top of page
ค้นหา

คล้ายวันเกิด/สิริอายุ88ปีเกจิดัง

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 10 ก.พ. 2565
  • ยาว 1 นาที

10ก.พ.ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ

คล้ายวันเกิด/สิริอายุ88ปีเกจิดัง

"หลวงพ่อรวย อคคฺสาโร"วัดมาบตาพุด

ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่หิน วัดหนองสนม

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ วันคล้ายวันเกิดของพระดี...เกจิดัง...นามเป็นมงคลแห่งเมืองระยอง "พระครูสุขุมธรรมธาดา" หรือ "หลวงพ่อรวยอคคฺสาโร" สิริอายุ 88 ปี เจ้าอาวาสวัดมาบตาพุด พระเกจินักพัฒนา ศูนย์รวมทางจิตใจของชาวมาบตาพุด


ท่านเป็นศิษย์เอกสายตรงของพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือที่สาธุชนรู้จักกันในนาม "หลวงปู่หินวัดหนองสนม" อดีตพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์องค์หนึ่งของระยอง


ชื่อชั้นของหลวงพ่อรวยในอดีตอาจไม่โด่งดัง แต่ท่านก็นับว่าไม่ธรรมดาเพราะเคยร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกร่วมกับพระเกจิดังหลายท่านตั้งแต่อายุเพียง30กว่าๆ ในงาน พุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดบ้านเก่า จ.ระยอง เมื่อปีพ.ศ.2509 อย่างเช่น หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,หลวงปู่บุญวัดบ้านนา,หลวงปู่หอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ฯลฯซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นตำนานเกจิดังเมืองระยอง


บ่งบอกได้ว่า วิชาอาคมของหลวงพ่อรวย วัดมาบตาพุดท่านก็สุดยอดเช่นกัน


ท่านมีนามเดิมว่า"สำรวย"

บิดาชื่อ นายครึ้ม มารดาชื่อ นางเบือน นามสกุล"แสงพรต" พื้นเพท่านเป็นชาวระยองโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. 2477 ปีระกา ณ บ้านทุ่งโตนด ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง มีพี่น้องรวม 9 คน


ในวัยฉกรรจ์มีโอกาสเข้ารับราชการทหาร หลังปลดประจำการได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อวันที่8 มิ.ย. 2501 ณ วัดเนินพระ โดยมีพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือ"หลวงปู่หิน" วัดหนองสนม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมหลง วัดโขดทิมธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์ฉอ้อนวัดเนินพระ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"อัคคสาโร"

เดิมทีท่านคิดบวชเพียง 2 พรรษา แต่เกิดความซาบซึ่งในรสแห่งพระธรรม จึงครองสมณเพศและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้านเรื่อยมา โดยอยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดเนินพระ และ

สำเร็จนักธรรมชั้นเอกในปีพ.ศ. 2503

ต่อมาในปีพ.ศ.2504ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดมาบตาพุด ปีพ.ศ. 2505 รับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมาบตาพุด และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ.2507 เป็นต้นมา

พ.ศ. 2515 รับตำแหน่งพระธรรมทูต พ.ศ. 2518 รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบล พ.ศ. 2523 รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. 2549 รับตำแหน่งพระนักเทศ พ.ศ. 2504 ถึง 2545 ตำแหน่งพระครูพระปริยัติธรรมแผนกธรรม


“วัดมาบตาพุด” เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญขงเมืองระยอง สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ.2444 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เดิมทีนั้นยังมิได้เป็นวัด หากแต่เป็นสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณป่า ห่างไกล ความเจริญ ต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2498


เมื่อหลวงพ่อรวยเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา ทำให้วัดมาบตาพุดมีความเจริญจากเมื่อก่อนเป็นอันมาก ด้วยแนวคิดและความสามารถของหลวงพ่อประกอบกับความเลื่อมใสจากญาติโยมพุทธบริษัท ส่งผลให้วัดมาบตาพุดจากเดิมที่เป็นแต่เพียงวัดเล็ก กลับกลายเป็นวัดที่มีอาณาเขตพื้นที่กว่า 20 ไร่ ในปัจจุบัน


จากถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดที่ชำรุดทรุดโทรม ก็กลับมามีสภาพคงเดิมงดงาม ใช้ประกอบศาสนกิจให้แก่พระภิกษุ-สามเณร โดยเฉพาะอุโบสถหลังใหม่ที่ใหญ่โตสวยงามมาก อีกทั้งท่านยังส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาพระธรรมวินัยให้กับพระภิกษุ-สามเณร และประชาชนที่มีความสนใจในพระธรรม

ในด้านวิชาอาคม หลวงพ่อรวยท่านเป็นศิษย์สายตรงของพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือที่สาธุชนรู้จักกันในนาม "หลวงปู่หิน วัดหนองสนม" สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งจังหวัดระยอง ซึ่งกิตติศัพท์คำร่ำลือด้านพระเวทย์นี้ เรียกได้ว่าเข้มขลังเป็นยิ่งนักโดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี


ถึงขนาดที่ว่าหากใครมีวัตถุมงคลของหลวงปู่หินไว้ติดตัว เชื่อกันว่า “ไม่มีวันเสียเลือดให้ใครแม้แต่แมลงวันก็ไม่มีโอกาสได้ตอมเลือด” ด้วยเพราะท่านได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมมาจากหลวงปู่สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีน ปรมาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งจังหวัดระยองและเป็นปู่แท้ๆของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก


วิชาที่หลวงพ่อรวยได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่หินคือ วิชาแป้งเจิมมหามงคล วิชาการทำสีผึ้งเมตตา ซึ่งเป็นวิชาเดียวกันกับที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้รับการถ่ายทอดและทดสอบวิชาจากหลวงปู่หิน จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวยกย่องและเคารพศรัทธาในมหาพุทธาคมของหลวงปู่หินเป็นอย่างมาก


วัตถุมงคลของหลวงรวยมีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ ก่อเกิดประสบการณ์เล่าขานกันหลายเรื่องทั้งด้านเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย


ปัจจุบันหลวงพ่อรวย วัดมาบตาพุด ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสุดยอดเกจิอาจารย์ดังระดับต้นๆของเมืองระยอง ด้วยนามของท่านที่เป็นมงคล และความเข้มขลังทางวิชาอาคม ส่งผลให้วัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านได้รับความนิยมในหมู่ศิษยานุศิษย์และนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เลื่อมใสศรัทธาในฐานะ "พระดีเกจิดังฝั่งทะเลบูรพา"ที่กราบไหว้ได้อย่างแท้จริง


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page