top of page
ค้นหา

3มิ.ย.คล้ายวันเกิด “หลวงปู่ผาแดง”

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ
















ร่วมแสดงมุทิตาเกจิชื่อดังเมืองอุบลฯ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่ผาแดง” สำนักสงฆ์ภูเขาทอง บ้านดอนสวรรค์ ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ห้วงนี้วัตถุมงคลพระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม รุ่นแรก และเครื่องราง”ปู่ขอ” ซึ่งเด่นทางโชคลาภ ค้าขายร่ำรวยของท่านกำลังโด่งดัง ร่วมไปถึงวัตถุมงคล ตะกรุดเศรษฐีรวยทันใจ-มีดหมอ ซึ่งมีกระแสความสนใจจากนักสะสมอย่างมาก

ตามประวัติ หลวงปู่ผาแดง หรือ พระอาจารย์นรินทร์ นนฺทโก ท่านเกิด เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2505 ณ บ้านน้ำโผ่ ตำบลเดิด อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี บิดา นายทองอินทร์ พรหมบุตร มารดา นางผาง พรหมบุตร เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 7 คน

ครอบครัวในวัยเด็ก บิดามารดาทำการเกษตร และบิดาเป็นนักมวยในท้องถิ่น จึงเรียนรู้วิชามวย ขึ้นชกรับจ้างตามงานต่างๆ ในท้องถิ่นยโสธร ท่านเป็นเด็กวัด มีความใกล้ชิดพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก

จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 (ป.7) โรงเรียนบ้านน้ำโผ่ ต.เดิด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร (ยโสธร ถูกประกาศตั้งเป็นจังหวัดยโสธร โดยแยกออกจากอุบลราชธานี พ.ศ.2515)

หลังจบการศึกษา ได้เดินทางตามญาติ เข้ามาทำงานรับจ้างที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เป็นต้นมา และได้แต่งงานมีครอบครัวในปีพ.ศ.2523 มีบุตรทั้งสิ้น 3 คน เป็นชายทั้งหมด

เมื่อชีวิตที่ดำเนินไป ไม่ได้ราบเรียบนัก ปัญหาในชีวิต มรสุมรุมเร้าเข้ามามากมาย ทั้งความไม่เข้าใจกันในครอบครัวกับภรรยาจึงได้หย่าร้าง ทำให้เกิดความท้อแท้และหดหู่ใจเป็นเวลาหลายวัน

เมื่อได้สติ ประกอบกับความเลื่อมใสในพระรัตนตัย ท่านจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะบวชตลอดชีวิต และในปีพ.ศ. 2535 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2535 เวลา 10.00 น.โดยมี พระอุปัชฌาย์ พระครูกันตศีลสาร (ปู่อินทร์) พระกรรมวาจาจารย์ พระสถิตย์ สุจิตฺโต พระอนุสาวนาจารย์ พระสวัสดิ์ ฐิตธมฺโม ณ พระอุโบสถวัดบ้านดู่ทุ่ง อ.เมือง จ.ยโสธร ได้รับฉายา “นนฺทโก”

เมื่อแรกอุปสมบทนั้น ได้จำวัดที่ วัดบ้านน้ำโผ่ ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อใกล้ถึงวันเข้าพรรษา ได้มีพระปฏิบัติ สายหลวงปู่บุญมาก คือ พระอาจารย์ดาว พระอาจารย์ไพรี ชวนไปปฏิบัติธรรมจำพรรษาที่วัด ภูผักแพรว ช่องเม็ก อุบลราชธานี ด้วยความที่ปู่ผาแดงเป็นคนอ่อนน้อม และใฝ่เรียนรู้ จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาจำพรรษาที่วัด ภูผักแพรว เป็นเวลาหลายพรรษา ท่านเคร่งครัดวัตรปฏิบัติ และการศึกษานักธรรมบาลี ขณะที่เป็นพระนวกะ จำพรรษาที่ ภูผักแพรว

หลวงปู่ผาแดง ได้เรียนชั้น นวกะ นักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก จบทุกชั้น ตามหลักสูตรกรมการศาสนา ในช่วงเวลาหลังออกพรรษา และสอบนักธรรมเสร็จแล้ว ปู่ผาแดงมักจะไปเดินธุดงค์ ติดตามครูบาอาจารย์ ไปในที่ต่างๆเป็นเวลาหลายเดือน เช่น ภูมะโรงจำปาสัก ภูจ้อก้อ มุกดาหาร ภูโจด ภูกะมุก ร้อยเอ็ด และเมื่อใกล้ถึงวันเข้าพรรษา ท่านก็จะเดินทางกลับมาจำพรรษาที่ วัดภูผักแพรว

