top of page
ค้นหา

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. 2566 “หลวงพ่อแจ่ม” เกจิวัดวังแดงเหนือ

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 1 ม.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

#คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง

ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. 2566

“หลวงพ่อแจ่ม” เกจิวัดวังแดงเหนือ

เจ้าตำรับ”พระขรรค์สะกดวิญญาณ”

หนึ่งในอาจารย์"หลวงพ่อรวย วัดตะโก"

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏชื่อเสียงของพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคุณหลายต่อหลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์เชื่อได้ในความแก่กล้าทางวิชาอาคม มีเรื่องราวเล่าขานสืบมาจนทุกวันนี้ เฉพาะใน จ.พระนครศรีอยุธยา นับว่ามีเกจิอาจารย์ดังแจ้งเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยมีบทบาทในการสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านได้อย่างดีเยี่ยม

ดั่งเช่น “หลวงพ่อแจ่ม “ธมฺมปาโล” อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 ของวัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกียรติคุณของท่านยังเป็นที่สรรเสริญกล่าวขานกันอยู่มิรู้ลืม โดยเฉพาะความเข้มขลังทางพุทธาคมและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสก มีผู้ประจักษ์ความศักดิ์สิทธิ์มากมายหลายคน

หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ท่านเป็นพระเกจิร่วมยุคกับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จนมีวลีที่ว่า "ตะกรุดอาจารย์นอ มีดหมอต้องพ่อแจ่ม " ซึ่งทั้งสองท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ อดีตปรมาจารย์ยุคเก่ารุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ พระญาณไตรโลกฉาย วัดพนัญเชิง หลวงปู่กรอง วัดเทพจันทร์ลอย ฯลฯ

ศิษย์เอกของหลวงพ่อแจ่มที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็คือ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้, หลวงพ่อเพย วัดบึง และอีกองค์ที่มรณภาพไปแล้ว แต่พระเครื่องกำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คือ “หลวงพ่อรวย วัดตะโก”

หลวงพ่อแจ่มนับเป็นสุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า 1 ใน 2 ท่านที่ได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ของประเทศครบทั้ง 4 พิธี คือ 1.พิธีวัดราชบพิธ ปี2481 (ไปแทนอาจารย์ของท่านที่เพิ่งมรณภาพ) 2.พิธีพระพุทธชินราชอินโดจีน วัดสุทัศน์ ปี2485 3.พิธี 25 พุทธศตวรรษ ปี2500 ที่พุทธมณฑล และ 4.พิธีวัดประสาทบุญญาวาส ปี2506 (อีกท่านหนึ่งก็คือ"พระทองคำแห่งบางไทร" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก)

ท่านเชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถาเป็นอย่างมาก เป็นที่พึ่งยามยากของชาวบ้านมาตลอด โดยเฉพาะบ้านนอกบ้านนาในสมัยโบราณ เรื่องการทำคุณไสย ทำคุณทำของ ลมเพลมพัด ภูตผีปิศาจยังมีอยู่ เรื่องอย่างนี้ หลวงพ่อแจ่มท่าน"เอาอยู่"และมีชื่อเสียงอย่างมาก

หลวงพ่อแจ่มมีนามสมณศักดิ์ที่ “พระครูประภาสธรรมคุณ”เกิดในสกุล “เพ็ชรัก” เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2446 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ บ้านวังแดง หมู่ที่ 4 ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ “นายบาง” โยมมารดาชื่อ “นางสุ่ม”

เมื่ออายุย่างเข้าปฐมวัย บิดานำไปฝากเรียนอักษรสมัย หนังสือไทยและหนังสือขอมที่วัดวังแดงเหนือ อยู่ในความปกครองของ”หลวงพ่อสา” เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านจนจบหลักสูตรและสามารถเขียนหนังสือขอมได้สวยเหมือนตัวพิมพ์ ในระหว่างที่อยู่วัดวังแดงเหนือนั้น ท่านได้เรียนสมถกรรมฐานควบคู่ไปด้วย โดยกล่าวว่า เป็นการฝึกจิตให้เป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วทำให้เกิดปัญญา สามารถศึกษาวิชาการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ในทางเวทมนต์คาถาได้รับการสั่งสอนเป็นกรณีพิเศษจากหลวงพ่อสา ทำให้รอบรู้วิชาไสยเวทย์ตั้งแต่ก่อนบวช กระทั่งอายุ 20 ปีจึงเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดวังแดงใต้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2466 โดยมีพระอธิการสา เจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโป๋ รองเจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระสมุห์โชติ วัดศาลาลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ธมฺมปาโล”

ท่านได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดวังแดงเหนือ คอยรับใช้ใกล้ชิดพระอุปัชฌาย์ อีกทั้งการในพระศาสนาต่างๆที่เห็นว่าพอจะทำได้ จึงเป็นที่โปรดปรานของพระอุปัชฌาย์อย่างยิ่ง ล่วงเข้าพรรษาที่ 4 ได้หันมาศึกษาทางพุทธาคมคาถา โดยมีพระอาจารย์สา และพระอธิการโป๋ เป็นผู้ประสิทธิวิทยาคุณต่างๆ ยิ่งกว่านั้น ยังได้ไปขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนไสยเวทกับ”อาจารย์เพิ่ม” ซึ่งเป็นฆราวาสอยู่ในละแวกนั้นอีกด้วย

