top of page
ค้นหา

ฮือฮา!ไม่ธรรมดาไอ้ไข่รุ่นปลดหนี้

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 24 ก.ค. 2563
  • ยาว 1 นาที

















ดารายังชื่นชอบร่วมบุญกับวัดสนธิ์ ประวัติศาสตร์เคียงคู่พระมหาธาตุเจดีย์ มงคลประจำเมืองเก่านครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า กระแสแรง ดารานักแสดงยังชื่นชอบ “ไอ้ไข่รุ่นปลดหนี้” วัดสนธิ์ จ.นครศรีธรรมราช วัตถุประสงค์การจัดสร้างเพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรม สำหรับพระภิกษุสามเณร ประชาชนทั่วไป และเยาวชนในภาคใต้ กำหนดพิธีพุทธาเทวาภิเษกในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2563 ณ วัดสนธิ์ จัดพิธีบวงสรวงเวลา 08.39 น.พระภูมิฤกษ์ เวลา 13.39 น.จุดเทียนชัยเทวาฤกษ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดพุทธาภิเษก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนใต้นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ หลวงปู่บุญให้ หลวงปู่อ่ำ พระอาจารย์รรรสิริ หลวงปู่เคล้า หลวงปู่พร้อม พ่อท่านทอง เจ้าคุณไมตรี พ่อท่านวัน พ่อท่านนิกร เป็นต้น เวลา 15.39 น.ดับเทียนชัย รับวัตถุมงคลที่สั่งจองไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย วัดสนธิ์ เป็นประธานดำเนินงาน

กล่าวสำหรับ วัดที่มีประวัติศาสตร์ เคียงคู่กับพระมหาธาตุเจดีย์เมืองนครศรีธรรมราช อีกทั้งยังเป็นวัดที่ได้รับการสถาปนามาจากพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช วัดสนธิ์ (นาสน) นับเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญควบคู่กับวัดท่าเรือ ได้รับสถาปนามาจากพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อครั้งสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ทรงศรีวิชัยยุคแรก หรือเมื่อคราวสร้างเมืองพระเวียงเป็นเมืองหลวงที่สองของอาณาจักรตามพรลิงค์ บนหาดทรายแก้วในระหว่าง พ.ศ.1098-1300 วัดสนธิ์(นาสน) อยู่ติดกับวัดเตาปูน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งเตาเผาเปลือกหอยเพื่อทำปูนขาวผสมยางไม้และข้าวเหนียวสำหรับก่อ สร้างพระธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช คงเสด็จมาตรวจเตาปูน และทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ ที่สงบวิเวกเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรภาวนาของพระสงฆ์ ฝ่ายอรัญวาสี ครั้นเมื่อสร้างพระธาตุเจดีย์แล้วเสร็จ จึงได้สถาปนาที่ตั้งเตาปูน เป็น “วัดเตาปูน” และที่ประทับชั่วคราวเมื่อเสด็จมาตรวจดูเตาปูนเป็น “วัดสนธิ์(นาสน) จากนั้นโปรด ฯ ให้สร้างพระพิมพ์บรรจุกรุไว้เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาที่วัดสนธิ์ (นาสน)ด้วย ต่อมาในตำนานเก่าแก่ ได้เล่าว่า ขณะที่วัดสนธิ์(นาสน) ยังมีความรุ่งเรือง สมเด็จพระเจ้าพะโคะหรือหลวงพ่อทวดเป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฎิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า “หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”ได้เคยเดินธุดงธ์ ปักกลดปฏิบัติธรรมในบริเวณวัดสนธิ์(นาสน) ในสมัยที่ท่านได้บวชเรียนวิชาจาก วัดเสมาเมือง จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงความเชื่อของคนพื้นที่ ที่เชื่อว่าดวงจิตของไอ้ไข่วัดเจดีย์นี้คือดวงจิตคู่บุญบารมีขององค์หลวงปู่ทวด ต่อมาวัดสนธิ์(นาสน) ได้กลายเป็นวัดร้างมานานจึงไม่มีโบราณสถานใดๆ ปรารกฏให้เห็น จะมีก็เพียงแต่ซากอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ในอดีตวันสนธิ์(นาสน) เป็นแหล่งกำเนิดของพระกรุเลื่องชื่อศิลปศรีวิชัยสามแบบพิมพ์ คือพิมพ์วงเขน พิมพ์ซุ้มกระรอกกระแตและพิมพ์ยอดขุนพลใบพุทรา นับเป็นพระกรุยอดนิยมหนึ่งในสุดยอดพระกรุไตรภาคีของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีชื่อเสียงและมีค่านิยมระดับหลักแสน คือ พระกรุวัดท่าเรือ พระกรุวัดนางตรา พระกรุวัดสนธิ์(นาสน) พุทธศักราช 2547 พระอธิการประหยัด วุธปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสระเรียง เจ้าคณะตำบลคลัง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญอันเป็นประวัติศาสตร์ของวัดนาสน จึงได้มอบหมายให้

พระอาจารย์พะเยาว์ กัลยาโณ มาเป็นที่รักษาการณ์เจ้าอาวาส เพื่อบูรณะพัฒนาวัดนาสน ต่อมาก็ได้กลายเป็นวัดร้างอีกครั้ง

พุทธศักราช 2557 พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดสระเรียง เจ้าคณะอำเภอพระพรหม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พระครูปริยัติคุณาศัย วัดประดู่พัฒนาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ให้มาดูแลวัดสนธิ์(นาสน) เพื่อให้สถานที่นี้กลายเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป จนกระทั้ง เมื่อวันที่ 30 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2558 พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ได้นิมนต์พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย มาจากวัดธาตุน้อย (เจดีย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์) พร้อมทั้งคณะพระภิกษุและสามเณร จำนวน 9รูปให้มาจำพรรษา ณ วัดสนธิ์(นาสน) จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

 
 
 

Commentaires


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page