top of page
ค้นหา

บันทึกไว้ให้ศิษย์จดจำ “หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ”มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของ “ “พระอาจารย์นำ ชินวโร"

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 29 ก.ค. 2564
  • ยาว 1 นาที

#บันทึกไว้ให้ศิษย์จดจำ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ”มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของ “พระอาจารย์นำ ชินวโร" (แก้วจันทร์) วัดดอนศาลา” และเป็นเกจิองค์สุดท้ายที่สืบสานวิชาตำนานตักศิลาเขาอ้อ ที่ยังมีลมหายใจครับ

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ นำเสนอ "ประวัติ ปฏิปทา" หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมบ้านใสหลวง ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

มีนานเดิมว่า “ แผ้ว ขำตรี ” เกิดวัน พฤหัสบดี ที่ ๕ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๓ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเมีย ณ บ้านห้วยรากไม้ (บ้านดอนมูล) บ้านเลขที่ ๒๐๗ หมู่ที่ ๑ ต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง บิดา มารดา ชื่อนายหนู นางพูน ขำตรี สิริอายุปัจจุบัน อายุ ๙๑ ปี อาจกล่าวได้ว่าหลวงปู่แผ้ว เป็นชาวพัทลุงโดยกำเนิด ที่ได้รับการปลูก ฝังค่านิยม ในความเป็นเขาอ้อ การฝังรากฐานไปในแนวความคิด แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดในทางกลับกันการหยั่งรากลึก ลงไปในศาสตร์ลึกลับ แบบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กับเป็นส่วนเพิ่มเติมเต็มความขลังได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ และแน่นอนว่าขลังไม่ขลัง คงไม่ได้อยู่ที่จิตอย่างเดียว มันต้องบวกทัศนคติและมีพื้นฐานที่ดีเข้าไปด้วย

หลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของ “พระอาจารย์นำ ชินวโร" (แก้วจันทร์) วัดดอนศาลา” ท่านเคยเล่าว่าในสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กด้วยใจรักในไสยศาสตร์ทำให้ท่านเฝ้าติดตามอาจารย์นำ (สมัยเป็นฆราวาส) ไปเป็นลูกมือประกอบพิธีกรรมต่างๆ ท่านว่าการเป็นลูกมือนี่แหละสำคัญนัก เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกฝนไปในตัวแล้ว ค่าของความเป็นลูกมือคือการได้รับความไว้วางใจจาก อาจารย์ผู้สอนซึ่งท่านบอกว่าแม้แต่พระอาจารย์นำ ได้มาอุปสมบทแล้ว ท่านก็ยังคงเข้าวัดมาช่วยงาน ในด้านพิธีกรรมต่างๆ ของวัดดอนศาลาอยู่เป็นประจำ หลวงปู่แผ้ว อุปสมบทครั้งแรก ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ (พ.ศ.๒๔๙๓) ณ พระอุโบสถ วัดควนปันตาราม โดยมี พระครูรัตนาภิรัตน์ (ตาหลวงเน) วัดควนปันตาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ “ตาหลวงเน” อาจจะไม่โด่งดังหรือแผร่หลาย ออกมาสู่โลกภายนอกมากมายเท่าใดนัก แต่สำหรับพัทลุงแล้ว ตาหลวงเน นับเป็น พระมหาเถราจารย์ที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องของไสยเวทย์แล้ว ว่ากันว่าพระอาจารย์ดิษฐ์ วัดปากสระ เจ้าของพระสังกัจจายน์ ขนาดห้อยคอ อันกับหนึ่ง ของพัทลุง ยังให้คำรับรอง ความขลังขมังเวทย์ ของตาหลวงเน ได้ถูกถ่ายทอด ให้ทายาททางอาคม หลายต่อหลายองค์ เท่าที่มีชีวิต และมีชื่อเสียง ในทุกวันนี้ก็ เช่น พ่อท่านช่วง วัดควนปันตาราม พ่อท่านสุมิตร วัดทุ่งเตง และหลวงปู่แผ้ว ผลฺปัญโญ นอกจากการได้เป็นศิษย์ของ ๒ เสาหลักแห่งสำนักเขาอ้อแล้ว หลวงปู่แผ้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นอีกผู้หนึ่ง ที่มีโอกาสได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงจาก “พระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม วัดเขาอ้อ” ท่านเคยเล่าว่าเดิมทีเคยคิดว่าตนเองเป็นผู้ที่มีวิชาดีมีอาจารย์ดี แต่เพราะได้รับการกำราบ จากพระอาจารย์ปาล นี่แหละ ทำให้ท่านพบความสว่างและ

