10ก.พ.ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ
คล้ายวันเกิด/สิริอายุ88ปีเกจิดัง
"หลวงพ่อรวย อคคฺสาโร"วัดมาบตาพุด
ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่หิน วัดหนองสนม
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมแสดงมุทิตาสักการะ วันคล้ายวันเกิดของพระดี...เกจิดัง...นามเป็นมงคลแห่งเมืองระยอง "พระครูสุขุมธรรมธาดา" หรือ "หลวงพ่อรวยอคคฺสาโร" สิริอายุ 88 ปี เจ้าอาวาสวัดมาบตาพุด พระเกจินักพัฒนา ศูนย์รวมทางจิตใจของชาวมาบตาพุด
ท่านเป็นศิษย์เอกสายตรงของพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือที่สาธุชนรู้จักกันในนาม "หลวงปู่หินวัดหนองสนม" อดีตพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์องค์หนึ่งของระยอง
ชื่อชั้นของหลวงพ่อรวยในอดีตอาจไม่โด่งดัง แต่ท่านก็นับว่าไม่ธรรมดาเพราะเคยร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกร่วมกับพระเกจิดังหลายท่านตั้งแต่อายุเพียง30กว่าๆ ในงาน พุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดบ้านเก่า จ.ระยอง เมื่อปีพ.ศ.2509 อย่างเช่น หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่,หลวงปู่บุญวัดบ้านนา,หลวงปู่หอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ฯลฯซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นตำนานเกจิดังเมืองระยอง
บ่งบอกได้ว่า วิชาอาคมของหลวงพ่อรวย วัดมาบตาพุดท่านก็สุดยอดเช่นกัน
ท่านมีนามเดิมว่า"สำรวย"
บิดาชื่อ นายครึ้ม มารดาชื่อ นางเบือน นามสกุล"แสงพรต" พื้นเพท่านเป็นชาวระยองโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. 2477 ปีระกา ณ บ้านทุ่งโตนด ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง มีพี่น้องรวม 9 คน
ในวัยฉกรรจ์มีโอกาสเข้ารับราชการทหาร หลังปลดประจำการได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อวันที่8 มิ.ย. 2501 ณ วัดเนินพระ โดยมีพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือ"หลวงปู่หิน" วัดหนองสนม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดกิมหลง วัดโขดทิมธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์ฉอ้อนวัดเนินพระ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"อัคคสาโร"
เดิมทีท่านคิดบวชเพียง 2 พรรษา แต่เกิดความซาบซึ่งในรสแห่งพระธรรม จึงครองสมณเพศและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้านเรื่อยมา โดยอยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดเนินพระ และ
สำเร็จนักธรรมชั้นเอกในปีพ.ศ. 2503
ต่อมาในปีพ.ศ.2504ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดมาบตาพุด ปีพ.ศ. 2505 รับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมาบตาพุด และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ.2507 เป็นต้นมา
พ.ศ. 2515 รับตำแหน่งพระธรรมทูต พ.ศ. 2518 รับตำแหน่งเจ้าคณะตำบล พ.ศ. 2523 รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. 2549 รับตำแหน่งพระนักเทศ พ.ศ. 2504 ถึง 2545 ตำแหน่งพระครูพระปริยัติธรรมแผนกธรรม
“วัดมาบตาพุด” เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญขงเมืองระยอง สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ.2444 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เดิมทีนั้นยังมิได้เป็นวัด หากแต่เป็นสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณป่า ห่างไกล ความเจริญ ต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2498
เมื่อหลวงพ่อรวยเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ด้วยเหตุที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา ทำให้วัดมาบตาพุดมีความเจริญจากเมื่อก่อนเป็นอันมาก ด้วยแนวคิดและความสามารถของหลวงพ่อประกอบกับความเลื่อมใสจากญาติโยมพุทธบริษัท ส่งผลให้วัดมาบตาพุดจากเดิมที่เป็นแต่เพียงวัดเล็ก กลับกลายเป็นวัดที่มีอาณาเขตพื้นที่กว่า 20 ไร่ ในปัจจุบัน
จากถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดที่ชำรุดทรุดโทรม ก็กลับมามีสภาพคงเดิมงดงาม ใช้ประกอบศาสนกิจให้แก่พระภิกษุ-สามเณร โดยเฉพาะอุโบสถหลังใหม่ที่ใหญ่โตสวยงามมาก อีกทั้งท่านยังส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาพระธรรมวินัยให้กับพระภิกษุ-สามเณร และประชาชนที่มีความสนใจในพระธรรม
ในด้านวิชาอาคม หลวงพ่อรวยท่านเป็นศิษย์สายตรงของพระครูวิจารณ์ธรรมกิติ หรือที่สาธุชนรู้จักกันในนาม "หลวงปู่หิน วัดหนองสนม" สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งจังหวัดระยอง ซึ่งกิตติศัพท์คำร่ำลือด้านพระเวทย์นี้ เรียกได้ว่าเข้มขลังเป็นยิ่งนักโดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี
ถึงขนาดที่ว่าหากใครมีวัตถุมงคลของหลวงปู่หินไว้ติดตัว เชื่อกันว่า “ไม่มีวันเสียเลือดให้ใครแม้แต่แมลงวันก็ไม่มีโอกาสได้ตอมเลือด” ด้วยเพราะท่านได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมมาจากหลวงปู่สังข์เฒ่า วัดเก๋งจีน ปรมาจารย์ผู้เรืองเวทย์แห่งจังหวัดระยองและเป็นปู่แท้ๆของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เทพเจ้าแห่งภาคตะวันออก
วิชาที่หลวงพ่อรวยได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่หินคือ วิชาแป้งเจิมมหามงคล วิชาการทำสีผึ้งเมตตา ซึ่งเป็นวิชาเดียวกันกับที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ได้รับการถ่ายทอดและทดสอบวิชาจากหลวงปู่หิน จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวยกย่องและเคารพศรัทธาในมหาพุทธาคมของหลวงปู่หินเป็นอย่างมาก
วัตถุมงคลของหลวงรวยมีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ ก่อเกิดประสบการณ์เล่าขานกันหลายเรื่องทั้งด้านเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย
ปัจจุบันหลวงพ่อรวย วัดมาบตาพุด ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสุดยอดเกจิอาจารย์ดังระดับต้นๆของเมืองระยอง ด้วยนามของท่านที่เป็นมงคล และความเข้มขลังทางวิชาอาคม ส่งผลให้วัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านได้รับความนิยมในหมู่ศิษยานุศิษย์และนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เลื่อมใสศรัทธาในฐานะ "พระดีเกจิดังฝั่งทะเลบูรพา"ที่กราบไหว้ได้อย่างแท้จริง
Kommentare