top of page
ค้นหา

ตำนานชีวิต86ปี"หลวงปู่กวง"วัดป่านาบุญ พระมหาเถระสายกรรมฐานเมืองเชียงใหม่ ศิษย์มือขวาอาจารย์ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 7 พ.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

ตำนานชีวิต86ปี"หลวงปู่กวง"วัดป่านาบุญ

พระมหาเถระสายกรรมฐานเมืองเชียงใหม่

ศิษย์มือขวาอาจารย์ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์"คัมภีร์นิวส์" ร่วมย้อนตำนานชีวิต น้อมถวายความอาลัยในการจากไปของ พระราชวชิรกิจโกศล (หลวงปู่กวง โกสโล) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน(ธ) และเจ้าอาวาสวัดป่านาบุญ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2567 เวลา 20.32 น. สิริอายุ 86 ปี 59 พรรษา

หลวงปู่กวง ท่านเป็นศิษย์ผู้เปรียบเป็นมือขวารูปหนึ่งของหลวงปู่ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2480 ที่ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เดิมทีชีวิตฆราวาสของหลวงปู่กวง ค่อนข้างสบายและเป็นสุขอย่างยิ่ง เพราะท่านเป็นลูกเศรษฐีร้านทองในจังหวัดลำปาง ท่านเป็นลูกคนจีน มีนามว่า "กวง" ในภาษาจีนมีความหมายว่า "แสงสว่าง ,รัศมี ,ความสว่างไสว" และชื่อไทยของท่านมีนามว่า "เกรียงไกร" แปลว่า "ยิ่งใหญ่ ,เก่งกล้า"

ด้วยบารมีธรรมเป็นทุนเดิมมาเก่าก่อน ท่านจึงมองชีวิตทางโลกเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน ท่านจึงเลือกหนทางอันหลุดพ้น ได้ออกบวชเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2508 ณ พัทธสีมาวัดป่าสำราญนิวาส ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง มีพระราชสารสุธี (ขันติ์ ขนฺติโก) (ภายหลังได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระธรรมดิลก เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "โกสโล" แปลว่า "ผู้ฉลาด ,บารมีธรรม"

หลังอุปสมบทได้ติดตามเดินธุดงค์และฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ ซึ่งเป็นผู้พาธุดงค์เข้าป่าฝึกภาวนาเป็นคนแรก จากนั้นได้ไปศึกษาธรรม รับฟังข้ออรรถข้อธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่ทางภาคเหนือ อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ,หลวงปู่ตื้อ อาจลธัมโม ,หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ,หลวงปู่แว่น ธนปาโล ,หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ และหลวงปู่ประสิทธิ์ ปุญฺญมากโร ผู้เป็นครูอาจารย์ชี้ทางธรรมจนทำให้ท่านพ้นทุกข์

โยมเตี่ยและโยมแม่คาดหวังจะให้ท่านมาสืบทอดวงศ์สกุล และดูแลกิจการครอบครัว จึงได้ไปเฝ้าพระลูกชาย อ้อนวอนให้สึกหาลาเพศ แต่หลวงปู่กวงมองเห็นประตูธรรมอันส่องสว่างอยู่ต่อหน้า จึงไม่ได้ทำตามคำขอของท่านทั้งสอง แต่กลับออกธุดงค์รุกขมูลไปยังป่าเขาสถานที่กันดารขึ้นไปอีกคือ บนยอดเขาดอยอ่างขาง โดยอยู่ปฏิบัติธรรมในสถานที่เหน็บหนาว ออกภิกขาจารกับชาวเขาชาวดอย อาหารบิณฑบาตแค่เพียงคบฉัน

แทบจะกล่าวได้ว่า หลวงปู่กวงเป็นผู้บุกเบิกสถานที่ปฏิบัติธรรมบนดอยอ่างขางเป็นรูปแรกเลย เพราะท่านอยู่ที่นั่นราวๆ 12 ปีท่านมีเพื่อนสหธรรมิกที่เที่ยววิเวกไปตามป่าเขาบนดอยสูงด้วยกัน เช่น หลวงปู่เสถียร คุณวโร แห่งวัดถ้ำพระภูวัว จ.บึงกาฬ ,หลวงปู่สมหมาย จิตฺตปาโล วัดภูถ้ำพระ จ.ยโสธร(ภายหลังท่านย้ายมาวัดป่าอนาลโย จ.นครปฐม) และหลวงปู่ประสงค์ สุสันโต วัดใหม่เขาปูน จ.อุทัยธานี ศิษย์ร่วมอาจารย์หลวงปู่ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ ผู้เปรียบเหมือนแขนซ้ายของหลวงปู่ประสิทธิ์อีกรูป โดยเวลาเที่ยวธุดงค์ท่านจะเดินอย่างเดียว ไม่กล้าขึ้นรถ เพราะเป็นการแสดงความเคารพในธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่สั่งสอนมา

ภายหลังหลวงปู่กวงได้มาอยู่พำนักร่วมสร้างวัดปฏิบัติธรรมในสถานที่ใกล้ๆกับวัดป่าหมู่ใหม่ของหลวงปู่ประสิทธิ์ คือวัดป่านาบุญ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อตอบแทนบุญคุณโยมเตี่ย โยมแม่ท่านให้ได้ทำบุญ ฟังธรรม และปฏิบัติธรรมตามกาลสมควร ท่านได้อยู่เป็นร่มโพธิธรรมสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้เจริญ เป็นครูอาจารย์สั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาทั้งทางใกล้ทางไกลด้วยความเมตตา ท่านจะพาสวดมหาสมัยสูตรและบทแผ่เมตตาใหญ่ คาถาเมตตาหลวง เพื่ออุทิศบุญความร่มเย็นให้แก่สรรพสัตว์โดยไม่มีประมาณ ท่านยังคอยอบรมสั่งสอนธรรมแก่ผู้มาเยือนอย่างเป็นกันเองตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ทั่งนี้ ท่านใดมาที่วัด หลวงปู่จะให้ลูกศิษย์ชงกาแฟเลี้ยงแจกจ่ายแขกผู้มาเยือนอย่างไม่อั้น ท่านบอกว่าใครมาวัดป่านาบุญ ถ้าไม่ได้มาจิบกาแฟ ถือว่ามาไม่ถึง อีกทั้งการพิมพ์หนังสือธรรมะของพ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ที่สนใจใฝ่ธรรม เป็นการให้ธรรมะเป็นทานอย่างน่านับถือยิ่ง

โอวาทธรรทคำสอนหลวงปู่กวง โกสโล

"..คนเราเข้าใจผิด คิดว่าพอแก่แล้วจะสบาย ความจริงมีแต่ทุกข์ที่รออยู่ตลอดสาย พอแก่แล้วก็เจ็บนั่นเจ็บนี่ ยังอยากจะมาเกิดกันอีกหรอ.."



 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page