สัจธรรมของความจริงที่ว่า “ ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง ” ท่านว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวท่านเอง ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านลาสึกขาออกมามีครอบครัว ท่านเล่าว่าในช่วงนั้นเป็นยุคคอมมิวนิสต์ครองเมือง จังหวัดพัทลุงถือเป็นพื้นที่สีแดง ตัวท่านเองรับใช้บ้านเมืองโดยการเป็นอาสาสมัคร ประจำการ ณ เขาปู่ มีอยู่วันหนึ่งขณะกำลังพักผ่อนได้ถูก ผกค.เข้าล้อมและโจมตี ท่านว่าเสียงกระสุนปืน ที่ดังแหวกอากาศผ่านเส้นผมทำให้อาสาสมัครทุกคน ไม่สามารถโงหัวขึ้นมาต่อกรได้ และจะด้วยเหตุผลประการ ใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ อาสาสมัครทุกคน ต่างมีตะกรุดของ พระอาจารย์ปาล คาดเอวกันทั้งนั้น ท่านเล่าว่าในยามวิกฤตินั้นเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่คาบเกี่ยวระหว่าง ความเป็นความตาย ท่านได้บอกให้ทุกคนตั้งใจให้มั่น เอาครูบาอาจารย์ และของขลังที่ทุกคนมีติดตัวเป็นแรงใจลุกขึ้นยิงต่อสู้ จนในที่สุดสามารถแหกวงล้อมและรอดพ้นอันตรายได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ด้วยเหตุนี้เองในยามว่าง จากการงาน หรือการปฏิบัติ ภารกิจต่าง ท่านจึงถือโอกาสเข้าไปรับใช้ ไปอุปฐาก และไปเก็บเกี่ยววิชาความรู้ต่างๆ จาก พระอาจารย์ปาล จนกระทั่งพระอาจารย์ปาลมรณภาพลง ความชัดเจนในสาย วิชาและครูบาอาจารย์นี้เอง ทำให้หลวงปู่แผ้วได้รับสมญานามว่า “เพชรน้ำงามสามเขาอ้อ” นอกจากสายวิชาของเขาอ้อแล้ว ที่ชาวบ้านยอมรับ ในวิชาของหลวงปู่แผ้ว คือวิชาอาคม ในสายหนังตะลุงเช่น เมตตา มหาเสน่ห์ กันของ แก้ของ ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตหลวงปู่แผ้ว คือนายหนังตะลุง ที่มีชื่อเสียงของพื้นที่ ว่ากันว่ายามใดก็ตามที่หนัง ของครูแผ้วเล่นละก็ รับประกันได้ว่าสะกดจิต สะกดใจ ผู้ชมจนไม่สามารถลุกขึ้นไปที่อื่นได้จนกว่าการแสดงจบ ซึ่งหลวงปู่แผ้วบอกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของการใช้คาถาอาคมประกอบแรงครู แรงครูของสายหนังตะลุง ถือได้ว่าแรงและลึก ไม่น้อยไปกว่าศาสตร์แห่งแรงครู ในแขนงอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่น่าแปลกใจที่ ตะกรุด มีดหมอ ที่ท่านเคยสร้างขึ้นมาจึงได้ขลังพลังลึกและมากไปด้วยประสบการณ์ หลังจากที่ครอบครัวมีความมั่นคงแล้ว หลวงปู่แผ้ว ได้ตัดสินใจ หันหลังให้ทางโลกอุปสมบทครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ณ พระอุโบสถ วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมี พระครูวิโรจน์ศาสนกิจ (พ่อท่านช่วง) วัดควนปันตาราม (ปันแต) เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันในวัย ๙๑ ปี ๒๒ พรรษา หลวงปู่แผ้ว ผลปัญโญ ยังมีสุขภาพแข็งแรง ความจำดี เป็นที่พึ่งพาของชาวบ้าน หากมีเวลาเรียนเชิญกราบนมัสการท่านได้ที่ สำนักปฏิบัติธรรมบ้านใสหลวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง











 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page