top of page
ค้นหา

เปิดจองพระพิมพ์ทรงไก่มหาลาภ พระพิมพ์ดินเผาทรงไก่เมืองอุบลฯ และ “เหล็กเปียกพระธาตุพนมเก่า”

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 22 ก.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

เปิดจองพระพิมพ์ทรงไก่มหาลาภ

พระพิมพ์ดินเผาทรงไก่เมืองอุบลฯ

และ “เหล็กเปียกพระธาตุพนมเก่า”

หลวงปู่จันทร์ จันทสโร พระเกจิดัง

ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ รายงานว่า เปิดให้สั่งจองแล้ว พระพิมพ์ทรงไก่มหาลาภ และเหล็กเปียกพระธาตุพนมเก่า พระวิโรจน์รัตโนบล หรือ หลวงปู่จันทร์ จันทสโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี

ประวัติความความเป็นมา นิยาม “พระพิมพ์ทรงไก่” ถือว่าได้รับความนิยมเนื่องด้วยรูปแบบลักษณ์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์

โดยเฉพาะ พระพิมพ์หลวงพ่อปาน ที่เป็นจุดกำเนิดลักษณะรูปเเบบรูปทรงเเรกและได้รับอิทธิพลการจัดสร้างในรูปเเบบหลวงพ่อปานสืบมาหลายทศวรรษ

พระพุทธทรงสัตว์ต่างๆมีพุทธคุณต่างกันออกไปโดยโบราณจารย์ท่านจะนำเอาสัตว์มงคลที่มีอุปนินัยเฉพราะมาเเปลงเป็นธรรมะใช้อุปมาอุปมัยซ่อนคติธรรมหรือเรียกพุทธคุณซ่อน เป็นทรงไก่ ทำมาหากินเก่ง ทรงครุฑ อำนาจวาสนาบารมี ทรงนก ทำรังสร้างตัว เป็นต้น

เพราะเหตุนี้พระเกจิอาจารย์หรือวัดต่างๆนิยมสร้างขึ้นเพื่อเเจกจ่ายเป็นขวัญกำลังใจให้ศิษยานุศิษย์แต่การจัดสร้างพระพิมพ์นี้ให้มีพุทธคุณตามเเบบโบราณจารย์ไม่ได้สร้างกันง่าย

คนจัดสร้างต้องมีความรู้ทางด้านการเผา 1.การผสมเนื้อดินไม่ให้เเตก 2.การเเสวงหาอิฐหินดินสถานที่ต่างๆ(เพื่อให้เกิดพลานุภาพพุทธคุณ) และพระเกจิอาจารย์ที่จะปลุกเสกต้องเป็นผผู้ที่มีญาณวิทยาคมสูงพอสมควร พูดง่ายๆก็คือว่าต้องดี3 อย่างคือ 1ดีในเบื้องต้น 2ดีในท่ามกลาง 3ดีในที่สุดถึงจะสำเร็จเป็นพระที่ทรงพุทธคุณสูง วัดทุ่งศรีเมือง \เจ้าคุณวิโรจน์ จ.อุบลราชธานี

ทุกคนย่อมรู้กันพอสมควรเเล้วว่าที่มาของพระพิมพ์ทรงสัตว์มงคลเป็นมาอย่างใด

ในบทย่อนี้จะขอพูดถึงวัดทุ่งศรีเมือง เเละเจ้าคุณวิโรจน์ เพราะบางท่านอาจยังไม่รู้จักวัดทุ่งศรีเมืองเท่าไร เเต่หากท่านในอยู่ในวงการพระเครื่องอาจจะคุ้นๆแต่ถ้าเอ่ยคำว่า”พระครูวิโรจน์รัตนโนบล หรือหลวงปู่ดีโรจน์ท่านจะ อ่อ ทันที เพราะไม่มีใครไม่อยู่จักท่านในนามพระเกจิที่โด่งดังมากในสมัยสงครามอินโดจีนและท่านยังเป็นผู้บูรณะพระธาตุพนมปีพ.ศ2444 พอกล่าวถึงท่านทุกคนก็จะรู้จักกันเป็นอย่างดี

