คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. 2568 "หลวงพ่อคลี่" วัดประชาโฆสิตาราม เกจิดังแม่กลองร่วมยุค”หลวงพ่อเนื่อง”
- อ.อนุชา ทรงศิริ

- 13 ก.ค.
- ยาว 1 นาที
คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"
ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค. 2568
"หลวงพ่อคลี่" วัดประชาโฆสิตาราม
เกจิดังแม่กลองร่วมยุค”หลวงพ่อเนื่อง”
ปลุกเสกจนเทียนชัยระเบิดสนั่นโบสถ์
เหรียญประสบการณ์"ยันต์ ด.เด็กใหญ่"
วัดประชาโฆสิตาราม ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม หรือชื่อเดิม”วัดบางนกแขวก” เป็นวัดที่ใหญ่และเจริญรุ่งเรืองวัดหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม เดิมชื่อว่า “วัดบางนกแขวก” ตามชื่อคลองและชื่อหมู่บ้าน สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ.2351 ตรงกับปลายสมัยพระพุทธเจ้าเสือ กษัตริย์องค์ที่ 19 สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยหลวงพ่อทองอยู่เป็นเจ้าอาวาสได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่วัดอย่างคณานับ จนต่อมาในปี พ.ศ.2485 ท่านได้เปลี่ยนชื่อวัดจาก “วัดบางนกแขวก” มาเป็น “วัดประชาโฆสิตาราม”
ในอดีตมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 2 องค์คือ พระครูสุนทรโฆสิต หรือ”หลวงพ่อทองอยู่” ผู้มีวิชาวิทยาคมสูง มีความชำนาญเก่งกาจในด้านลงกระหม่อม และตะกรุดโทน ถึงขนาดที่ หลวงพ่อคงวัด บางกะพ้อม และหลวงพ่อเปลี่ยน วัดชุมพล(วัดใต้) จ.กาญจนบุรี ต่างเอ่ยปากชื่นชมว่าท่านเป็นพระที่"เก่ง"
พระเกจิอาจารย์อีกองค์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดสืบต่อจากหลวงพ่อทองอยู่ก็คือ พระครูสมุทรวิจารณ์ หรือ"หลวงพ่อคลี่ ฐานวิจาโร" สมญานามว่า พระเกจิแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เจ้าของเหรียญยันต์ "ด.ใหญ่"ที่มีประสบการณ์ฮือฮาว่า"เหนียว"สุดๆ
ปัจจุบันวัดนี้มีพระครูวิจิตรสรคุณ "หลวงพ่อเจี๊ยบ วุฑฒิสาโร" หรือ"พระอาจารย์เจี๊ยบ"เป็นเจ้าอาวาส โดยท่านได้สืบสายวิชาของหลวงพ่อคลี่ และเป็นศิษย์พุทธาคมพระเกจิเมืองแม่กลองหลายท่าน
"หลวงพ่อคลี่ ฐานวิจาโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดประชาโฆสิตาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นหนึ่งในพระดีเกจิดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี และหลวงพ่อสาย วัดจันทร์เจริญสุข
ที่สำคัญ ท่านเป็นหนึ่งในพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดพุทธาคมให้หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันวัดประดู่ พระอารามหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ท่านมีนามเดิมว่า "วิจารณ์" นามสกุล "ศิริสวัสดิ์" เป็นชาวบ้านปลายโพงพาง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน ปี2447 บิดาชื่อนายคล้ำ มารดาชื่อ นางหลง วัยเยาว์หลังสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดประชาโฆสิตาราม ได้บรรพชาเป็นสามเณร ตั้งแต่ปี2462 ที่วัดประชาโฆสิตาราม โดยมีหลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆสิตาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
สำหรับหลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆสิตาราม เป็นพระเกจิร่วมยุคสมัยเดียวกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ ชาวบ้านในสมัยก่อนก็ให้ความนับถือมาก แม้แต่หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ยังกล่าวยกย่องในด้านความเก่งกล้าด้านพุทธาคม ในฐานะที่หลวงพ่อคลี่มีศักดิ์เป็นญาติกับหลวงพ่อทองอยู่ จึงมิต้องสงสัยเลยว่าวิชาต่างๆหลวงพ่อคลี่ ต้องได้เรียนมาจากหลวงพ่อทองอยู่แบบเต็มๆไม่มีปิดบัง
ต่อมาในปี2467ได้อุปสมบทที่วัดประชาโฆสิตาราม โดยมีพระครูวิมลศีลาจารย์ (หลวงพ่อช่วง) วัดปากน้ำ ต.แควอ้อม อ.อัมพวา สมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งหลวงพ่อช่วงเป็นพระเกจิที่อาวุโสแก่กว่าหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมหลายปี มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านวิทยาคมและวิปัสสนากรรมฐาน
หลวงพ่อคลี่เป็นพระที่มีความขยันใฝ่เรียนรู้ ท่านได้ศึกษาปริยัติจนสำเร็จนักธรรมเอก ในปี 2477 หลังจากที่หลวงพ่อทองอยู่ ได้มรณภาพลงเมื่อปีพ.ศ. 2487 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส และได้รับแต่งตั้งเป็นทางการในปีพ.ศ. 2490
วาระสุดท้ายท่านมรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2533 สิริอายุ 86 ปี ปกครองวัดเป็นเวลา43ปี
หลวงพ่อคลี่เป็นพระที่มีความเก่งกล้าด้านอาคมมากองค์หนึ่ง อีกทั้งเป็นพระที่เปี่ยมล้นด้วยเมตตาอย่างมาก มีชื่อเสียงดังควบคู่มากับหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ในแต่ละวันมีผู้คนเดินทางไปหาท่านเป็นอย่างมาก เพราะต้องการโชคลาภจากท่าน
ชื่อเสียงของท่านดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงที่ก่อสร้างโบสถ์ ใกล้จะเสร็จ ทางวัดจัดสร้างพระเครื่อง และพิธีปลุกเสกขึ้น ขณะที่ทำการปลุกเสกนั้น เทียนชัยได้เกิดระเบิดดังลั่นสนั่นโบสถ์เป็นที่กล่าวขานกันไปไกล
สำหรับวัตถุมงคลที่สร้างไว้สมัยท่านมีชีวิต มีจำนวนไม่มากรุ่น สังเกตได้ว่าไม่ค่อยมีหมุนเวียนออกมาตามสนามบ่อยนัก ส่วนใหญ่คนที่รู้จักจะแอบเก็บกันหมด เหรียญรูปเหมือนยุคแรก พิมพ์กลม สร้างในปีพ.ศ.2499 งานฉลองตราตั้งพระอุปัชฌาย์
ส่วนเหรียญที่สร้างชื่อให้หลวงพ่อคลี่มากที่สุดก็คือ เหรียญยันต์ "ด.เด็กใหญ่" สร้างปี 2519 เพราะมีคนที่แขวนเหรียญรุ่นนี้ถูกฟันแทงด้วยมีดสปาต้า ผลปรากฏว่าไม่มีแผลให้แมลงวันได้กินเลือดเลย ชาวบ้านในพื้นที่รู้ข่าวต่างตามเก็บกันหมด ทำให้เหรียญ”ด.เด็กใหญ่”กลายเป็นของหายาก และตอนหลังๆมีของเสริมจากวัด และของเก๊ออกมาร่วมแจมด้วย
นอกจากนี้ ยังมีพระพิมพ์สมเด็จ,พระเครื่องเนื้อเมฆพัตร และเนื้อแร่พรหมชะแง้ ที่มีประสบการณ์มากมาย ชาวประมงลูกศิษย์รุ่นเก่าเล่าว่า ถ้าแมลงสัตว์กัดต่อย ให้เอาพระเนื้อแร่ของหลวงพ่อคลี่จุ่มน้ำมะนาวปิดปากแผลที่โดนกัด จะหายปวดเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะเงี่ยงปลากระเบน
พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณทั้งทางแคล้วคลาด เมตตามหานิยม โชคลาภ แถมด้วยคงกระพันชาตรีก็มีให้พบเห็น โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปกราบท่านหลายวาระ พระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. บนวัตถุมงคลของหลวงพ่อคลี่อีกด้วย
#ฉัตรสยาม




















ความคิดเห็น