top of page
ค้นหา

พระพิศาลสิทธิคุณ หรือ พระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขั

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 25 มิ.ย. 2564
  • ยาว 1 นาที

พระอาจารย์ไพโรจน์ ยังคงความสมถะเรียบง่าย

พระพิศาลสิทธิคุณ หรือ พระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ตามประวัติ ท่านมีนามเดิมว่า ไพโรจน์ ทองลอย เกิดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2499 ปัจจุบันอายุ 65 ปี พรรษา 34 วัยหนุ่ม มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน สามารถสอบได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ปริญญาตรีด้านนิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

จากนั้นเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโตนดหลวง ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2530 โดยมี พระครูภาวนาวัชโรภาส (แผ่ว) วัดโตนดหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวัชรกิจจาทร วัดสมุทรคาม (บ้านเก่า) ต.บ้านเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูญาณวัชรากรณ์ (พระอาจารย์หวย จักกวโร) วัดห้วยทรายใต้ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “ปภัสโร”

หลังบวชแล้วท่านได้มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้และศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ก่อนย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดห้วยมงคล เพื่อช่วยงานหลวงพ่อปลั่ง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลรูปแรก (พ.ศ.2507-2534) พัฒนาวัดห้วยมงคล จากที่พักสงฆ์เล็กๆ จนกระทั่งเป็นสำนักสงฆ์ และกลายเป็นวัดในที่สุด

สำหรับลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2537 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะตำบลทับใต้ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสชั้นโท ที่พระครู ปภัสสรวรพินิจ

วันที่ 28 ก.ค.2562 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระพิศาลสิทธิคุณ

ปกติท่านเป็นผู้ชอบใฝ่หาความรู้ ท่านศึกษากัมมัฏฐานจากพระราช พรหมยาน (ฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ภายหลังจากที่พระอาจารย์ไพโรจน์ เป็นเจ้าอาวาส ท่านบริหารจัดการบูรณะพัฒนาวัดจนมีความเจริญขึ้นมา

ต่อมา ดำริจัดสร้างพระหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ที่วัด เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การก่อสร้างหลวงปู่ทวดจึงเริ่มขึ้น ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากหลายองค์กร ทั้งทางภาครัฐ และเอกชน จากญาติโยมมาร่วมทำบุญสร้างหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะผสมทั้งองค์ ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างขนาดกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร

ในการนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯมาทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเททองหล่อส่วนเศียรหลวงปู่ทวด เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2546 และพระราชทานพระราชานุญาต ให้คณะกรรมการจัดสร้างได้เชิญพระนามาภิไธยย่อ สก. ขึ้นประดิษฐานไว้ที่หน้าองค์หลวงพ่อทวด

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2547 เสด็จฯมาทรงเป็นประธาน ทรงกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้าย องค์หลวงพ่อ ทวด สก. สร้างความปลาบปลื้ม ปีติของประชาชนในย่านนั้น ทุกวันนี้มีผู้คนเดินทางมากราบสักการะกันมากมาย

วัดห้วยมงคล กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรม มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมานมัสการกราบไหว้ขอพรและบูชาวัตถุมงคลพระเครื่องหลวงปู่ทวด พระอาจารย์ไพโรจน์ยังเมตตาช่วยเหลือทหารตำรวจตระเวนชายแดน นำข้าวสารอาหารแห้งไปให้และมอบเงินช่วยเหลือ ส่วนด้านการศึกษาแก่นักเรียนได้จ้างครูมาช่วยสอนยังโรงเรียนต่างๆ เนื่องจากครูไม่เพียงพอ ทางโรงเรียนไม่มีงบประมาณ

ปัจจุบันแม้ท่านจะเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แต่ใช้ชีวิตแบบสมถะเรียบง่าย ไม่ติดกับลาภยศสรรเสริญ จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยม

ทุกวันนี้ท่านยังปลีกวิเวก หาความในสงบ พัฒนาป่าพื้นที่ในบริเวณวัด เป็นพระที่เคร่งครัดแบบเสมอต้นเสมอปลาย กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจรูปหนึ่ง




 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page