พระครูวิโรจน์ ท่านเป็น เจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมือง และเป็นเจ้าคณะจังหวัดอุบลฯ รูปเเรกสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์ จากส่วนกลางลงมายังส่วนหัวเมืองลาวอีสาน

บางคนอาจสงสัยคำว่า วิโรจน์ ทำไมหลายองค์ ต้องบอกอย่างนี้ว่า ส่วนมาก พระเถระที่มาเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมืองจะมีราชทินนามว่า “วิโรจน์รัตนโนบล”แทบทุกองค์เพราะเป็นการรักษาเชิดชูคุณงามความดีของท่านพระครูวิโรจน์ในอดีตเอาไว้ให้มีชื่ออยู่ตลอดกาล ราชทินนามนี้จึงเป็นชื่อประจำวัดเเห่งนี้มาโดนตลอด

ส่วนท่านเจ้าคุณพระวิโรจน์เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันท่านมีนานเรียกเล่นว่า “หลวงปู่จันทร์” ปัจจุบันอายุ86 ปี 60 พรรษา ท่านดำรงตำเเหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพระมหาเถระเมืองอุบลฯ ที่พระสงฆ์ชาวบ้านให้การนับถือมากและท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเวทมนต์กลคาถาต่างๆและออกวัตถุมงคลมากมายหลายรุ่น

ส่วนมากท่านจะเเจกหมดในวันงานโอกาสต่างๆ เจ้าคุณวิโรจน์องค์นี้สมัยก่อนที่ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมือง ท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอบุญฑริก มาก่อน เพราะเหตุนี้ท่านจึงมีการร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆไว้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆทั้งผู้คนเเละลูกระเบิด เพราะอำเภอบุณฑริกเป็นอำเภอชายเเดนติดต่อ3ประเทศ ไทย ลาวเเละเขมร หรือสามเหลี่ยมมรกต ชาวบ้านมีทั้งคนไทยลาว เขมร ชนเผ่าต่างๆ ร่วมถึงคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น

บอกได้คำเดียวเลยว่าถ้าไม่เก่งจริงอยู่ยาก ในอดีต เคยมีเหตุการณ์คอมมิวนิสต์จะฆ่าพระที่มีบารมี มีญาติโยมศรัทธามาก พระสงฆ์เหล่านี้ถือว่าเป็นภัยต่อพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะคำว่า “ศาสนาเป็นยาเบื่อ ของท่านประธานเหมา “ พระสงฆ์ดังกล่าวมาคือหลวงปู่มั่น ทตฺโต พระเกจิอาจารย์เทพเจ้าเเห่งสามเหลี่ยมมรกต เเต่ผลสุดท้ายเหล่าทหารพรรคคอมมิวนิสต์ก็ต้องพ่ายเเพ้ต่ออาคมหลวงปู่มั่นเเละกลับใจมาเป็นลูกศิษย์ ท่านเจ้าคุณองค์นี้ก็พบเจอสิ่งเเบบนี้เช่นเดียวกัน

พระพิมพ์ทรงไก่ วัดทุ่งศรีเมือง ปัจจุบัน พระพิมพ์ทรงสัตว์ถือว่าได้รับความนิยมมาก

ไม่ว่าจะสร้างเก่าหรือสร้างใหม่ ที่เด่นๆในปัจจุบันคือ พระพิมพ์ทรงเสือวัดท่าสะแบง

พระเกจิอาจารย์หมุ่นไฟเเรงอาคมขลังเเห่งเมืองร้อยเอ็ด พระพิมพ์ทรงไก่วัดทุ่งศรีเมืองถือว่าได้รับอิทธิพลความสัมพันธ์ อันลึกซึ้งระหว่างท่านเจ้าคุณวิโรจน์เเละพระอาจารย์ต้อม เพราะพระอาจารย์ต้อม ท่านให้ความนับถือท่านเจ้าคุณ เพราะสมัยก่อนพระอาจารย์ท่านเคยอยู่ปฏิบัติธรรมกับท่านเจ้าคุณ ด้วยเหตุด้วยปัจจัยต่างๆนี้จึงก่อกำเนิดเกิด พระพิมพ์ดินเผาทรงไก่ เมืองอุบลฯ ขึ้น

