พระอาจารย์มหาต่อ ธรรมรังษี
เชี่ยวชาญอักขระยันต์-อาคมขลัง
วินาทีนี้ นักท่องแดนธรรมชาวต่างประเทศต่างพูดถึง พระคณาจารย์ชื่อดังรูปนี้ “พระอาจารย์มหาต่อ ธรรมรังสี” วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร วัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก กำลังเป็นที่นิยมเล่นหาสะสมอย่างมาก
พระอาจารย์มหาต่อ ท่านเชี่ยวชาญด้านอักขระยันต์ เป็นพิเศษ มีศิลปะเชิงช่างวาดภาพได้งดงาม และมีความรู้ด้านมนต์คาถา ศึกษามาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ใช้สวดและเสกประจุเสริมบารมี ปัดเป่าสิ่งอัปมงคล ลูกศิษย์ชาวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฮ่องกงมาเลเซีย ไต้หวัน สัมผัสกันมาแล้ว
ตามประวัติ พระอาจารย์มหาต่อ ธรรมรังสี เกิดในสกุล ประสงค์กูล ถือกำเนิด เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2534 ที่โรงพยาบาลนางรอง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โยมบิดา ชื่อ นายโข่ คงราม โยมมารดาชื่อนางรำไพ ประสงค์กูล มีอาชีพทำไร่ทำนาและรับจ้างทั่วไป มีบุตรร่วมพี่น้อง 3 คน โดย พระอาจารย์มหาต่อและพี่ชายเป็นคู่แฝด
เมื่อตอนวัยเด็ก ชีวิตของท่านลำบากมาก จะต้องทำงานช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก พออายุได้ 2 ขวบ บิดาของท่านก็ เสียชีวิตลง จึงทำให้ผู้เป็นมารดาเลี้ยงดูมาคนเดียวโดยตลอด เนื่องจากชีวิตที่จังหวัดบุรีรัมย์เกิดความทุกข์ยากและลำบาก เมื่อราวปีพุทธศักราช 2539 มารดาจึงได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่จังหวัดนครราชสีมา
ในช่วงวัยเด็กพระอาจารย์มหาต่อก็ได้ เรียนรู้ การอ่านและการเขียนจากที่โรงเรียนและที่วัด ซึ่งเมื่อเป็นเด็กน้อย ช่วงปิดเทอมก็จะอาศัยบวชสามเณรภาคฤดูร้อนอยู่เป็นประจำ และช่วงเป็นเด็กก็จะนอน อยู่ที่วัดให้ท่านเจ้าอาวาสเป็นผู้สอนหนังสือและให้ความรู้มาโดยตลอด ซึ่งถือว่าชีวิตของท่าน มีวัดเป็นที่พึ่งมากกว่าที่บ้านของท่าน
หลังจากศึกษาจบประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านยอกขาม ในปีพุทธศักราช 2547 ในขณะที่กำลังที่จะเรียนต่อในช่วงมัธยม พ่อใหญ่เย็น ซึ่งเป็นพ่อของโยมแม่ได้เสียชีวิตลง ท่านจึงทำการบวชหน้าไฟ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับพ่อใหญ่เย็น
ท่านบรรพชา เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2548 โดยมี พระครูสุนทรปัญญาพิมล เป็นพระอุปัชฌาย์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองตะไก้ หลังจากเสร็จงานศพพ่อใหญ่เย็นแล้ว ท่านก็ได้สนทนาเรื่องราวกับโยมแม่ของท่าน ถึงเรื่องราว การบวชเรียน ซึ่งก็ ถือว่าเป็นสิ่งที่ ทำให้ท่านได้มุ่งหน้าเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ในการบวชเรียน และมุ่งมั่นพากเพียรในการศึกษา
ท่านได้เข้ามาอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมบ้านประโดก โดยมี พระครูปลัดนายกวัฒน์ หรือ เจ้าคุณบุญเริ่ม เป็นเจ้าสำนักในสมัยนั้น และมี พระมหาสุทธิชัย เป็นผู้ดูแล ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมบ้านประโดก นั้นสร้างขึ้นโดย หลวงพ่อพระมหาธนิต ปัญญาปสุโต เปรียญธรรม 9 ประโยค จากวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ พระมหานคร ท่านเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพื่อยึดแนวหลักการของการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด มีการจัด งานปริวาสกรรมทุกปี มีพระภิกษุเดินทางมาร่วมปีละ 200-300 รูปและอุบาสกอุบาสิกาอีกมากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ พระอาจารย์มหาต่อได้ฝึกปฏิบัติธรรมเจริญกรรมฐานทำสมาธิ ณ สถานที่แห่งนี้
พระอาจารย์มหาต่อ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์มากเมตตา ไม่เคยขัดศรัทธาญาติโยม สิ่งที่ยึดถือปฏิบัติมาตลอดคือการนำญาติโยมสร้างทานบารมี ปล่อยสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย สัตว์น้ำต่างๆ ปล่อยปลาหน้าเขียงครั้งหนึ่งหลายร้อยกิโลกรัม เพื่อให้ชีวิตใหม่ ไม่ต้องแปลกใจ ทำไม ลูกศิษย์ลูกหาจึงเลื่อมใสศรัทธาท่านมากมาย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระอาจารย์มหาต่อ จึงขอเชิญชวนลูกศิษย์ลูกหา ญาติโยมร่วมแสดงมุทิตาสักการะ ในฐานะผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา
Kommentare