top of page
ค้นหา

"ครูบาอริยชาติ" วัดแสงแก้วโพธิญาณ พระเกจิหนุ่มนักพัฒนาเมืองเชียงราย สืบสายวิชา ครูบาศรีวิชัย

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 28 ต.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

"ครูบาอริยชาติ" วัดแสงแก้วโพธิญาณ

พระเกจิหนุ่มนักพัฒนาเมืองเชียงราย

ศิษย์สืบสายวิชา“ครูบาศรีวิชัย”ยุคใหม่

ล่าสุดเมตตาอนุญาตให้สร้างพระปิดตา

ทีมข่าว"คัมภีร์นิวส์" ร่วมนำเสนอประวัติพระภาวนารัตนญาณ วิ. หรือ"ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต" หรือ"ครูบาน้อย"หรือ"ครูบาเก่ง" พระเกจิหนุ่มนักพัฒนาแห่งวัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ บ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พระภิกษุที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่งและเป็นศิษย์สาย “ครูบาศรีวิชัย”ยุคใหม่

ท่านถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๒๔ ที่บ้านปิงน้อย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรคนสุดท้ายของโยมพ่อสุข โยมแม่จำนงค์ อุ่นต๊ะ วัยเยาว์มีผิวพรรณผุดผ่อง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าเด็กในรุ่นเดียวกัน เรียนหนังสืออยู่ในระดับดีเยี่ยม แต่มีนิสัยรักสันโดษ ไม่ชอบเบียดเบียนสัตว์และมักนำดินเหนียวมาปั้นเป็นพระพุทธรูปทั้งองค์เล็ก องค์ใหญ่ จน เพื่อนๆ ล้อว่าเป็น"ตุ๊เจ้า"

ในยามว่างก็ชอบเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เนืองๆ เป็นที่มาให้ "ครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส" อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ต.ประดู่ป่า อ.เมือง จ.ลำพูน เห็นแววว่าเป็นผู้มีบุญวาสนา สมควรสืบสานพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสืบไป

จึงถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ทั้งการอ่าน เขียน อักษรล้านนาให้ ปรากฏว่าแค่เพียง ๑-๒ วัน ท่านก็สามารถอ่าน เขียนได้คล่องแคล่ว

ครูบาจันทร์ติ๊บได้ถ่ายทอดวิชาเวทมนตร์ อาคมต่างๆ ที่ร่ำเรียนสืบทอดมาจาก"ครูบาชุ่ม โพธิโก" อดีตพระเกจิชื่อดังล้านนาและอดีตเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (วังมุย) ให้จนหมดสิ้น ซึ่งท่านก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว เขียนและจารอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ แทนอาจารย์ได้เลย

ต่อมาครูบาจันทร์ติ๊บชราภาพมาก การทำตะกรุดพระเครื่อง วัตถุมงคลต่างๆ จึงตกเป็นภาระของท่าน ต้องทำเองแทนอาจารย์ ปรากฏว่าผู้เช่าบูชาได้รับประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัยและอุดมไปด้วยโชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

จวบจนอายุ ๑๔ ปี ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.๔ เกิดปรารถนาแรงกล้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ประกอบกับมีโอกาสไปกราบนมัสการ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ท่านเมตตาแนะนำให้บรรพชา จึงไปปรึกษาโยมพ่อโยมแม่แล้วบรรพชาเป็นสามเณรกับครูบาเทือง นาถสีโล วัดเด่นสลีเมืองแกน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

จากนั้นตั้งใจศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ เพิ่มเติมจาก ครูบาอินตา วัดห้วยไซร อ.บ้านธิ จ.ลำพูน และครูบาอินตา วัดวังทอง จ.ลำพูน ที่เชี่ยวชาญด้านเมตตามหานิยม จนวิชาไม่เป็นรองใครในภาคเหนือ จนมีลูกศิษย์จาก จ.น่าน นิมนต์ท่านไปขจัดปัดเป่าทุกข์โศกก็สร้างความประทับใจให้ทุกคน ได้รับขนานนามว่า “หลวงพ่อเณร” วัตถุมงคลที่ท่านเคยสร้าง เช่น ปรอท ดาบ ผู้ใช้ต่างมีประสบการณ์ “หนังเหนียว” ยิ่งสร้างชื่อเสียงให้ท่านมากขึ้น

