top of page
ค้นหา

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง ประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2567 หลวงปู่คง วัดตะคร้อ ยอดเกจิเมืองย่าโม

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 16 มิ.ย. 2567
  • ยาว 1 นาที

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง

ประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. 2567


หลวงปู่คง วัดตะคร้อ ยอดเกจิเมืองย่าโม

"พ่อคูณ"เลื่อมใส-เหรียญดัง"สาวหนังเหนียว"

อาจารย์ของหลวงตาสุ่ม/ครูบาเสือ/พ่อช้าง



"ย้อนรอยเกจิ"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

หนึ่งในพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังแห่งเมืองย่าโม...พระครูคงคนครพิทักษ์ หรื

"หลวงปู่คง ฐิติปัญโญ" อดีตเจ้าอาวาสวัดตะคร้อ อ.คง จ.นครราชสีมา ศิษย์สืบทอดวิชาอาคมของหลวงพ่อเสี่ยง วัดเสมาใหญ่, หลวงพ่อรอด วัดดอนผวา, หลวงพ่อเขียว วัดปอปิด ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ด้วยวัตรปฏิบัติที่งดงาม แม้แต่หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ยังให้ความเคารพเลื่อมใสอย่างมาก


หลวงปู่มีวิชาอาคมที่เข้มขลัง วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่น ทุกชิ้น และมากด้วยประสบ การณ์ สมัยที่ท่านยังไม่ละสังขาร หลวงปู่รับกิจนิมนต์โดยไม่เลือกยากดีมีจน ชาวบ้านหรือคหบดี ทุกคนที่มากราบนมัสการท่านจะมอบวัตถุมงคลให้คนละกำมือเลย


ท่านมีนามเดิม "คง เทพนอก" เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค. 2453 ปีกุน ณ บ้านคอนเมือง ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา เป็นบุตรของนายพูน และนางแย้ม ซึ่งมีอาชีพทำนา ทำไร่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 7 คน ท่านเป็นบุตรคนแรก

ต่อมาบิดา มารดาพาไปฝากกับหลวงพ่อหมั่น เพื่อเล่าเรียนหนังสือให้อ่านออกเขียนได้ และมีวิชาติดตัว ชีวิตเด็กวัดทำให้เด็กชายคงเป็นคนหนักเอาเบาสู้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานและครอบครัวและมีเมตตาต่อผู้อื่น

เมื่ออายุ16 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร แต่ก็ต้องลาสิกขา เหตุเพราะไม่มีคนช่วยบิดามารดาทำงาน และเลี้ยงดูน้องๆ กระทั่งพ.ศ.2474 เมื่อน้องของท่านโตพอที่จะรับภาระหน้าที่ได้แล้ว ท่านจึงอุปสมบท ณ วัดบ้านวัด เม่อวันที่ 20 พ.ค. 2475 เมื่ออายุได้ 22 ปี โดยมี พระครูสีลวิสุทธิพรต วัดเดิม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองสุข สุชาโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทิม สุมโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐิติปัญโญ" แปลว่า ผู้มีปัญญาตั้งมั่น

หลังอุปสมบทได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อทุย และแนะนำให้ท่านไปศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อเขียว (พระครูปทุมญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดบัวใหญ่ ) จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขานุการของหลวงพ่อเขียว โดยท่านได้ศึกษาวิชาความรู้ และคาถาอาคมต่างๆจนมีความเชี่ยวชาญ ในขณะอยู่ที่วัดบัวใหญ่นั้น ท่านขึ้นชื่อว่าเป็นพระนักเทศน์ที่เก่งมากจนได้รับกิจนิมนต์ให้ไปเทศน์ในงานต่างๆทั้งใกล้และไกลมิได้ขาด อีกทั้งมีโอกาสออกธุดงค์ไปลาว และเขมร

พ.ศ.2493 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะคร้อว่างลง หลวงพ่อเขียวเห็นว่าท่านมีความสามารถ ทางการปกครอง จึงสนับสนุนให้เป็นเจ้าอาวาสวัดตะคร้อ เมื่อมอบหมายงานเรียบร้อยท่านมักหาเวลาเพื่อมาอุปัฏฐากหลวงพ่อเขียวเสมอๆจนกระทั่งท่านมรณภาพ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2496 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามที่ “พระครูคงคนครพิทักษ์” พ.ศ.2503 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอบัตรพิเศษ ในราชทินนามเดิม

นับตั้งแต่ท่านปกครองวัดตะคร้อ ได้บริหารวัด ดูแลพระลูกวัด จากวัดที่ขาดแคลนท่านได้สร้างเสนาสนะ อุโบสถ ตั้งโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมจนกระทั่งได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของกระทรวงศึกษาธิการ


