top of page
ค้นหา

“ท่านพ่อโสต” วัดเขาหินโค่ง จันทบุรี

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 3 พ.ค. 2565
  • ยาว 1 นาที

“ท่านพ่อโสต” วัดเขาหินโค่ง จันทบุรี

เกจิสายแคล้วคลาด-เมตตามหานิยม

ศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส


ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ขอนำเสนอประวัติ “ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม” ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์สันติธรรมคีรี(วัดเขาหินโค่ง) บ้านชำตาเรือง ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาและเชี่ยวชาญในงานด้านต่างๆ อีกมากมายปัจจุบันท่านอายุย่าง 67 ปีเป็นพระเถราจารย์อีกรูปหนึ่ง ที่มากด้วยศิษยานุศิษย์ให้ความเคารพนับถือ ไม่ว่าจะเป็นชาวต.คลองพลู หรือตำบลใกล้เคียง

ท่านเกิดในสกุล "เฉื่อยวิบูลย์" ณ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 7 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2498 ปีมะแม เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 7 คนของนายทวี และนางซึ้งผ่องพัก เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสามผาน จบชั้น ป.4 อายุ 16 ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดทุ่งเบญจา ซึ่งมีท่านพ่อเป๋า นนฺทสาโร เป็นเจ้าอาวาส พรรษาแรกสอบนวโกวาทได้


พอพรรษาที่ 2 ก็ไปเรียนที่วัดสุทธิวารี อ.เมือง สอบนักธรรมตรีได้ แล้วกลับมาวัดทุ่งเบญจา เรียนสักยันต์ และไสยเวทย์ต่างๆ กับอาจารย์จุ๋ย ได้ประมาณ 7-8 เดือน อาจารย์ก็ล้มป่วยด้วยโรคปวดท้อง ก็ได้สั่งบรรดาศิษย์ไว้ว่าถ้าอาจารย์เป็นอะไรตำราทุกอย่างให้ยกกับสามเณรโสตให้หมด


เมื่ออาจารย์จุ๋ยมรณภาพลง ลูกศิษย์ที่ได้เคยมาสักยันต์ ก็มาขอทำการสักกับสามเณรโสตอยู่ตลอดเวลา ช่วงนั้นอาจารย์ไหนเก่ง ท่านก็จะไปขอเรียน


เมื่ออายุครบได้บวชอยู่หนึ่งพรรษา แล้วลาสิกขาบทออกมารับราชการทหารผลัด 4 นาวิกโยธินท.ร. 19 ฝึกอยู่ 6 เดือน ก็ถูกส่งไปอยู่ชายแดน จนปลดประจำการ ออกมาใช้ชีวิตครอบครัวอยู่หลายปี จึงอุปสมบทอีกครั้งที่วัดทุ่งตาอิน เมื่อปี 2536 โดยมีพระอธิการจำนง ชยฺยวํโส (พระครูประดิษฐ์สาธนการ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สมแดง จิรวังโส วัดจันเขม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการฉาบ ฉทฺธมฺโม วัดคลองพลู เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า”สิริธมฺโม” แปลว่า “ผู้มีธรรมอันเป็นสิริ”

จากนั้นได้ไปอยู่วัดที่สำนักสงฆ์คลองชีพบ้านจันเขม 3 เดือน ใจไม่สงบจึงขออนุญาตพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์ โดยยังไม่รู้ว่าจะไปทิศทางไหน เวลาประมาณเที่ยงคืนได้แวะพักปักกลดอยู่ที่ตีนเขาลูกหนึ่ง ประมาณ 5-6 วัน ก่อนจะขึ้นไปบนยอดเขา ได้เจอโยม 2 คนจึงถามว่าเขานี้ชื่ออะไร โยมตอบว่าชื่อ "เขาหินโค่ง" จากนั้นจึงขอให้โยมตัดใบตองมาให้ 10 กว่าทาง(ใบ) เพื่อใช้พาดกับก้อนหินทำเป็นที่พักอาศัย อยู่ได้ไม่กี่วันใบตองก็แห้งเหี่ยวไป แต่ท่านก็ไม่อยากย้ายไปไหนเพราะรู้สึกว่าที่บนเขาหินโค่งนี้สงบดี

