top of page
ค้นหา

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง" ประจำวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย. 2566 "หลวงพ่อประเทือง" วัดหนองยางทอย

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

คอลัมน์"ย้อนรอยเกจิดัง"

ประจำวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย. 2566

"หลวงพ่อประเทือง" วัดหนองยางทอย

อดีตเกจิดังแห่งเมืองศรีเทพ เพชรบูรณ์

สายพุทธาคมหลวงพ่อเดิม/หลวงพ่อพรหม

ในโอกาสที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ “เมืองโบราณศรีเทพ” อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของประเทศไทยจากยูเนสโก เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

"ย้อนรอยเกจิดัง"อาทิตย์นี้จึงขอนำเสนอประวัติอดีตพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังองค์หนึ่งของอ.ศรีเทพ "หลวงพ่อประเทือง อติกกันโต” หรือ “พระครูวิทิตพัชราจารย์” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองยางทอย ต.หนองยางทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เกจิอาจารย์ในอดีตที่ได้รับความนับถือว่า ท่านเด่นในเรื่องวิชาอาคมด้านคงกระพันชาตรี ได้รับขนานนามว่า "เสกแล้วสับ" ด้วยว่าเมื่อท่านทำการสักยันต์ให้แล้ว ท่านจะใช้ดาบฟัน หรือสับลงทันที เพื่อพิสูจน์ความเข้มขลัง วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณความเข้มขลัง เป็นที่แสวงหาของบรรดาเซียนพระทั่วไป

พื้นเพท่านเป็นชาวเมืองละโว้ เกิดในสกุล "ยืนยง" เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2471 ที่บ้านคลองเม่า หมู่ที่ 5 ต.โคนสะลุด อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี บิดา-มารดาชื่อ นายทำ และนางมาก ยืนยง เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คน วัยเยาว์จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดคลองเม่า

เมื่อปี 2485 อำเภอท่าวุ้งประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ข้าวในนาถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายหนัก ครอบครัวได้อพยพมาอยู่ที่บ้านหนองแขม ต.ทุ่งทะเล อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ต่อมา บิดา-มารดานำท่านไปอยู่ในความอุปการะของพระอาจารย์อ่อน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา และได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร พร้อมกับสอนพระธรรมวินัย และถ่ายทอดวิทยาคม และวิปัสสนากัมมัฏฐานให้ท่าน

เมื่ออายุครบบวช พระอาจารย์อ่อนได้นำไปประกอบพิธีอุปสมบท ที่วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมีพระครูทอง วิสาโร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แป้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาตี่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

แต่หลังอุปสมบทได้ไม่นาน ท่านจำต้องลาสิกขาเพื่อเข้ารับราชการทหารรับใช้ชาติ กระทั่งพ้นเกณฑ์ ได้ออกมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาระยะหนึ่ง จนเกิดความเบื่อหน่าย จึงเข้าอุปสมบทอีกครั้งเมื่ออายุ 29 ปี ซึ่งเป็นปีของการเฉลิมฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ที่พัทธสีมาวัดโพนทอง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้รับฉายาว่า "อติกกันโต"

หลังอุปสมบทออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และได้พบกับพระป่าสายปฏิบัติหลายรูป พร้อมกับศึกษาวิทยาคมไสยเวทกับบรรดาพระอาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค, หลวงพ่อเล็ก วัดโพธิ์ทอง อาจารย์บุญลือ ชาวเขมร ฯลฯ ว่ากันว่าช่วงนั้นท่านได้ออกวัตถุมงคลหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด เหรียญ ปรากฏวัตถุมงคลของท่านได้รับความศรัทธาจากประชาชนเป็นอย่างมาก

ปีพ.ศ. 2520 ท่านเดินธุดงค์มาถึง จ.เพชรบูรณ์ และได้ตั้งสำนักสงฆ์ที่เขารอ ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม พร้อมกับสร้างโรงเรียนไว้เพื่อสอนหนังสือให้กับเด็ก โดยจ้างครูมาสอนและท่านเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ด้วยความสามารถของท่านจึงทำให้สำนักสงฆ์เล็กๆ กลายมาเป็น “วัดด่านเจริญชัย” ที่สวยงามมีเสนาสนะสมบูรณ์ทุกอย่าง