บั้นปลายชีวิตในวันที่ 5 มิ.ย.2548 ท่านได้รับนิมนต์เป็นพระอุปัชฌาย์บวชกุลบุตรผู้ศรัทธาในอุโบสถวัดตะคร้อแล้วมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก จึงขออนุญาตลงมาก่อนที่จะบวชเสร็จ และท่านก็ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบด้วยวัย95ปี ปรากฏว่าสังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย นอกจากนั้นเกศาและเล็บของท่านยังงอกยาวขึ้นทุกปี สังขารของท่านเก็บรักษาที่วัดตะคร้อ ให้ญาติโยมที่เคารพศรัทธาท่านได้กราบไหว้


คณะศิษยานุศิษย์ได้มีมติก่อสร้าง เจดีย์พิพิธภัณฑ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สังขารองค์หลวงปู่ อัฐบริขาร พระเครื่อง และวัตถุโบราณที่หลวงปู่เก็บรักษาไว้ เพื่อให้ลูกหลานรุ่นหลังได้กราบไหว้บูชา โดยได้มีพิธีบรรจุพระบรมสาริริกธาตุ ยกยอดฉัตร และบรรจุสังขารของหลวงปู่ไว้ในองค์พระมหาธาตุเจดีย์ เมื่อปีพ.ศ.2553


สำหรับพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาอาคมขลังให้ท่านคือ หลวงพ่อเสี่ยง วัดเสมาใหญ่, หลวงพ่อรอด วัดดอนผวา, หลวงพ่อเขียว วัดปอปิด ซึ่งแต่ละองค์นั้นในด้านคุณวิเศษของท่านแล้วยอดเยี่ยมที่สุดสมัยนั้น เหรียญหรือพระเครื่องของทุกท่านล้วนแต่เล่นหาราคาแพงมาก


วัตถุมงคลของหลวงปู่คงได้สร้างรุ่นแรกเป็นพระสมเด็จ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 เป็นต้นมา ได้โดยยันต์ที่ท่านใช้เป็นยันต์ประจำองค์ ประทับหลังวัตถุมงคลแทบทุกรุ่นคือ "ยันต์นะครอบจักรวาล" ซึ่งท่านบอกว่า ใช้ได้ทุกทาง และทุกประเภท สุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้


หลวงพ่อคงท่านเป็นพระที่สร้างความเจริญให้กับวัดตะคร้อเป็นอย่างมาก พระเครื่องของท่านนั้นมีไม่ต่ำกว่า 50 รุ่น แสดงถึงความไม่ธรรมดา เพราะว่าพระบ้านนอกที่ไม่มีชื่อเสียงมากมาย ถ้าไม่แน่จริงแล้วคงไม่มีการสร้างพระเครื่องมากขนาดนั้น โดยแต่ละรุ่นนั้นก็มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ เป็นที่กล่าวขานถึงบุญญาอภินิหาร


อย่างเช่นเมื่อ ปี พ.ศ.2523 หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ลงข่าว ผู้หญิงถูกผู้ชายยิงในตรอกหลักหินใกล้หัวลำโพง สาเหตุที่สามีคนเก่าเกิดความแค้นที่อดีตภรรยาเดินคู่กับสามีคนใหม่ แต่ลูกปืนที่ยิงผู้หญิงนั้น"ยิงไม่เข้า" เมื่อดูในคอจึงรู้ว่ามีเหรียญของหลวงพ่อคงห้อยคอเพียงองค์เดียวเท่านั้น เป็นเหรียญเสมาครึ่งองค์ ด้านหลังรูปนางกวัก จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เรียกขานกันว่าเหรียญรุ่น"สาวหนังเหนียว"


จากข่าวที่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันทำให้คนจากหลาย ๆ จังหวัดที่มีความเลื่อมใสเดินทางไปยังวัดเพื่อบูชาเหรียญของท่าน ปรากฏว่าช่วงนั้นพระเครื่องของท่านมีไม่กี่รุ่นได้หมดไปจากวัดในเวลาอันรวด เร็ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนก็เดินทางไปหากันไม่เคยขาด


สำหรับทายาทพุทธาคมสายตรงของหลวงปู่คงที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน อาทิ พระครูสิทธิธรรมธร หรือ"หลวงปู่สุ่ม สิรินฺธโร" เจ้าอาวาสวัดหนองหว้า อ.คง จ.นครราชสีมา,พระอาจารย์พีรศักดิ์ หรือ"ครูบาเสือ ปรกกโม" วัดโนนหมัน อ.เฉลิมพระเกียรติจ.นครราช สีมา,หลวงพ่อช้าง วัดจุกเฌอ จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ


#ฉัตรสยาม


 
 
 

Commenti


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page