ท่านปักกลดอยู่ที่เขาหินโค่ง 1 พรรษา พอออกพรรษาแล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆ จนมีโยมมาทำบุญ 2 คน และช่วยสร้างศาลาเล็กๆ ให้ ต่อมาก็มีพระมาอยู่ด้วยอีก 3 รูป พอญาติโยมรู้ว่ามีพระมาจำพรรษาอยู่บนเขาก็มาทำบุญกันมากขึ้นท่านจึงตั้งเป็น "สำนักสงฆ์สันติธรรมคีรี(วัดเขาหินโค่ง" ใช้เวลาสร้าง 1 ปีเต็ม และก็พัฒนาตามลำดับด้วยการสร้างกุฏิ ห้องน้ำ ศาลา รวมทั้งศาลาโรงทาน

ท่านพ่อโสตได้ศึกษาวิชาอาคมมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร และในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และอื่นๆอีก โดยอาจารย์ผู้สอน อาทิ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส, ท่านพ่อเป๋า นนฺทสาโร และพระอาจารย์จุ๋ย วัดทุ่งเบญจา อาจารย์เนือง อาจารย์ด๋วน, อาจาย์พัด, อาจารย์ยี่


กิตติคุณท่านพ่อโสต นอกจากจะมีเมตตาต่อญาติโยมแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา นักเผยแผ่อีกด้วย โดยได้พัฒนาสำนักสงฆ์สันติธรรมคีรี จนมีอาคารเสนาสนะต่างๆมาถึงทุกวันนี้ สำหรับกิจวัตรที่ญาติโยมไปขอความเมตตาเป็นประจำคือ การเจิมรถ ดูดวง สะเดาะเคราะห์ และรักษาโรคต่างๆด้วยยาสมุนไพร และอีกมากมาย


ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ลูกหา หรือชาวบ้านผู้หนึ่งผู้ใดเดือดร้อน และขัดสนเรื่องเงินทองมาขอพึ่ง ท่านก็จะช่วยสงเคราะห์ให้พ้นความเดือดร้อนเกือบทุกราย


นอกจากนี้ท่านยังเมตตาให้ความอนุเคราะห์แก่เหล่าหมู่สัตว์ ในวัดจะมีสัตว์ต่างๆ หลายชนิดเช่น นกพิราบ สุนัข แมว หมูป่า และนก ทุกเช้าเย็น ท่านจะให้พระนำอาหารที่เหลือ พร้อมกับสั่งห้ามโดยเด็ดขาดว่าไม่ให้ใครรังแกสัตว์ทุกชนิดในวัด


ท่านพ่อโสต ถือเป็นพระเกจิคณาจารย์แบบช้างเผือกมักเกิดในป่าที่ผู้คนต้องเที่ยวเสาะแสวง หาแบบปากต่อปาก แบบมีประสบการณ์ดีจึงบอกต่อกัน มิได้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ กันแต่อย่างไร บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายส่วนใหญ่อยู่กระจัดกระจายไปทั่ว 4 จังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก และในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง


ในแต่ละวันนั้นมักมีลูกศิษย์เดินทางกันมากราบนมัสการกันตลอดทั้งวัน เพื่อมาขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือทางด้านต่างๆ จำนวนมากน้อยแตกต่างกันไป แต่เมื่อครั้งใดที่ทางวัดเขาหินโค่ง มีงานบุญงานกุศลต่างก็พากันหลั่งไหลมาประชุมรวมกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับวัตถุมงคลยอดนิยมของท่านพ่อโสตมีหลายอย่าง เช่น พระสมเด็จ พระขุนแผนชมตลาดตะกรุดหนังเสือแกะนั่งเขี้ยวเขาควายดำและเขาควายเผือก, พระผงน้ำพี้ รูปเหมือน เหรียญรูปไข่พระยอดธง พระขุนแผนรุ่น 3 พลายกุมาร ลูกอมผงพุทธคุณ,พระปิดตา เหรียญเจริญพร รุ่น“แซยิด 60 ปี” ฯลฯ


ล่าสุด ได้มีพิธีพุทธาเทวาภิเษก ราหูอมจันทร์กะลาตาเดียวแกะ”รุ่นเหนือดวง” โดยมี หลวงพ่อโสต สิริธมฺโม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดเขาหินโค่ง จ.จันทบุรี นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ณมณฑลพิธีวัดเขาหินโค่ง ซึ่งมีพราหมณ์หนู เป็นผู้ดำเนินการจัดพิธี กำลังได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page