top of page
ค้นหา

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2566 “หลวงพ่อเกลี้ยง อินฺทสโร” วัดเขาใหญ่

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 10 ก.ย. 2566
  • ยาว 2 นาที

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2566

“หลวงพ่อเกลี้ยง อินฺทสโร” วัดเขาใหญ่

เกจิเมืองกาญจน์”สายเมตตา-แคล้วคลาด”

ศิษย์พุทธาคม"หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้"

"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้ขอนำเสนอประวัติ

หลวงพ่อเกลี้ยง อินฺทสโร วัดเขาใหญ่ หรือพระครูอินทรสรวุฒิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาใหญ่ จ.กาญจนบุรี หนึ่งในพระเกจิอาจารย์อาคมขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ศิษย์สืบทอดพุทธาคมของพระวิสุทธิรังษี หรือ “หลวงพ่อเปลี่ยน อินทสโร” วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) อดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี และอดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

ท่านมีนามเดิมว่า “เกลี้ยง ครุฑศิริ” เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2444 ณ บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 7 ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นบุตรของนายเขียว และนางผิว มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน เป็นชาย 6 คนเป็นหญิง 2 คน โยมบิดามารดามีอาชีพทำนา เมื่อท่านมีอายุได้ 14 ปีได้เกิดอาการล้มป่วยมีโรคแทรกซ้อน โยมทั้งสองจึงเที่ยวหาหมอรักษาโรคที่ว่าเก่ง แต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคให้หายได้สักราย จึงต้องพึ่งพระหมอวัดคร้อพนัน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน จึงโดยนำท่านมารักษาหวังเป็นที่พึ่งแห่งสุดท้าย

ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อใช้ ท่านได้จัดยาแผนโบราณเป็นยาต้มให้กิน ไม่นานอาการของท่านก็หายเป็นปกติ บิดามารดาจึงถวายท่านให้เป็นบุตรบุญธรรมอยู่รับใช้ โดยหลวงพ่อใช้ท่านเมตตาสอนสั่งให้เรียนหนังสือ เขียนอ่านจนแตกฉานทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ท่านเป็นเด็กหัวไว เรียนหนังสือได้เก่ง สอนเพียงครั้งเดียวก็จำได้ จึงเป็นที่โปรดปรานของหลวงพ่อใช้ โดยท่านอยู่รับใช้พระอาจารย์เป็นเวลา 4 ปี จนกระทั่งอายุครบ 18 ปี หลวงพ่อใช้จึงบวชเณรให้ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และอยู่รับใช้พระอาจารย์

ปี พ.ศ.2464 ท่านมีอายุ 29 ปีจึงเข้าอุปสมบท ณ วัดคร้อพนัน ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยมีหลวงพ่อเปลี่ยน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหลิน เจ้าอาวาสวัดคร้อพนัน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อใช้ วัดคร้อพนัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า "อินฺทสโร" หลังอุปสมบทได้อยู่จำพรรษาแรกที่วัดคร้อพนัน และศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณจากหลวงพ่อใช้ ซึ่งท่านมีความชำนาญเรื่องว่านยา สมุนไพร โดยได้รับสืบทอดมาจากหลวงพ่อหลิน เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดคร้อพนัน ซึ่งท่านเป็นปรมาจารย์ด้านยาแพทย์แผนโบราณที่มีการสืบทอดกันมา

พรรษาที่ 2 ท่านได้ไปศึกษาที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) สอบได้นักธรรมชั้นตรี นอกจากนี้ยังได้ศึกษาพุทธาคมจากหลวงพ่อเปลี่ยน พระอุปัชฌาย์ของท่านซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำกลอง เชี่ยวชาญทางด้านไสยศาสตร์ วิปัสสนากรรมฐาน พุทธาคมแก่กล้า วัตถุมงคลเหรียญรุ่นแรก เสื้อยันต์ ตะกรุด ลูกอมของท่านขลัง มีชื่อเสียงลื่อลั่นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งออกพรรษาจึงได้ลากลับวัดบ้านเกิด

หลวงพ่อเกลี้ยงเป็นพระผู้คงแก่เรียน นอกจากวิชาแพทย์แผนโบราณและพุทธาคมต่างๆที่ท่านได้ร่ำเรียนจากพระอาจารย์แล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาหวายคาดเอวและหวายมงคลสวมแขน โดยดั้นดันมาเรียนวิชาหวายกับหลวงพ่อที่วัดสามกระบือเผือก จ.นครปฐม จนเรียนสำเร็จและทำได้ขลังไม่แพ้ของอาจารย์

