงนั่งตั่ง แต่ตอนหลังมีภาพนี้ไปประกอบในเหรียญเปิดให้สั่งจองหลายรุ่น ไม่เป็นไร เอาเถอะ เพื่อนพ้องน้องพี่กันทั้งนั้น

หลวงพ่อพัฒน์ ปัจจุบันอายุมากเฉียด100ปีแล้ว แต่ร่างกาย ยังแข็งแรง ท่านเรียนกรรมฐานและพุทธาคมหลวงพ่อเทศ ผ่านทางหลวงพ่อเดิม แม้กระทั่งการตีเหล็กและการสร้างมีดของสำนักวัดเขาแก้ว ซึ่งหลวงพ่อเทศเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้มาก่อน ท่านเด่นวิชาเรื่องการชุบมีดให้เป็นสีปีกแมลงภู่หรือเหล็กไหลด้วยน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ และทำด้ามกับฝักด้วยไม้งิ้วดำฟ้าผ่า เพื่อเพิ่มมีดให้มีอิทธิคุณสูงสุดตามตำราเหล็ก ซึ่งหลวงพ่อเดิมท่านก็ยังไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเสาะแสวงหามาชุบมีด การทำมีดที่ผ่านมาจึงยังไม่เต็มตามตำราสักทีเดียว

เมื่อครั้ง หลวงพ่อพัฒน์ ท่านออกเดินทางไปถึงเมืองลับแล โดยไปขอพักกับหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ใจกลางอำเภอลับแล ซึ่งพอหลวงพ่อชุบท่านทราบเจตนารมณ์ของพระอาจารย์พัฒน์แล้ว ก็ชอบใจและทำการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ขอให้พระอาจารย์พัฒน์เรียนวิชาทางเมตตามหานิยมจากท่านและขอให้ช่วยเป็นคู่เทศน์ปุจฉา วิสัชนา กับท่านด้วยเป็นระยะเวลา 3 ปี พระอาจารย์พัฒน์ จึงต้องตอบตกลง เพราะต้องการอยู่ค้นหาบ่อน้ำทิพย์ที่เมืองลับแล ในระหว่างที่อยู่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งนั้น พระอาจารย์พัฒน์ได้ค้นพบความลับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอย่างมากมาย

จนเวลาล่วงเลยไปถึง 3 ปี จึงไปขอลาหลวงพ่อชุบกลับวัดสระทะเล แต่หลวงพ่อชุบกลับขอให้ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งแทนท่านอีก 3 ปี เพราะหลวงพ่อชุบ ท่านจะย้ายไปพัฒนาวัดพระยืนพุทธบาทยุคลก่อน พระอาจารย์พัฒน์จึงต้องอยู่ดูแลวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งต่ออีก 3 ปี รวมเป็น 6 ปี จึงได้กลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดสระทะเล อีก 9 พรรษา ขณะนั้นโยมพ่อโยมแม่ของท่านได้พาครอบครัวย้ายมาซื้อที่ดิน ทำนา แถวบ้านห้วยด้วน ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว เมื่อกำนันผลตำบลธารทหาร ทราบเรื่องจึงขอให้โยมพ่อโยมแม่ของพระอาจารย์พัฒน์ช่วยกันอาราธนาพระอาจารย์พัฒน์ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดธารทหาร เพื่อสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จ เพราะทราบกันดีว่าหลวงพ่อพัฒน์ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดกรรมฐานและวิชาอาคมของหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ซึ่งเมื่อกำนันผลพาลูกบ้านและโยมพ่อ โยมแม่ของหลวงพ่อพัฒน์ไปอาราธนาท่านแล้ว หลวงพ่อพัฒน์ก็ตอบตกลงและได้ย้ายมาพัฒนาวัดธารทหารตั้งแต่ พ.ศ.2512 เป็นต้นมา จากนั้นท่านก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดอื่นอีกเลย จนกระทั่งทุกวันนี้