ทรงเสือต้องท่าสะเเบงเเรงยิ่งนัก ทรงไก่ระกาเรียกทรัพย์ ต้องเมืองอุบลฯ มวลสารสำคัญในการจัดสร้างพระพิมพ์ทรงไก่ โดยย่อ ดังนี้

มวลสารพระพิมพ์ดินเผาทรงไก่มหาลาภ ห่างพวง

หลวงปู่เจ้าคุณวิโรจน์ วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี

-ดินสถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ(ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล)

-ดินสถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้(พุทธคยา รัฐพิหาร อินเดีย )

-ดินสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเทศนาโปรดปัญวัคคีย์ (ธัมเมกขสถูป สารนรถ)

-ดินสถานที่พระพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพาน (กุสินารา รัฐอุตระประเทศ)

-ดินสถานที่พระพุทธเจ้าแสดง ยมกปาฏิหาริย์ เมืองสาวัตถี

-ดินที่พระพุทธเจ้าเปิดโลก

-ดินพระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถานวัดเวฬุวันมหาวิหารวัดเเห่งแรกของพระพุทธศาสนา (ป่าไผ่ทางเข้ากำแพงเก่า เมืองราชคฤห์)

-ดินด้านเกรียน เมืองราชคฤห์ อินเดีย เส้นทางการค้าสมัยพุทธกาล

-ดินมูลคันถกุฏิพระพุทธเจ้าบลยอดเขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย

-ดินถ้ำสุกรขาตา (ถ้ำ ที่พระพุทธเจ้าเเสดงธรรมเเละพระสารีบุตรได้สำเร็จเป็นพระอรหันต

-ดินถ้ำพระโมคคันลา

-ดินถ้ำเก็บมหาสมบัติพระเจ้าพิมพิสาร

-ดินวัดพระเชตวัน วัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีชื้อที่ดินสร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าด้วยทองคำ18โกฏิปูทั่วเต็มบริเวณวัด

-ดินกุฏิพระสีวลี วัดพระเชตวัน

-ดินกุฏิพระมหากันสปะ

-ดินอิฐมหาสถูปเกสเรียเจดีย์บรรจุบาตรพระพุทธเจ้า

-ดินบ้านของท่านอนาถฑิกเศรษฐี

-ดินของบ้านนางสุชาดา

-ดินอิฐจากลานันทา

-ดินอิฐจากหลวงพ่อองค์ดำ ลานันทา

-ดินจากวัดป่ามหาวัน เเห่งเมืองไวสาลี

-ดินเจดีย์ เก่าต่างๆทั่วไทย

-ดินศักดิ์สิทธ์ ที่พระธาตุหลวงเวียงจันทร์

-อิฐดินจากสิมโบราณสถานที่ต่างๆ

-ดินอุดรู สัตว์มงคล 7 ชนิด

-ดินจอมปลวก

-ดิน 7 โป่ง

-ผงใบลานตำรามูลกระจายที่ถูกเผาในสมัยสมเด็จมหาวีรวงศ์ ติสฺโส อ้วน

-พระกรุนาดูน

-พระกรุเมืองไพร

-พระดินสมัยโบราณต่างๆ

-ใบโพธิ์ที่พุทธคยาต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับตรัสรู้

_ดินเเท่งวัชรอาสประทับนั้งตรัสรู้ พุทธคยา

-ผงว่านยาและแร่ธาตุกายสิทธฟิตต่างๆ

-ดินยอดภู

-ดินกลางตลาด

-ก้อนดินและหินไก่ตัวผู้หลอกล้อเรียกตัวเมีย

#สนใจติดต่อสอบถามได้ที่

#เฟสบุ๊ค

อัตตาหิ อัตโนนาโถ (พระครรชิต)

088-0861291

Naeng Ubon(เหน่ง อุบล)

094-7314126

ณัฐ ศรีสันต์

ภูผา ขุนเขาแห่งชีวิต

กิจทนา แก้วสำนึก




 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page