ตำนานชีวิต 84 ปี "หลวงพ่อทวน สุภัทโท"
อดีต้เจ้าอาวาสวัดใหม่ทรายมูล จ.ชลบุรี
เจ้าตำรับเป่ายันต์สีวลี นะเมตตามหานิยม
ศิษย์ปู่โทน-ปู่เคน/สายวิชาพ่อผุย-ท่านเจ้ามา
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์"คัมภีร์นิวส์" ร่วมย้อนตำนานชีวิต น้อมถวายความอาลัยในการจากไปของพระครูสุภัทรศาสนกิจ หรือ"หลวงพ่อทวน สุภัทโท" เจ้าอาวาสวัดใหม่ทรายมูล เจ้าคณะตำบลกิตติมศักดิ์ อดีตเจ้าคณะตำบลหนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เจ้าตำรับวิชาเป่ายันต์พระสีวลี ซึ่งมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 08.20 น.
วันที่ 7 ม.ค. 2567 ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม สิริอายุ 84 ย่าง 85 ปี
ชาติภูมิท่านเป็นชาวเมืองชลโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2482 ปีเถาะ
ที่บ้านทรงธรรม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีนามเดิมว่า"ประทวน" นามสกุล" พาดี"
เมื่ออายุ 23 ปีได้เข้าอุปสมบทที่วัดทรงธรรม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ตรงกับเดือนพฤษภาคม 2505 โดยมีพระครูนิวาตวรคุณ (หลวงพ่ออ่วม ปภัสสโร) วัดหัวถนน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุภัทโท"
หลังอุปสมบทได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก อีกทั้งสนใจศึกษาด้านวิชาอาคม โดยพระอาจารย์ที่ถ่ายทอดสรรพวิชาไสยเวทย์ต่างๆมีดังนี้ สายหลวงพ่อศรี(เสือ) วัดพลับ เรียนวิชามาจากหลวงพ่ออ่วม วัดหัวถนน ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์,สายหลวงพ่อผุย วัดหน้าพระธาตุ เรียนวิชามาจากพระอาจารย์แดง วัดเกาะแก้ว จ.นครสวรรค์
สายท่านเจ้ามา (พระพุฒาจารย์มา) วัดจักรรวรรดิราชาวาส (สามปลื้ม) กทม. เรียนวิชามาจากหลวงพ่อขวัญ วัดดิสหงษาราม(วัดมักกะสัน) กทม. ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อสุข และหลวงพ่อพระครูสอน วัดมักกะสัน (ผู้สร้างพระชัยวัฒน์อันโด่งดัง)
หลวงปู่โทน วัดเขาน้อยคีรีวัน จ.ชลบุรี ท่านได้สอนการเดินธุดงควัตรและพระกัมมัฏฐานให้หลวงพ่อทวน ทั้งนี้ หลวงปู่โทนท่านเป็นหลานหลวงปู่ทับ วัดหัวถนน จึงเท่ากับว่าหลวงพ่อทวนได้เรียนวิชามากับทั้งสองท่านเลย เพราะหลวงพ่อทวน ก็เรียนวิชามากับหลวงปู่ทับด้วย
หลวงปู่เคน วัดถ้ำเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี หลวงพ่อทวน เล่าว่าคราวที่ไปขอเรียนวิชาท่านยังไม่เคยเจอหน้าหลวงปู่เคน พอไปถึงหลวงปู่เคนนอนอยู่หน้าถ้ำ หลวงพ่อทวนก็ถามหาทั้งๆที่ท่านก็นอนอยู่ตรงนั้น หลวงปู่เคนถามว่า "มาหาทำไม เดินหาดูสิว่าอยู่ไหน" หลวงพ่อทวนก็เดินหาจนพระลูกวัดบอกว่า "ท่านนอนอยู่หน้าถ้ำนั่นไง"
หลวงพ่อทวนโดนทดสอบความตั้งใจ จนสุดท้ายหลวงปู่เคนก็สอนวิชาต่างๆให้ วิชาที่โดดเด่นคือ วิชาโหราศาสตร์และ นะเมตตาสาริกาลิ้นทอง
วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อทวน ท่านชอบออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาทางภาคเหนือนานนีบเดือน โดยมีพระอาจารย์แดง วัดเกาะแก้ว นครสวรรค์ เป็นหัวหน้าคณะ บางครั้งเคยเจอสัตว์ร้ายนานาชนิด แต่พวกมันไม่เคยทำร้ายท่าน บางคราวเดินธุดงค์กันมานับสิบรูป แต่ก็ลากลับกันไปเหลือแค่ท่าน พระอาจารย์แดงและพระอีกรูปที่เดินทางต่อจนถึงจุดหมายปลายทาง
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งท่านปักกลดอยู่ในป่าเขตจังหวัดลำพูนกับพระหลายรูป ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งเดินตรงมาหาท่านพร้อมกับบอกว่า เก็บพระกรุโบราณไว้นานแล้ว ขอมอบให้ท่านเก็บรักษาต่อให้ด้วย หลวงพ่อทวนจึงบอกว่า "ถ้าให้อาตมาก็แจกหมดนะ" ชายคนนั้นก็ตอบว่า สุดแล้วแต่ท่านเพราะมอบให้แล้ว
พระกรุโบราณนั้นอยู่ในห่อผ้าขาวมีนับร้อยองค์ เป็นพระกรุลำพูนหลายพิมพ์ ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง แม้พระกรุลำพูนชุดนั้นจะมีราคาแพงแค่ไหน ท่านก็ไม่ยึดติด โดยระหว่างเดินทางกลับชลบุรี เมื่อมีใครขอ ท่านก็แจกให้จนหมด
หลวงพ่อทวนท่านมีสหธรรมิกหรือสหายธรรมที่มีชื่อเสียง 2 องค์คือ พระครูวิชัยบุญสาร หรือ หลวงพ่อเม็ด(บุญมี) อดีตเจ้าอาวาสวัดบึงกระจับ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และ พระครูสัจจาภิมณฑ์ (หลวงพ่อมหานินทร์ ) วัดหนองไทร อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
หลวงพ่อทวนเล่าว่า สหธรรมิกทั้งสองถือว่าเป็นพระเกจิดังเงียบๆ สำหรับหลวงพ่อบุญมี หรือ”หลวงพ่อเม็ด” อดีตเจ้าอาวาสวัดบึงกระจับ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในเกจิคมในฝักแห่งเมืองแปดริ้ว ชื่อเสียงท่านอาจไม่โด่งดังเท่าเกจิอาจารย์ร่วมยุคเดียวกัน อาทิ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว, หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว, หลวงพ่อจุ้ย วัดพงษาราม,หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ฯลฯ แต่เรื่อง”ของดีของขลัง”ของท่าน กล่าวกันว่า”ไม่ธรรมดา”ทีเดียวเชียว!!
