#คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง
ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. 2566
“หลวงพ่อแจ่ม” เกจิวัดวังแดงเหนือ
เจ้าตำรับ”พระขรรค์สะกดวิญญาณ”
หนึ่งในอาจารย์"หลวงพ่อรวย วัดตะโก"
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปรากฏชื่อเสียงของพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคุณหลายต่อหลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์เชื่อได้ในความแก่กล้าทางวิชาอาคม มีเรื่องราวเล่าขานสืบมาจนทุกวันนี้ เฉพาะใน จ.พระนครศรีอยุธยา นับว่ามีเกจิอาจารย์ดังแจ้งเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยมีบทบาทในการสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านได้อย่างดีเยี่ยม
ดั่งเช่น “หลวงพ่อแจ่ม “ธมฺมปาโล” อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 ของวัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เกียรติคุณของท่านยังเป็นที่สรรเสริญกล่าวขานกันอยู่มิรู้ลืม โดยเฉพาะความเข้มขลังทางพุทธาคมและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสก มีผู้ประจักษ์ความศักดิ์สิทธิ์มากมายหลายคน
หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ท่านเป็นพระเกจิร่วมยุคกับหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จนมีวลีที่ว่า "ตะกรุดอาจารย์นอ มีดหมอต้องพ่อแจ่ม " ซึ่งทั้งสองท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ อดีตปรมาจารย์ยุคเก่ารุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ พระญาณไตรโลกฉาย วัดพนัญเชิง หลวงปู่กรอง วัดเทพจันทร์ลอย ฯลฯ
ศิษย์เอกของหลวงพ่อแจ่มที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็คือ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้, หลวงพ่อเพย วัดบึง และอีกองค์ที่มรณภาพไปแล้ว แต่พระเครื่องกำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คือ “หลวงพ่อรวย วัดตะโก”
หลวงพ่อแจ่มนับเป็นสุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า 1 ใน 2 ท่านที่ได้รับนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ของประเทศครบทั้ง 4 พิธี คือ 1.พิธีวัดราชบพิธ ปี2481 (ไปแทนอาจารย์ของท่านที่เพิ่งมรณภาพ) 2.พิธีพระพุทธชินราชอินโดจีน วัดสุทัศน์ ปี2485 3.พิธี 25 พุทธศตวรรษ ปี2500 ที่พุทธมณฑล และ 4.พิธีวัดประสาทบุญญาวาส ปี2506 (อีกท่านหนึ่งก็คือ"พระทองคำแห่งบางไทร" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก)
ท่านเชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถาเป็นอย่างมาก เป็นที่พึ่งยามยากของชาวบ้านมาตลอด โดยเฉพาะบ้านนอกบ้านนาในสมัยโบราณ เรื่องการทำคุณไสย ทำคุณทำของ ลมเพลมพัด ภูตผีปิศาจยังมีอยู่ เรื่องอย่างนี้ หลวงพ่อแจ่มท่าน"เอาอยู่"และมีชื่อเสียงอย่างมาก
หลวงพ่อแจ่มมีนามสมณศักดิ์ที่ “พระครูประภาสธรรมคุณ”เกิดในสกุล “เพ็ชรัก” เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2446 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ บ้านวังแดง หมู่ที่ 4 ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ “นายบาง” โยมมารดาชื่อ “นางสุ่ม”
เมื่ออายุย่างเข้าปฐมวัย บิดานำไปฝากเรียนอักษรสมัย หนังสือไทยและหนังสือขอมที่วัดวังแดงเหนือ อยู่ในความปกครองของ”หลวงพ่อสา” เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านจนจบหลักสูตรและสามารถเขียนหนังสือขอมได้สวยเหมือนตัวพิมพ์ ในระหว่างที่อยู่วัดวังแดงเหนือนั้น ท่านได้เรียนสมถกรรมฐานควบคู่ไปด้วย โดยกล่าวว่า เป็นการฝึกจิตให้เป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วทำให้เกิดปัญญา สามารถศึกษาวิชาการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในทางเวทมนต์คาถาได้รับการสั่งสอนเป็นกรณีพิเศษจากหลวงพ่อสา ทำให้รอบรู้วิชาไสยเวทย์ตั้งแต่ก่อนบวช กระทั่งอายุ 20 ปีจึงเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดวังแดงใต้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2466 โดยมีพระอธิการสา เจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการโป๋ รองเจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระสมุห์โชติ วัดศาลาลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ธมฺมปาโล”
