top of page
ค้นหา

"พระอาจารย์ต๋อง"วัดพุตะเคียน เกจิหนุ่มมาแรงแห่งเมืองกาญจน์

  • รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริ
    อ.อนุชา ทรงศิริ
  • 7 ต.ค. 2565
  • ยาว 1 นาที

"พระอาจารย์ต๋อง"วัดพุตะเคียน

เกจิหนุ่มมาแรงแห่งเมืองกาญจน์

ศิษย์สายตรง"ปู่ชุบ"วัดวังกระแจะ


ทีมข่าวคัมภีร์นิวส์ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณ พระครูสุทธิสารโสภิต (พระสิทธิพงษ์สุทฺธิญาโณ" หรือที่เรียกขานกันว่า"พระอาจารย์ต๋อง"หรือ"หลวงพ่อต๋อง" อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสรูปปัจุบันวัดพุตะเคียน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ศิษย์พุทธาคมสายตรงเกจิดังเมืองกาญจน์ อาทิหลวงปู่ชุบ วัดวังกระแจะ,หลวงปู่เสงี่ยม วัดบ้านทวน,หลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิทฯ


วัดพุตะเคียน ตั้งอยู่บ้านพุตะเคียน ถนนแสงชูโต(กาญจนบุรี-สังขละ) เลขที่ 239 หมู่ที่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ก่อตั้งก่อนปีพ.ศ. 2483 แต่เดิมชาวบ้านพุตะเคียนได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นริมเชิงเขา(ห่างจากวัดปัจจุบันประมาน 500 เมตร) เมื่อคราวปีพ.ศ.2485 มีการสร้างเส้นทางรถไฟ (จากสถานีหนองปลาดุก จังหวัดราชบุรี ปลายทางประเทศพม่า) ซึ่งผ่านบริเวณที่ตั้งวัด และทหารญี่ปุ่นได้ตั้งค่ายและที่พักเชลยศึกใกล้บริเวณวัดจึงได้ย้ายวัดไปยังบริเวณใกล้แม่น้ำแควน้อย บางปีฤดูฝนเกิดน้ำหลากและท่วม จึงมีความจำเป็นต้องย้ายวัดอีกครั้ง โดยเลือกที่ตั้งบริเวณเนินกลางหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อมีการประกาศสร้างถนนแสงชูโต จากดอนกระเบื้อง ถึงด่านพระเจดีย์สามองค์ จึงย้ายมาตั้งในสถานที่ปัจจุบัน


ลำดับเจ้าอาวาสปกครองวัดเท่าที่สืบได้ 1.พระว้า สุวณฺโณ 2.พระเจริญ โรจโน 3.พระเข็ม ขนฺติโก  4.พระครูบวรกาญจนรักษ์(ประกอบ เตชธมฺโม) พ.ศ.2510-2539 และพระครูสุทธิสารโสภิต(สิทธิพงษ์ สุทธิญาโณ) พ.ศ.2542-ปัจจุบัน


พระอาจารย์ต๋องมีชื่อเดิมว่า "สิทธิพงษ์ นาคเสวก" ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2517 ที่อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โยมบิดาชื่อนายสมาน นาคเสวก โยมมารดาชื่อ นางสมศรี พวงดอกไม้เมื่ออายุ21ปีได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 ณ พัทธสีมาวัดหนองสรวงต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยมีพระครูวิรัชปัญญาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์


จุดประสงค์ในการบวชของท่านคือ ทำตามคำร้องขอของมารดา และบวชแก้บนเรื่องการเกณฑ์ทหาร โดยท่านบนบวชเพียงแค่ 15 วัน

หลังอุปสมบทได้เรียนกัมมัฏฐาน อาปานสติภาวนา กับ"พระอาจารย์เจียน"ทำให้ท่านเกิดความศรัทธาในการอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ต่อไปเพื่อศึกษาธรรม โดยตั้งใจบวชเพียง 1 พรรษาเท่านั้นเพราะว่าในตอนนั้นท่านมีงานที่ทำอยู่ก่อนแล้ว

   

ท่านได้ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์อยู่ 1 พรรษา ก็มีเหตุที่ทำให้ท่านไม่อยากลาสิกขาบทอีกจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งโยมมารดาต้องมาขอร้องให้ลาสิกขาบทหลายครั้ง เนื่องด้วยงานที่ทำในตอนนั้นเป็นงานที่มั่นคงและมีรายได้พอสมควร แต่ก็ไม่สำเร็จจนมารดาล้มเลิกการขอร้องไป


ปีพ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2541พระอาจารย์ต๋องได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดซอยสามัคคี จ.ปทุมธานีเพื่อศึกษาบาลี และเรียนกัมมัฏฐานเพิ่มเติม ปีพ.ศ. 2542 – ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดพุตะเคียนดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส


ด้านการศึกษา จบนักธรรมชั้นเอกประโยค1-2

ปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) ปีพ.ศ. 2544 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลท่าเสาเขต 1 ปีพ.ศ. 2552 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโทในราชทินนาม "พระครูสุทธิสารโสภิต"ต่อมาปีพ.ศ.2556เลื่อนเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม ปีพ.ศ. 2554 ได้รับตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์


พระอาจารย์ต๋องได้ร่ำเรียนสรรพวิชามากมาย หลายด้าน และได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับครูบาอาจารย์ดังหลายท่าน อาทิ  พระครูวิรัชปัญญาภรณ์ วัดหนองสรวง ต.บ้านลำ อ.วิหารแดงจ.สระบุรี พระอุปัชฌาย์ของท่าน,พระครูพิศาลธรรมานุวัตร วัดซอยสามัคคี ต.คูคต อ.ลำลูกกาจ.ปทุมธานี เป็นผู้สอนวิชาน้ำมนต์ 5 ตัว สายสมเด็จลุน


หลวงปู่ชุบ วัดวังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี,หลวงปู่เสงี่ยม วัดบ้านทวน อ.พนมทวนจ.กาญจนบุรี,หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

,หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ พระอารามหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม,หลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิทธรรมาราม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลวงปู่แฉล้ม วัดกระโดงทอง จ.อยุธยา,หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด จ.เพชรบุรี พระอาจารย์หนุ่ม วัดบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. ฯลฯ


ในด้านวัตถุมงคล ท่านสร้างออกมาหลายรูปแบบ อาทิ เหรียญรุ่นแรก ที่ระลึกอุปัชฌาย์,พระขุนแผน,ประเภทเครื่องรางของขลัง อาทิ พญาครุฑยุดนาค,พญาเต่าเรือน,รูปหบ่อพญาแพะเอฬกโชค,เจ้าเงาะเรียกทรัพย์,ปู่ฤาษีนารอท,หุ่นพยนต์ถัก ฯลฯ ทุกชนิดมีประสบการณ์ทั้งด้านเมตตา ค้าขาย ดชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย


 
 
 

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page