อาจารย์เพิ่มสอนวิชาสร้างมีดปากกา (พระขรรค์) อันทรงฤทธิ์ให้ ซึ่งวิชานี้พิธีการสร้างมีความยุ่งยากมาก แม้แต่หลวงพ่อนอ แห่งสำนักวัดกลางท่าเรือ ยังหาได้เรียนสำเร็จไม่ จนต้องหันไปเรียนวิทยาคมบทอื่น และการที่หลวงพ่อแจ่ม ได้ร่ำเรียนมาจนสำเร็จนั้นนับว่าท่านมีวิริยะ อุตสาหะอย่างมาก

ท่านได้คร่ำเคร่งอยู่กับวิชาอาคมนานหลายพรรษา แต่ไม่ได้แสดงความเข้มขลังให้เป็นที่ปรากฏแต่อย่างใด ต่อเมื่อครูอาจารย์ของท่านมรณภาพลงหมดแล้ว ท่านจึงนำวิชาการด้านนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในงานพระพุทธศาสนาและสังคมทางโลก กระทั่งเกียรติคุณทางเวทมนต์คาถาของท่านเป็นที่โจษจันกล่าวขาน

ประชาชนที่มีทุกข์ทางใจทั้งบ้านใกล้เรือนเคียง เมื่อได้ทราบกิตติศัพท์ของหลวงพ่อแจ่มก็เดินทางมาที่วัดวังแดงเหนือ เพื่อให้ท่านช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากต่าง ๆไม่เว้นแต่ละวัน จนท่านแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แต่ท่านก็ไม่เคยออกปากบ่นว่าเหนื่อย คงยิ้มแย้มแจ่มใส มุ่งมั่นในการสงเคราะห์ผู้คนที่มีทุกทางใจให้สำเร็จประโยชน์ทุกรายไป

มีผู้ใกล้ชิดเล่าไว้ว่า ใครก็ตามที่มาหาท่านครั้งแรกแล้ว ต้องเดินทางมากราบท่านอีกหลายครั้ง เพราะการต้อนรับขับสู้ของหลวงพ่อแจ่มเปี่ยมล้นไปด้วยไมตรีจิต เป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตองให้วุ่นวาย การสนทนาปราศรัยก็แฝงด้วยความปรานี ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้ยินมิอาจลืมเลือนในเมตตาธรรมของท่านได้

คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้มีทุกข์ทางใจกลับมากราบท่านหลายๆ ครั้งคือ วิชาโหราศาสตร์ และน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาโหราศาสตร์ ท่านทายได้แม่นยำเหมือนตาเห็น เป็นที่ยอมรับนับถือกันมากในสมัยนั้น แม้แต่ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ก็เคยประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์มาแล้วหลายท่าน อาทิ นายอภัย จันทวิมล อดีตรมว.ศึกษาธิการ ,นายคุ้ม แสงศิลป อดีตปลัดจังหวัดพังงา,พ.อ.ประวาฬ ประดิษฐานนท์,พ.ท.ธีระ พุทธิรานนท์ ฯลฯ

หลวงพ่อแจ่มถึงกาลมรณภาพเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2515 สิริอายุย่าง 69 ปี ทุกวันนี้ชื่อเสียงของท่านยังคงความเป็นอมตะสืบมา ในฐานะ “พระคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้” ผู้ยิ่งในบุญญาบารมี

วัตถุมงคลหลวงพ่อแจ่มมีทั้งที่ท่านสร้างไว้และศิษย์สร้างถวายหลายรูปแบบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลังอย่างพระขรรค์,มีดหมอ,มีดปากกา,เหรียญรูปเหมือน,พระสมเด็จ,พระขุนแผน,รูปหล่อ ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อลือชาโด่งดังเข้มขลังด้วยคุณวิเศษก็คือ “พระขรรค์สะกดวิญญาณ” จัดเป็นมีดหมออันดับหนึ่งของเมืองกรุงเก่า

ท่านสร้างมีดหมอถือเป็นเอกลักษณ์ของสำนักนี้ โดยใช้วัตถุอาถรรพ์และวัตถุที่เป็นมงคลมาตีเป็นดาบทำเป็นพระขรรค์ หรือมีดหมอ กรรมวิธีใช้วิธีนำไขมาเขียนยันต์บนใบมีดแล้วแช่กัดกรดให้เกิดยันต์นูน หรือเรียกภาษาช่างง่ายๆว่า “ไขกัดกรด” เป็นสำนักแรก ก่อนที่ลูกศิษย์ท่านคือ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้จะมาสร้างมีดลักษณะเดียวกับของท่านคือ มีดพระขรรค์แบบปากกา

เหรียญรุ่นแรกของท่าน สร้างในปี 2508 เป็นที่กล่าวขานทั้งในด้านประสบการณ์ และในเรื่องความ"หายาก เนื่องด้วยท่านสร้างไว้จำนวนไม่มากนัก ตามประวัติว่าสร้างเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง 500 เหรียญ เนื้ออัลปาก้า 1,000 เหรียญ และเนื้อทองแดง 1,500 เหรียญ

ปัจจุบันวัตถุมงคลหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพระขุนแผนเนื้อดินผสมว่าน 108 ชนิด, พระขรรค์, มีดหมอและเหรียญรุ่น 1” มีค่านิยมค่อนข้างสูง และเป็นที่เสาะหาของคนในละแวกใกล้เคียงโดยทั่วไป รวมทั้งในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลทั่วประเทศ

วัตถุมงคลของหลวงพ่อแจ่มนั้นส่วนใหญ่ท่านจะปลุกเสกเดี่ยว กล่าวขานกันว่า “แจ่ม”สมกับชื่อของท่านทั้งเรื่องประสบการณ์และราคาค่านิยม

#ฉัตรสยาม





 
 
 

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page