ครั้นอายุครบ ๒๐ ปีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้รับฉายา “อริยจิตฺโต”จำพรรษาอยู่วัดชัยมงคล (วังมุย) ต.ประดู่ป่า อ.เมือง จ.ลำพูน มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจนญาติโยมศรัทธานิมนต์ไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งท่านอุทิศพัฒนาบูรณะพระธาตุเก่าแก่จนเจริญรุ่งเรืองทาสีขาว หุ้มทองคำเหลืองอร่ามใช้เวลาแค่ ๑ เดือนเท่านั้น

ต่อมา ครูบาอริยชาติได้ย้ายมาสร้างวัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ บนดอยม่อนแสงแก้ว เลขที่ ๑๙๑ หมู่ ๑๑ บ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ในเนื้อที่ประมาณ ๒๙ ไร่เศษ เด่นเป็นสง่ามองลงมาเห็นตัว อ.แม่สรวย ชัดเจนตามการรับนิมนต์ของ หลวงพ่อยา ศรีทา และคณะศรัทธาชาวบ้านป่าตึง โดยถือฤกษ์ดีก่อสร้างเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ตรงกับเดือนแปดเป็งของล้านนาหรือตรงกับวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหก

ที่มาของชื่อ "วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ" หมายถึง "ดอกบัวที่ผุดโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำแล้วมีแสงสว่างเรืองรองเหมือนแสงแก้ว" เป็นการตั้งชื่อตามนิมิตของท่านที่เห็นฝนตกหนัก ท่านเดินจากยอดดอยแต่ศิษย์ห้ามไว้บอกว่า “ไม่ต้องลงไปหรอกหมู่บ้านข้างล่างน้ำท่วมหมดแล้ว” และท่านเห็นแสงสว่างคล้าย ๆ แสงแก้วลอยไปลอยมาหลายดวง เข้าไปดูใกล้ๆ พบชาวบ้านถือดวงไฟส่องทาง จึงเดินกลับขึ้นดอยระหว่างทางตกหลุมโคลนพบลูกแก้วแสงสว่างเรืองรองสวยงาม แต่ท่านมิได้สนใจโยนทิ้งไปกลับกลายเป็นดอกบัวผุดขึ้นมากมายส่องแสงเรืองรองทั่วบริเวณ

รุ่งเช้าท่านนำนิมิตไปเล่าให้หลวงพ่อยา ศรีทาและคณะศรัทธาฟัง จึงตั้งชื่อว่า “วัดแสงแก้วโพธิญาณ” แต่พอขออนุญาตสร้างวัดต่อกรมศาสนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานนามใหม่เป็น “วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ”

ปีพ.ศ. ๒๕๕๔ เป็น พระครูปลัด ต่อมา วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ "พระภาวนารัตนญาณ"

โดยนิสัยส่วนตัว ครูบาอริยชาติ มักน้อย ถือสันโดษ ไม่ชอบสะสมสิ่งของต่าง ๆ อาหารคาวหวานฉันแต่น้อยพออิ่ม ไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ ใครถวายอะไร ก็ฉันอย่างนั้น เรียบง่าย ไม่เรื่องมาก

ไม่ว่าญาติโยมคนใดเดือดเนื้อร้อนใจทุกปัญหา หากดั้นด้นไปปรึกษาหารือท่านให้ช่วยเหลือขจัดปัดเป่าความทุกข์โศกล้วนไม่เคยผิดหวัง ทุกคนต่างสุขกายสบายใจ ด้วยจริยวัตรอันงดงามและยึดแนววิถีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและ เดินตามรอย “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” นักบุญแห่งล้านนาอย่างมาดมั่น น่าเคารพน่าศรัทธาและน่าเลื่อมใสยิ่งนัก

จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้นักการเมือง คหบดี นักธุรกิจ พ่อค้า ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนต่างหลั่งไหลไปกราบมนัสการ ครูบาอริยชาติ จนแน่นขนัดวัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ

ล่าสุด "ทีมพี่เสือ" นำโดย นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ & ป้อม สกลนคร ขออนุญาตจัดสร้างพระผงปิดตา"รวยมหาเศรษฐี" ด้านหลังยันต์พญานกยูงเรียกทรัพย์ล้านนา สุดยอดพระผงที่อัดแน่นด้วยสุดยอดมวลสาร งานพุทธศิลป์สุดสวย พิธีกรรมเข้มขลัง



 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page