โดยเฉพาะ”ลูกอมเทียนชัย” มีประสบการณ์มากมายให้ฮือฮา อีกทั้งท่านเชี่ยวชาญวิชากันพรายน้ำ เขี้ยวงา ยาสั่งทุกชนิด แถมเรื่องคงกระพันก็ยอดเยี่ยม ท่านเป็นศิษย์สืบทอดวิชาจากครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา และหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี โดยศิษย์เอกของท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันก็คือ หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
ส่วนหลวงพ่อมหานินทร์ ท่านเป็นพระนักพัฒนาและเก่งในเรื่องทำตะกรุดแคล้วคลาดทำเป็นร้อยดอกก็หมด วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายด้านแคล้วคลาด มหาอุด ทั้งการโดนยิง ทั้งอุบัติเหตุ รถคว่ำ ล้วนปลอดภัย
แม้แต่ชาวมุสลิมยังเลื่อมใสศรัทธา ท่านมีลูกศิษย์มากมาก ทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.หมอนนาง ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ หนุ่ม สาว หรือเด็กน้อย ล้วนแขวนตะกรุดของท่าน หลวงพ่อมหานินทร์มักเดินทางมาวัดใหม่ทรายมูลอยู่บ่อยๆ โดยทั้ง 3 ท่านเคยลองวิชากันบ้างพอหอมปากหอมคอ
สำหรับวัดใหม่ทรายมูลเป็นวัดที่ตั้งขึ้นมามีอายุไม่มาก มีเจ้าอาวาสมาแล้ว2องค์ โดยหลวงพ่อทวนท่านมาดำรงตำแหน่งเมื่อปีพ.ศ.2505 ที่มาของชื่อ"ทรายมูล"เนื่องจากมีทางน้ำไหลผ่านหลังวัดทำให้ทรายมากองรวมกัน จึงเรียกว่า"ทรายมูล"
วัดทรายมูลเป็นวัดที่เคร่งครัดในด้านพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ในงานศพที่มีการจัดงานที่วัดห้ามเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ สระน้ำของวัดได้เป็นแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านซึ่งมีน้ำตลอดปี
หลวงพ่อทวนท่านเป็นพระนักพัฒนาทั้งทางธรรมและทางโลก โดยเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนอนุบาลบ้านทรายมูลและโรงเรียนบ้านทรายมูล รวมทั้งพัฒนาพื้นที่บ้านทรายมูลทั้งการสร้างถนน สร้างสาธารณูป โภคต่างๆ จนเป็นที่รักและศรัทธาของชาวบ้านทรายมูลทุกคน
วัตถุมงคลของท่านเด่นทางเมตตา แคล้วคลาด มีหลายรูปแบบทั้งเหรียญรูปเหมือน,พระปิดตา,พระผงรูปเหมือน,พระขุนแผน,มหาเวสสุวรรณ,ผ้ายันต์,เครื่องรางกระต่ายเรียกทรัพย์ ฯลฯ ล่าสุดก็คือ เหรียญห่วงเชื่อม ที่ระลึกอายุวัฒนะมงคล 7 รอบ 84 ปี
เหรียญรุ่นแรกออกเมื่อครั้งเป็นพระครูประทวน ที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์อุปัชฌาย์ เจ้าคณะตำบล ปี2526 พิมพ์ทรงสวยงามแปลกตา ส่วนเหรียญรุ่น2 ฉลองพัดยศชั้นโท ปี2537 หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่.หลวงพ่อมหานินทร์ วัดหนองไทร และหลวงพ่อทวน วัดใหม่ทรายมูล ร่วมกันปลุกเสก มีประสบการณ์ดัง
ทางภาคใต้
ทั้งนี้ การอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงพ่อทวน ท่านจะเน้นที่การกำหนดจิตให้เป็นสมาธิ เมื่อจิตนิ่งก็ภาวนาพระคาถาบทต่างๆของครูอาจารย์แต่ละท่านที่ได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชามาให้ซึ่งท่านจะโดดเด่นในเรื่องต่างๆไม่เหมือนกัน โดยหลวงพ่อทวนบอกว่า "เราเสกให้เหมือนกันหมดทุกรุ่น"
Comments