top of page
ค้นหา

คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. 2568 "หลวงพ่อแช่ม"วัดฉลอง/เกจิดังเมืองภูเก็ต

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 5 ม.ค.
  • ยาว 1 นาที

#คอลัมน์ย้อนรอยเกจิดัง

ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. 2568


"หลวงพ่อแช่ม"วัดฉลอง/เกจิดังเมืองภูเก็ต

พระสงฆ์องค์แรกที่ได้รับการ"ปิดทองแก้บน"

ผู้สร้างตำนาน"ผ้าประเจียด"ปราบ"กบฏอั้งยี่"


"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี หรือ "หลวงพ่อแช่ม" อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยธารารามหรือวัดฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เกจิดังขมังเวทย์ผู้สร้างตำนานเครื่งรางผ้าประเจียดปราบปรามจีนอั้งยี่ภูเก็ตจนราบคาบ


ท่านเกิดเมื่อปีกุน พ.ศ. 2370 ที่ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับนามของบิดามารดา ต่อมาครอบครัวอพยพหนีภัยพม่ามาตั้งถิ่นฐานที่บ้านฉลอง จ.ภูเก็ต โยมทั้งสองส่งไปเป็นลูกศิษย์ของ"พ่อท่านเฒ่า" เจ้าอาวาสวัดฉลองในเวลานั้น โดยบรรพชาและอุปสมบทศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆจากพ่อท่านเฒ่าจนเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน มีสมาธิจิตสูง รวมทั้งได้ศึกษาวิชาคาถาอาคมต่างๆ วิชาแพทย์แผนโบราณ ต่อมาในปี พ.ศ. 2393 พ่อท่านเฒ่ามรณภาพ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา


ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแช่มเกิดขึ้นในช่วงที่เมืองภูเก็ตเต็มไปด้วยคนจีนที่มาทำเหมืองแร่ และชาวจีนได้รวมตัวกันเป็นอั้งยี่ กล่าวคือในปี พ.ศ. 2419 เกิดจลาจลขึ้นในเมืองภูเก็ตจากฝีมือของกลุ่มอั้งยี่กรรมกรขุดแร่ดีบุกชาวจีน ชาวบ้านฉลองที่เคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแช่มได้ชักชวนให้ท่านหนีภัยไปซ่อนตัวอยู่ที่อื่น แต่ท่านไม่ยอมทิ้งวัดหนีไป ลูกศิษย์จึงตัดสินใจรวมกลุ่มกันสู้เพื่อปกป้องหลวงพ่อแช่มและขอผ้าประเจียดจากท่านเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งท่านได้อนุโลมตามที่บรรดาลูกศิษย์ขอร้อง


ลูกศิษย์ชาวบ้านฉลองกลุ่มนี้ต่อมารบพวกอั้งยี่ชนะ ทำให้คนที่หนีภัยอั้งยี่กลับเข้ามารวมกลุ่มกันสู้พวกจีนอั้งยี่มากขึ้นและอาศัยผ้าประเจียดที่หลวงพ่อแช่มทำขึ้นเป็นเครื่องปลุกใจสำคัญ จนกระทั่งสามารถไล่พวกจีนอั้งยี่ไม่ให้เข้ามาปล้นหมู่บ้านฉลองได้อีก


ปีพ.ศ. 2420 เมื่อทางการปราบปรามจีนอั้งยี่ภูเก็ตจนราบคาบแล้ว คณะกรมการเมืองภูเก็ตได้ยกความดีความชอบส่วนหนึ่งในการปราบกบฏอั้งยี่ครั้งนี้ให้แก่หลวงพ่อแช่ม และเวลานั้นตำแหน่งพระครูสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ตยังว่างอยู่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดแต่งตั้งให้หลวงพ่อแช่มเป็นพระครูสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต สมณศักดิ์ที่ "พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี" และได้พระราชทานนามวัดฉลองใหม่ว่า "วัดไชยธาราราม"


อนึ่ง จากเหตุจลาจลอั้งยี่ดังกล่าว ทำให้ชาวเมืองภูเก็ตเชื่อว่า ที่ชาวบ้านฉลองรบชนะพวกจีน เพราะท่านพระครูวัดฉลองมีอิทธิฤทธิ์ในทางวิทยาคม จึงนับถือกันว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์สำคัญคนหนึ่งมานับแต่นั้น และอีกเรื่องที่เป็นความเชื่อที่บอกกล่าวกันมา ก็คือ เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของไม้เท้า ที่สามารถช่วยรักษาโรคฝี ปาน ไส้เลื่อน ฯลฯ


ไม่เพียงแต่ชนชาวไทยในภูเก็ตเท่านั้น ที่มีความเคารพเลื่อมใสในองค์หลวงพ่อแช่ม ชาวจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนชาวจังหวัดต่างๆ ในมาเลเซีย เช่น ชาวจังหวัดปีนัง เป็นต้น ต่างให้ความคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแช่มเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะชาวพุทธในจังหวัดปีนัง ยกย่องหลวงพ่อแช่มเป็นเสมือนสังฆปาโมกข์เมืองปีนังด้วย


