ตำนานชีวิต88ปี"พ่อท่านเอียด ครุธมฺโม" อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกแย้ม เมืองพัทลุง เกจิดังสายเขาอ้อ
- อ.อนุชา ทรงศิริ
- 3 พ.ย. 2566
- ยาว 1 นาที
ตำนานชีวิต88ปี"พ่อท่านเอียด ครุธมฺโม"
อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกแย้ม เมืองพัทลุง
เกจิดังสายเขาอ้อ-ศิษย์เอก"พ่อท่านหมุน"
ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์"คัมภีร์นิวส์" ร่วมย้อนตำนานชีวิต น้อมถวายความอาลัยในการจากไปของพระครูพิสิฐธรรมคุณ หรือ"พ่อท่านเอียด ครุธมฺโม" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้อและสายใต้ อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งมรณภาพลงอย่างสงบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.12น. ณ โรงพยาบาลพัทลุง
สิริอายุ 88 ปี พรรษา68
"พ่อท่านเอียด"หรือที่เรียกขานกันในพื้นที่ว่า "ตาหลวงเอียด" ท่านนามเดิมว่า "เอียด" นามสกุล"ทองพุฒ" ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 ณ บ้านหนองปราง ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง บิดาชื่อ"นายเผือก" ทองพุฒ มารดาชื่อ "นางหมุน" มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน 6 คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำนาทำสวนที่บ้านหนองปราง ต.นาท่อม อ.เมือง
เมื่ออายุครบ 21 ปี ได้เข้าอุปสมบทที่วัดนาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2499 โดยมี หลวงพ่อพระวีรนาทมุนี (เพียร อุตฺตโม) เจ้าคณะจังหวัดพัทลุงในขณะนั้น (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระธรรมปัญญาบดี อดีตเจ้าคณะภาค 18 วัดคูหาสวรรค์ พระอารามหลวง) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระมหาพริก รกฺขิตฺธมฺโม วัดคูหาสวรรค์ (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระประศาธน์โศภณ) เป็นพระกรรมวาจารย์ หลวงพ่อพระมหาพร้อม อุตฺตโม วัดนาท่อม เป็นพระศีลาจารย์ ซึ่งในขณะนั้นมี หลวงพ่อพระครูพิศาลศีลาจาร (หมุน) เป็นเจ้าอาวาส ได้รับฉายาว่า “ ครุธมฺโม ” แปลว่า “ผู้มีความหนักแน่นในธรรม ”
หลังบวชท่านได้ตั้งอกตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจนแตกฉาน จากนั้นจึงเที่ยวแสวงหาความรู้ด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านวิปัสสนากรรมฐาน โดยไปสมัครเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อขาว วัดห้วยหลาด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งมีชืื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น และออกจาริกไปกับหลวงพ่อขาว เพื่อโปรดสรรพสัตว์ไปในที่ต่างๆ เช่น เขต อ.ปะทิว จ.ชุมพร เขต อ.ห้วยยอด และ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
หลังจากนั้นเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดนาท่อมตามเดิมได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตตลอดความรู้ทางไสยศาสตร์ และตำราวิชาการต่างๆ จากผู้เฒ่าผู้แก่ในแถบนั้นบ้าง และจากที่อื่นๆบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนมาขอร้องให้ท่านทำน้ำมันต่อกระดูก ต่อเอ็น (น้ำมันเอ็นทำมาจากน้ำมันมะพร้าวแล้วเสกด้วยคาถา) เมื่อท่านเสกคาถาแล้วเป่าลงไปในขวดน้ำมัน ขวดก็แตกเป็นสองส่วนทำให้ผู้ที่มารักษานั้นตะลึงไปตามๆกัน และได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ หลวงพ่อพระครูปลัดจิ้ว กิตฺติสทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกแย้มฟัง แล้ว
พระครูปลัดจิ้วก็ได้ไปเล่าให้ "หลวงพ่อหมุน ยสโร" วัดเขาแดงตะวันออก (พระครูถาวรชัยคุณ) หนึ่งในเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในการปลุกเสกพระเครื่องสายใต้ โดยเฉพาะ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรกๆของจังหวัดปัตตานี ท่านจึงบอกให้พระครูปลัดจิ้ว ไปตามมาพบ และรับมาเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมกับประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ด้านต่างๆให้ โดยเฉพาะด้านการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ จึงถือได้ว่าท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออกก็ว่าได้
หลังจากพระครูปลัดจิ้วมรณภาพ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2530 เป็นต้นมา และเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 ได้รับแต่งตั้งให้เป็น"พระครูสังฆรักษ์ เอียด ครุธมฺโม" ฐานานุกรม ใน หลวงพ่อพระเทพวิสุทธิเมธี ( หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระพรหมมังคลาจารย์ วัดชลประทานรังสฤษฎ์ จ.นนทบุรี ต่อมาได้รับเลื่อนเป็น"พระครูพิสิฐธรรมคุณ"
ในด้านวัตถุมงคล ยุคแรกๆนั้นมีคนมาขอร้องให้ท่านทำตะกรุด ด้วยการจารอักขระเลขยันต์ลงในแผ่นตะกั่ว บ้างก็ทำเป็นผ้ายันต์ ประเจียดมงคล ก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภจนเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว
ในปี พ.ศ.2538 ท่านก็ได้เหรียญรุ่นแรกขึ้นเพื่อแจกในงานทำบุญฉลองอายุครบ 60 ปี เป็นเหรียญทองแดงรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปครึ่งองค์ มีข้อความว่า “ พระครูสังฆรักษ์ เอียด ครุธมฺโม ” ด้านหลังมี ยันต์นะร้อยแปด และข้อความว่า “ ครบ 5 รอบ วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง 3 ก.พ. 2538 ”
พ่อท่านเอียดนับเป็นพระเกจิองค์หนึ่งที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เป็นพระเถระที่มีความสมถะและถือสันโดษ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของบรรดาพระสงฆ์ ตลอดพุทธศาสนิกชนทั่วๆ ไป มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่สำคัญท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสำนักสายเขาอ้อและสายใต้ โดยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีคุณูปการต่อวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เป็นอย่างยิ่ง ท่านจะคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ เป็นกำลังใจและสั่งสอน รวมทั้งเป็นแบบอย่างต่อพระและบุคลากรของวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ท่านเปรียบเป็นผู้ปิดทองหลังพระเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 20 ปี
Comments