ท่านได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดวังแดงเหนือ คอยรับใช้ใกล้ชิดพระอุปัชฌาย์ อีกทั้งการในพระศาสนาต่างๆที่เห็นว่าพอจะทำได้ จึงเป็นที่โปรดปรานของพระอุปัชฌาย์อย่างยิ่ง ล่วงเข้าพรรษาที่ 4 ได้หันมาศึกษาทางพุทธาคมคาถา โดยมีพระอาจารย์สา และพระอธิการโป๋ เป็นผู้ประสิทธิวิทยาคุณต่างๆ ยิ่งกว่านั้น ยังได้ไปขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนไสยเวทกับ”อาจารย์เพิ่ม” ซึ่งเป็นฆราวาสอยู่ในละแวกนั้นอีกด้วย
อาจารย์เพิ่มสอนวิชาสร้างมีดปากกา (พระขรรค์) อันทรงฤทธิ์ให้ ซึ่งวิชานี้พิธีการสร้างมีความยุ่งยากมาก แม้แต่หลวงพ่อนอ แห่งสำนักวัดกลางท่าเรือ ยังหาได้เรียนสำเร็จไม่ จนต้องหันไปเรียนวิทยาคมบทอื่น และการที่หลวงพ่อแจ่ม ได้ร่ำเรียนมาจนสำเร็จนั้นนับว่าท่านมีวิริยะ อุตสาหะอย่างมาก
ท่านได้คร่ำเคร่งอยู่กับวิชาอาคมนานหลายพรรษา แต่ไม่ได้แสดงความเข้มขลังให้เป็นที่ปรากฏแต่อย่างใด ต่อเมื่อครูอาจารย์ของท่านมรณภาพลงหมดแล้ว ท่านจึงนำวิชาการด้านนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในงานพระพุทธศาสนาและสังคมทางโลก กระทั่งเกียรติคุณทางเวทมนต์คาถาของท่านเป็นที่โจษจันกล่าวขาน
ประชาชนที่มีทุกข์ทางใจทั้งบ้านใกล้เรือนเคียง เมื่อได้ทราบกิตติศัพท์ของหลวงพ่อแจ่มก็เดินทางมาที่วัดวังแดงเหนือ เพื่อให้ท่านช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากต่าง ๆไม่เว้นแต่ละวัน จนท่านแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แต่ท่านก็ไม่เคยออกปากบ่นว่าเหนื่อย คงยิ้มแย้มแจ่มใส มุ่งมั่นในการสงเคราะห์ผู้คนที่มีทุกทางใจให้สำเร็จประโยชน์ทุกรายไป
มีผู้ใกล้ชิดเล่าไว้ว่า ใครก็ตามที่มาหาท่านครั้งแรกแล้ว ต้องเดินทางมากราบท่านอีกหลายครั้ง เพราะการต้อนรับขับสู้ของหลวงพ่อแจ่มเปี่ยมล้นไปด้วยไมตรีจิต เป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตองให้วุ่นวาย การสนทนาปราศรัยก็แฝงด้วยความปรานี ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้ยินมิอาจลืมเลือนในเมตตาธรรมของท่านได้
คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้มีทุกข์ทางใจกลับมากราบท่านหลายๆ ครั้งคือ วิชาโหราศาสตร์ และน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาโหราศาสตร์ ท่านทายได้แม่นยำเหมือนตาเห็น เป็นที่ยอมรับนับถือกันมากในสมัยนั้น แม้แต่ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ก็เคยประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์มาแล้วหลายท่าน อาทิ นายอภัย จันทวิมล อดีตรมว.ศึกษาธิการ ,นายคุ้ม แสงศิลป อดีตปลัดจังหวัดพังงา,พ.อ.ประวาฬ ประดิษฐานนท์,พ.ท.ธีระ พุทธิรานนท์ ฯลฯ
หลวงพ่อแจ่มถึงกาลมรณภาพเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2515 สิริอายุย่าง 69 ปี ทุกวันนี้ชื่อเสียงของท่านยังคงความเป็นอมตะสืบมา ในฐานะ “พระคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้” ผู้ยิ่งในบุญญาบารมี
วัตถุมงคลหลวงพ่อแจ่มมีทั้งที่ท่านสร้างไว้และศิษย์สร้างถวายหลายรูปแบบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรางของขลังอย่างพระขรรค์,มีดหมอ,มีดปากกา,เหรียญรูปเหมือน,พระสมเด็จ,พระขุนแผน,รูปหล่อ ฯลฯ ที่ขึ้นชื่อลือชาโด่งดังเข้มขลังด้วยคุณวิเศษก็คือ “พระขรรค์สะกดวิญญาณ” จัดเป็นมีดหมออันดับหนึ่งของเมืองกรุงเก่า
ท่านสร้างมีดหมอถือเป็นเอกลักษณ์ของสำนักนี้ โดยใช้วัตถุอาถรรพ์และวัตถุที่เป็นมงคลมาตีเป็นดาบทำเป็นพระขรรค์ หรือมีดหมอ กรรมวิธีใช้วิธีนำไขมาเขียนยันต์บนใบมีดแล้วแช่กัดกรดให้เกิดยันต์นูน หรือเรียกภาษาช่างง่ายๆว่า “ไขกัดกรด” เป็นสำนักแรก ก่อนที่ลูกศิษย์ท่านคือ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้จะมาสร้างมีดลักษณะเดียวกับของท่านคือ มีดพระขรรค์แบบปากกา
เหรียญรุ่นแรกของท่าน สร้างในปี 2508 เป็นที่กล่าวขานทั้งในด้านประสบการณ์ และในเรื่องความ"หายาก เนื่องด้วยท่านสร้างไว้จำนวนไม่มากนัก ตามประวัติว่าสร้างเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง 500 เหรียญ เนื้ออัลปาก้า 1,000 เหรียญ และเนื้อทองแดง 1,500 เหรียญ
ปัจจุบันวัตถุมงคลหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพระขุนแผนเนื้อดินผสมว่าน 108 ชนิด, พระขรรค์, มีดหมอและเหรียญรุ่น 1” มีค่านิยมค่อนข้างสูง และเป็นที่เสาะหาของคนในละแวกใกล้เคียงโดยทั่วไป รวมทั้งในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลทั่วประเทศ
วัตถุมงคลของหลวงพ่อแจ่มนั้นส่วนใหญ่ท่านจะปลุกเสกเดี่ยว กล่าวขานกันว่า “แจ่ม”สมกับชื่อของท่านทั้งเรื่องประสบการณ์และราคาค่านิยม
#ฉัตรสยาม
Comments