พรรษาที่ 3-5 จำพรรษาที่วัดคร้อพนันอยู่รับใช้ปรนนิบัติหลวงพ่อใช้ พอพรรษาที่ 6 หลวงพ่อใช้ล้มป่วยด้วยโรคชรา ท่านได้พร่ำสอนหลวงพ่อเกลี้ยง โดยให้คติธรรมโรคอื่น ๆ หาหมอพอรักษา แต่โรคชรา หมดทางแก้ไข พรรษาที่ 7 หลวงพ่อใช้ได้สอนไว้ เรื่องความตายเป็นธรรมดา สังขารไม่เที่ยงแท้ มีแต่ทรุดโทรม แม้ท่านป่วยยังเอ่ยสอนธรรมธรรมะ หลวงพ่อใช้ท่านมีสติดีไม่หลงลืม ท่านได้กำหนดวันตายไว้ พอถึงตอนปลายปีท่านได้จากไปตามว่าไว้จริง ออกพรรษาจัดงานศพหลวงพ่อใช้ใด้เสร็จครบถ้วน

ก่อนมรณภาพหลวงพ่อใช้สั่งไว้ว่า เมื่อท่านสิ้นแล้วให้ไปหาพระอาจารย์ชื่น วัดปากบาง ต.พงตึก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดคร้อพนันอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ เมื่อหลวงพ่อเกลี้ยงมาถึงวัดปากบาง พระอาจารย์ชื่นได้รับเป็นศิษย์ และถ่ายทอดวิชาอาคมให้จนหมดสิ้น โดยหลวงพ่อเกลี้ยงได้อยู่รับใช้และศึกษาวิชากับพระอาจารย์ชื่นถึง 5 ปี ตั้งแต่พรรษาที่ 8-12

เมื่อศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์ชื่นจนจบ ตั้งใจจะกราบลากลับวัดคร้อพนัน พอย่างเข้าเดือน 5 ชาวบ้านเขาใหญ่ ต.โคกตะบอง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากวัดปากบาง ประมาณ 4 กิโลเมตร ได้มาหาพระอาจารย์ชื่นเพื่อขอพระมาอยู่ดูแลจัดการวัดเขาใหญ่เป็นสมภารเจ้าวัด

พระอาจารย์ชื่นเล็งเห็นว่าศิษย์รักของท่านมีความเหมาะสม เชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถา พอที่จะเป็นที่พึงแก่ชาวบ้านได้ จึงบอกให้ชาวบ้านเขาใหญ่กลับไปก่อน เมื่อถึงกำหนดชาวบ้านเขาใหญ่ได้มานิมนต์หลวงพอเกลี้ยง ไปเป็นสมภารวัดเขาใหญ่ในปี พ.ศ. 2491 โดยขณะนั้นวัดยังไม่มีอุโบสถ มีเพียงกฏิ2 หลัง ท่านจึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด

ปี พ.ศ.2515 ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ "พระครูอินทรสรวุฒิคุณ” ปี พ.ศ.2520 ทางวัดเขาใหญ่ได้จัดงานฉลองอุโบสถผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ชึ่งอุโบสถนี้ท่านได้ออกแบบก่อสร้างได้อย่างสวยงามมาก ประตูและหน้าต่างแกะจากไม้สักลวดลายฉลุ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ หน้าบันด้านบนเป็นพระปางนาคปรก ด้านล่างพระนารายณ์ทรงโค

หลังจากงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต หลวงพ่อเกลี้ยงมีสุขภาพอ่อนแอ เนื่องจากตรากตรำงานหนักวัดนับแต่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสเขาใหญ่ ซึ่งการสร้างเสนาสนะภายในวัดหลวงพ่อเกลี้ยงท่านตั้งใจสร้างด้วยความพากเพียร ถึงขนาดลงมือตัดไม้เอง เลื่อยไม้เอง

ย่างเข้าสู่วัยชราเกิดโรคเเทรกซ้อนเป็นเวลา 1 ปี มีอาการหนัก ลูกศิษย์นำท่านส่งโรงพยาบาล แต่อาการมีแต่ทรงและทรุดหนักลง หลังจากรักษาอยู่ 1 ปีครึ่ง ลูกศิษย์จึงนำหลวงพ่อเกลี้ยงกลับวัดเขาใหญ่โดยมีลูกศิษย์คอยดูแลปรนนิบัต จนกระทั่งท่านมรณภาพด้วยโรคชราอย่างสงบ ณ วัดเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2525 สิริอายุได้ 82 ปี 63 พรรษา

วัตถุมงคลของหลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ เหรียญวัดเขาใหญ่รุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2500 เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ในการสร้างเสนาสนะต่างๆ เป็นเหรียญรูปไข่แบบมีหูในตัว สร้างด้วยเนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง และเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง เหรียญรุ่น2 สร้างปีพ.ศ.2515 เป็นเหรียญเสมาแบบมีหูในตัว มีเนื้ออัลปาก้า และเนื้อทองแดง ข้อควรระวังสำหรับเหรียญรุ่นนี้จะมีการเอาเหรียญย้อนมาเล่นหาเป็นพระที่ทันหลวงพ่อ ให้สังเกตตรงไม้เอกของคำว่า “วัดเขาใหญ่” ของย้อนจะอยู่บนตัว ห.หีบ ซึ่งสร้างโดย”อาจารย์แถม”ประมาณปี 2540 กว่าๆ

พระสมเด็จสร้างปีพ.ศ.2516 ซึ่งในปีนั้นได้ทำพิธีในวันเสาร์5 ลักษณะเป็นพระสมเด็จพิมพ์สี่เหลี่ยมเนื้อผงพุทธคุณ โดยผงพุทธคุณต่างๆนั้นเป็นผงที่ได้รวบรวมโดยหลวงพ่อและผงที่ท่านลบเองผสมอยู่ด้วย จำนวนการสร้าง 5,000 องค์

เหรียญใบโพธิ์ รุ่นพิเศษ สร้างปีพ.ศ.2518 เป็นเหรียญรูปใบโพธิ์แบบมีหูในตัว มีเนื้อเงิน และเนื้อนวโลหะ เหรียญกริ่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2520 เพื่อแจกจ่ายในงานผูกพัทธสีมาของวัดเขาใหญ่ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่แบบมีหูในตัว แต่มีเอกลักษณ์ที่มีการบรรจุเม็ดกริ่ง มีเนื้อนวะหน้ากากเงิน และเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง

ล็อกเก็ตหินอ่อนสร้างปีพ.ศ.2520 เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิตของทางวัด ลักษณะเป็นล็อกเก็ตหินอ่อนสกรีนรูปหลวงพ่อ โดยมีการเลี่ยมทองเดิมมาจากวัด มีการสร้างเพียง 3 แบบ คือรูปไข่ขนาดเล็ก รูปไข่ขนาดใหญ่ และรูปหัวใจ

พระบูชารุ่นแรกสร้างปี พ.ศ.2520 เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิตของทางวัด เป็นรูปหล่อบูชาขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว สร้างด้วยเนื้อโลหะทองเหลือง, รูปหล่ออุดกริ่งรุ่นแรก สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2525 ลักษณะเป็นพระรูปหล่อปั๊มอุดกริ่ง มีเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อทองเหลือง

ผ้ายันต์สร้างขึ้นก่อนปีพ.ศ.2525 ลักษณะเป็นผ้าสีขาวพิมพ์ยันต์หมึกสีดำ,ผ้ายันต์พระพุทธสร้างขึ้นก่อนปีพ.ศ.2520 เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ลักษณะเป็นผ้าสีขาวพิมพ์ยันต์หมึกสีดำ,ผ้ายันต์ธงสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2520 เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ลักษณะเป็นผ้าสีเหลืองทรงสามเหลี่ยม พิมพ์ยันต์หมึกสีดำ มีชายธงเป็นเส้นด้าย ผ้ายันต์ทุกแบบของท่านจัดเป็นเครื่องรางที่หายาก จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

หวายคาดเอวสร้างขึ้นก่อนปีพ.ศ.2520 สร้างจากหวายที่ตัดมาอย่างถูกต้องตามตำราของหลวงพ่อเกลี้ยง ซึ่งวิชาหวายลงอาคมของท่านนั้นจัดว่าเป็นของดี-หายาก หวายของหลวงพ่อเกลี้ยงมีเอกลักษณ์ตรงที่จะใช้หวายเต็มทั้งเส้น ไม่มีการผ่า (ถ้าผ่าเชื่อกันว่าสร้างในยุคแรกๆ) ส่วนตรงหัวจะถักด้วยด้ายดิบเพื่อใช้คาดเอว โดยส่วนหัวเป็นกลมๆ ซึ่งหวายจะมีรอยจารเต็มทั้งเส้น

ในด้านพุทธคุณนั้น เชื่อกันว่าเมตตา มหานิยม ค้าขายเป็นเลิศ แก้คุณไสยมนต์ดำ แคล้วคลาด นับเป็นของดีที่น่าเสาะหาเป็นอย่างมาก

#ฉัตรสยาม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page