การร่ำเรียน ทั้งภายนอก และภายใน เพื่อให้รู้แจ้งในกองทุกข์ การยึดมั่นในสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจ ว่านี่เรา ว่านี่ของของเรา ความทุกข์ ความฟุ้งซ่านยิ่งแผ่ครอบคลุมจิตใจ ปวดหัว ทุกข์หนัก ปานใจจะขาด คิดถึงลูกน้อยๆที่จากมา หนักๆเข้าจนถึงขั้นต้องกินยาแก้ปวด ไม่สามารถปลงได้ ไม่สามารถปล่อยวางได้

แต่ในที่สุด เมื่อความพยายามยังคงอยู่ โอกาสแห่งจิตที่จะคิดได้ และเข้าถึงธรรมก็เกิดขึ้น เมื่อพระสหธรรมิก ในวัด ได้กลั่นแกล้ง ดูถูก ถางถาง ต่างๆนาๆ เช่น โง่แบบนี้จะปฏิบัติธรรมได้รึ ฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่นานก็สึก อยู่ไม่ได้หรอก เป็นต้นฯลฯ จากเหตุเหล่านี้ ท่านจึงมุ่งมานะอย่างยิ่งยวด เพื่อเอาชนะคำสบประมาทให้ได้

เมื่อตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้ว จิตในขณะนั้น ได้ลืมความโศกเศร้า ความคิดถึงลูก ความฟุ้งซ่านต่างๆไปเลย จึงได้ค้นพบว่า แค่ไม่ยึดติด ไม่ยึดมั่นถือมั่น เมื่อปล่อยวางได้ จิตใจก็เบิกบาน มีกำลังใจในการปฏิบัติอย่างยิ่ง

ขณะที่หลวงปู่ผาแดง อยู่จำพรรษาจนผ่านพ้น นวกะ พรรษา5แล้ว ท่านได้รับนิมนต์มาอยู่ วัดภูหล่น ตำบลไร่ใต้ พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี ท่านพัฒนาและจำพรรษาอยู่ที่นี่หลายพรรษา จากนั้น ปู่ผาแดงก็ได้ออกธุดงค์ ไปภาคเหนือ ภาคใต้ และรับนิมนต์พัฒนาวัดต่างๆเป็นเวลา 10 กว่าปี

พ.ศ.2552 ช่วงก่อนเข้าพรรษาไม่นานนัก หลวงปู่ผาแดงได้รับนิมนต์ มาจำนำพรรษาและพัฒนา สำนักสงฆ์ภูเขาทอง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และท่านยังคงจำพรรษาที่นี่ จนถึงปัจจุบัน

ส่วนการร่ำเรียน วิชาพุทธาคมนั้น เมื่อครั้งจำพรรษาที่ ภูผักแพรว ได้เกิดเมตตา ต่อญาติโยมที่เจ็บไข้ได้ป่วย โดนคุณไสยต่างๆเล่นงาน ปู่ผาแดงจึงตั้งใจว่า เราต้องเรียนรู้วิชาสมุนไพร เรียนรู้วิชา อาคมต่างๆ เพื่อจะได้พอเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจในยามทุกข์ร้อนของญาติโยม ปู่ผาแดงจึงได้เริ่มแสวงหา ครูบาอาจารย์ ถ่ายทอดวิชาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านได้ของดี ของฝาก จากครูอาจารย์ ทั้งพระ และฆราวาส ดวงธรรมฤษีตาไฟ ดวงธรรมฤษีนารอด คาถาบางบทบางช่อท่านนิมิตได้มาเองจากการฝึกสมาธิ และการประยุกต์ใช้ ในหลายๆบทคาถา ที่ได้เรียนรู้มา ทำให้ท่านเป็นที่พึ่งแก่ญาติโยมจำนวนมากในเวลาต่อมา

ด้วยความที่ท่านมีนิสัยอ่อนน้อม และมีเมตตา วิชาพุทธาคม หลวงปู่ผาแดง เอกอุใน 4 ช่อพระคาถา 1.มหาอำนาจ หนุนธาตุ สะกด 2.นิรันตราย แคล้วคลาด ป้องกัน คุณผีคุณไสย 3.เมตตา ป้องกันเขี้ยวงา สัตว์ร้าย 4.มหาระรวย หัวใจเศรษฐี มหาเสน่ห์ มหานิยม

หลวงปู่ผาแดง มักสอนไว้เสมอว่า โลกใบนี้มันอยู่บนพื้นฐานของโลกธรรม 8 มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ มีสุขมีทุกข์ มีสรรเสริญมีนินทา อย่ายึดติดในอะไรให้มากนัก วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ที่ท่านเมตตาทำให้ ก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานสู้ชีวิตในทางโลกเท่านั้น อิทธผลจักบังเกิดอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธา การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของตัวเองเป็นสำคัญ

หลวงปู่ผาแดง เป็นพระเกจิอาจารย์มากเมตตาที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจรูปหนึ่ง

 
 
 

Commentaires


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page