แต่เนื่องจากวัดด่านเจริญชัย อยู่ห่างไกลจากชุมชนและเส้นทางการจราจรไปยังจ.เพชรบูรณ์ เมื่อท่านจะเดินทางไปธุระยังจ.เพชรบูรณ์ท่านมักมาแวะพักที่ศาลาเล็กๆ ของวัดหนองย่างทอย ซึ่งในอดีตนั้นเปรียบเสมือนวัดร้าง มีเพียงศาลาเก่าๆ เมื่อชาวบ้านในละแวกนั้นทราบว่าท่านมีฝีมือทางด้านการพัฒนาจึงขอร้องให้ท่าน ช่วยสร้างวัด โดยไปเกณฑ์ชาวบ้านใกล้เคียงมาช่วยกันถางหญ้า จนทำให้ท่านแพ้แรงศรัทธาของชาวบ้าน และอยู่สร้างวัดหนองย่างทอย โดยใช้ชื่อว่า “วัดเทพประทานพร” จนปรากฏความเจริญรุ่งเรืองเช่นที่เห็นในปัจจุบัน และท่านได้ปกครองดูแลพระเณร และเป็นที่พึ่งของชาวบ้านตราบจนกระทั่งมรณภาพ โดยได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น"พระครูวิทิตพัชราจารย์"

ช่วงที่จำพรรษาที่วัดหนองยางทอยท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อระดมปัจจัย สร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนา วัตถุมงคลของท่านได้แก่ รูปเหมือนพุทธกวัก เหรียญรูปเกมือน,พระกริ่ง,พระปิดตา, ตะกรุด 9 ชั้น,รูปหล่อ เป็นต้น

หลวงพ่อประเทืองสร้างคุณประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างมากมาย นอกจากนี้ ยังรับอุปการะโรงเรียนบ้านหนองยางทอยไว้ในความอนุเคราะห์ สร้างอาคารห้องสมุด อาคารอเนกประสงค์ให้แก่โรงเรียนหลายหลัง และมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ยากจนได้ศึกษาเล่าเรียน

กล่าวสำหรับครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาให้ท่าน 1 พระอาจารย์อ่อน วัดหนองแขม นครสวรรค์ (มีศักดิ์เป็นอา ได้ศึกษาตั้งแต่เป็น สามเณร) 2.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ (เมื่อครั้งไปอยู่ปรนนิบัติรับใช้เป็นสามเณรที่วัดหนองโพ) 3.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ (ศึกษาอยู่ได้ 1 พรรษา ตอนบวชครั้งแรก) 4 พระอาจารย์เล็ก วัดคลองเม่า ลพบุรี 5.หลวงพ่อเล็ก วัดโพธิ์ทอง นครสวรรค์ (เมื่อครั้งอุปสมบทอยู่วัดโพธิ์ทอง ซึ่งหลวงพ่อเล็กรูปนี้ เป็นศิษย์ที่สืบทอดพุทธาคมมา จากหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย(วัดคลองด่าน) 6.อาจารย์บุญลือ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นชาวเขมร (เมื่อคราวออกธุดงค์)

ปี2524 ท่านสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้น มีการลองยิงโดยทหาร แต่ยิงไม่ออกถึง 3 นัด และท่านได้ไปจำพรรษาที่ วัดภูเขาดิน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเขาค้อ,เขาทราย(นักมวยแฝด) ได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านที่วัดนี้ด้วย

ในปี พ.ศ.2537 นับว่าท่านเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง มีลูกศิษย์มาจากทั่วสารทิศมาขอหรือบูชาวัตถุมงคล,สักยันต์,สับหลังไล่โรคภัย ด้วยความเมตตา ไม่เลือกชั้นวรรณะ จนแขนท่านระบมทุกคืนต้องนวดยา และก่อนนอนท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคลของท่าน หลังจากนั้นจะแผ่เมตตาให้ลูกศิษย์ทุกคนทุกคืน โดยเฉพาะสายวัดสุทัศน์ หากมีการทำพิธีปลุกเสกหรือพุทธาภิเศก มักจะนิมนต์ท่านไปร่วมทุกครั้ง

วาระสุดท้าย หลวงพ่อประเทืองได้ละสังขารลงอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2550 .เวลา 16.19 น.โดยประมาณ ณ โรงพยาบาลเมืองใหม่ลพบุรี จ.ลพบุรี สิริอายุได้ 79 ปี

#ฉัตรสยาม


ดู 77 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page