ความศักดิ์สิทธ์ของหลวงพ่อแช่มเกิดขึ้นหลายครั้ง ชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่มเลื่องลือไปไกล เล่ากันว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นถึงกับมีผู้ที่รอปิดทองตามแขนและขาของท่านจนแลดูเหลืองอร่ามไปทั่ว ราวกับปิดทองพระพุทธรูป


เหตุที่ผู้คนได้ขอปิดทองกับหลวงพ่อนั้น เกิดจากชาวเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ประมาณสี่ถึงห้าคนออกหาปลาในทะเล และเจอพายุลูกใหญ่ จนเรือใกล้จะล่ม จึงมีคนหนึ่งออกปากบนว่า “ถ้ารอดชีวิตได้จะปิดทองขรัวพ่อวัดฉลอง” ลมพายุได้สงบลงทันทีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ คนกลุ่มนั้นจึงมาขออนุญาตแก้บนด้วยวิธีการปิดทอง กิตติศัพท์ของ “หลวงพ่อแช่ม” จึงได้กระจายออกไปว่ามีชาวเรือรอดตายเพราะการบนด้วยวิธีนี้ จึงมีผู้อื่นทำตาม ถ้าเกิดเหตุเดือดร้อนหรือเจ็บไข้ ก็จะบนถึงเรื่องการปิดทองเพื่อให้สมหวังในเรื่องต่างๆ จึงเกิดการปิดทองหลวงพ่อแช่มตั้งแต่นั้นมา


การที่หลวงพ่อแช่มยอมให้ปิดทอง เพียงเพราะว่าท่านเชื่อเรื่องการบนบานศาลกล่าว และเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายแก่ผู้ที่บน บาปก็จะตกอยู่กับตัวท่าน การปิดทองจะปิดทองคำเปลวที่หน้าแข้ง ปิดแค่แผ่นเล็กๆเท่านั้น พอคนกลับจึงล้างออก


เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมาจังหวัดภูเก็ต นิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มไปหา ก็ยังทรงเห็นทองคำเปลวปิดอยู่ที่หน้าแข้งของหลวงพ่อแช่ม นับเป็นพระภิกษุองค์แรกของเมืองไทยที่ได้รับการปิดทองแก้บนทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่


วาระสุดท้ายท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2451 สิริอายุ 81 ปี พรรษา 61 ได้มีการส่งหีบเพลิงไปพระราชทานเพลิงศพที่ภูเก็ต พร้อมเงิน 100 เฟื้อง ผ้าขาว 2 พับ เพื่อใช้ในการพระราชทานเพลิงศพตามธรรมเนียมเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2452


แม้หลวงพ่อแช่มท่านมรณภาพไปนานแล้ว ก็ยังมีผู้ที่เชื่อในเรื่องอภินิหาร จึงมีการบนบาลศาลกล่าวอยู่เรื่อยมา เมื่อสมหวังก็จะปิดทองบนภาพถ่ายของหลวงพ่อจนเต็มไปทั่วทั้งแผ่น เว้นไว้เพียงแต่บริเวณหน้าของหลวงพ่อเท่านั้น


วัตถุมงคลในสมัยที่ท่านยังชีวิตอยู่นั้น มีเพียง “ผ้าประเจียด” ที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ แล้วปลุกเสกด้วยความตั้งใจจริง จึงมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง ส่วนวัตถุมงคลที่เป็นรูปเหมือนบูชา เหรียญ หรือพระผง และอื่นๆ ได้มีการจัดสร้างขึ้นหลังจากท่านมรณภาพไปแล้วในราว 20 ปี เป็นการจัดสร้างโดยวัดฉลอง และวัดอื่นๆ จึงทำให้วัตถุมงคลหลวงพ่อแช่มมีอยู่จำนวนมากมายหลายรุ่น ซึ่งล้วนแต่มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในทุกด้าน


เหรียญหลวงพ่อแช่ม ปี2486 ถือเป็นเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแช่มรุ่นแรก และเป็นรุ่นเดียวที่หลวงพ่อช่วง ศิษย์เอกของท่านเป็นผู้ร่วมสร้าง ที่ได้รับความนิยมคือ"พิมพ์ยันต์วรรค" หลังจากนั้นมีการนำพิมพ์เหรียญนี้มาสร้างขึ้นอีกโดยวัดอื่น ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในรายละเอียด ทำให้นักสะสมนิยมเรียกตามลักษณะของพิมพ์ เช่น พิมพ์สายฝนเล็ก พิมพ์สายฝนใหญ่ พิมพ์จุดกระโดด พิมพ์หัวโน เป็นต้น (ผู้ที่สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญสายตรงในเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กเพิ่มเติมได้)


#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page