top of page
ค้นหา

พระอาจารย์อนุชา อนุชาโต วัดโพธิ์ราษฏร์บูรณะ ราชบุรี ศิษย์สายตรง"พ่อสง่า"วัดหนองม่วง

รูปภาพนักเขียน: อ.อนุชา ทรงศิริอ.อนุชา ทรงศิริ

พระอาจารย์อนุชา อนุชาโต

วัดโพธิ์ราษฏร์บูรณะ ราชบุรี

ศิษย์สายตรง"พ่อสง่า"วัดหนองม่วง

ทีมข่าวกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์ ร่วมเผยแพร่ประวัติเกียรติคุณของพระดีเกจิดังแห่งเมืองโอ่งมังกร. พระอาจารย์อนุชา อนุชาโต วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ศิษย์สืบทอดพุทธาคมสายตรงของหลวงพ่อสง่า อนุปุพฺโพ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองม่วง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านหลักเมตร ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2507 โดยหมอตำแย

บิดา-มารดาชื่อ นายบุญชู ทัพโพธิ์ และ นางประสิทธิ์ สวนแก้ว เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 4 คน เรียนจชั้น ป.4 และไม่ได้เรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านที่ยากจน

ด้วยความที่บ้านยากจนและห่างจากวัดหนองม่วงเพียง 500 เมตร จึงมาเป็นเด็กวัดคอยปฏิบัติรับใช้ "หลวงพ่อสง่า" เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง โดยช่วยทำทุกอย่างที่ทำได้ รวมถึงล้างบาตรให้ หลวงพ่อสง่าจึงเมตตาสอนพระเวทย์วิทยาคมให้ตั้งแต่อายุ 16 ปี

ต่อมาในปี พ.ศ.2527 ท่านได้บวชครั้งแรก

ที่วัดหนองโพธิ์ อ.เมือง จ.นครปฐม และสอบนักธรรมตรีได้ในปีแรก

จากนั้นได้สึกออกมาช่วยงานมารดา เหตุที่อยากเรียนพระเวทย์เพราะสมัยยังไม่ได้ย้ายมาหนองม่วง ท่านต้องเดินไปเรียนไกลถึง 7 กิโลเมตร และต้องเดินผ่านทางรกๆ เพราะเดินทางถนนไม่ได้ เนื่องจากมีสุนัขตามถนนจำนวนมากคอยวิ่งไล่ ทำให้ท่านต้องเดินไปแกว่งกระเป๋านักเรียนไป ร้องไห้ไป เพราะกลัวหมารุมกัด จึงมีความคิดว่า มีวิธีใดที่จะทำให้หมาไม่กัด และถึงกัดก็ไม่เข้า

ต่อมาท่านได้อุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2552 ณ พัทธสีมา วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีพระครูวาทีธรรมวัฒน์ (บุญเลิศ ฐิตวฑฺฒโน ป.ธ.๔) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ราชบูรณะ

เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก

จากนั้นท่านจึงศึกษาพระเวทย์อย่างจริงจังอีกครั้ง โดยได้รับพานครูเรื่องของการเสกปลักขิกจาก 1.หลวงปู่นนท์ วัดเขาพรานธูป จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี2556 (สายหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก) 2.หลวงพ่อบุญค้ำ วัดชัยเภรีย์ จ.สุพรรณบุรี ในปี2558 (สายหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ) 3.หลวงปู่โอด วัดบางม่วง (ค่ายลูกเสือ) จ.นนทบุรี ในปี2558 (สายหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก)

หากแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการร่ำเรียนจากหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง และศึกษาจากตำราโบราณด้วยตัวเองเป็นหลัก ส่วนการไปยกพานครูนั้นเพื่อขออนุญาตครูบาอาจารย์ใช้อักขระ เลขยันต์ ให้สมบูรณ์เท่านั้น ที่ผ่านมา มีการเล่าขานถึงตำนาน การเสกวัตถุมงคล ให้โดดได้ ดิ้นได้นั้นมีการพูดถึงมานาน หากมีเพียงการบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น แต่ ในปัจจุบันมีการสื่อสารที่ทันสมัย จนทำให้มีการบันทึกด้วยคลิปวีดีโออย่างแพร่หลาย

ทั้งนี้ พระอาจารย์อนุชามักพูดเสมอว่าท่านเองเคารพและเทิดทูนหลวงปู่นนท์มากยิ่ง เพราะเห็นกับตาและสามารถจับต้องได้

โดยท่านมีจิตภาวนาว่าจะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นอันดับแรก มิได้มุ่งเน้นแต่จะเสกวัตถุมงคล แต่สุดท้ายก็โดนลูกศิษย์รบเร้าให้เสกให้ทุกวัน

ในการปลุกเสกท่านจะพูดเสมอว่า อย่าเอาคลิปที่ไม่สมควรไปลง เช่น การลองมีด ลองปืน เพราะเป็นการอวดคุณวิเศษ ผิดวินัยสงฆ์

ในชีวิตประจำวันพรรษาแรก ท่านไปปักกลด ในป่าช้าภายในวัด จนผ่านไป 1 พรรษา ลูกศิษย์จึงได้นิมนต์ให้ท่านมาจำวัดบนกุฏิเพราะกลัวท่านเป็นไข้เลือดออก แต่ท่านไม่ยอมจึงได้ไปเก็บกวาด ศาลาธรรมสังเวช(โรงทึม) หรือ ศาลาสวดศพเก่าที่มิได้ใช้แล้ว ทั้งยังรกร้างมาใช้เป็นที่จำวัดแทน ซึ่งภายในศาลาเป็นแบบเรียบง่าย ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น มีเพียงพัดลม 3-4ตัวเพื่อไล่ยุงและเพื่อคลายร้อนให้ญาติโยมที่มากราบนมัสการเท่านั้น


ดู 583 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


  • generic-social-link
  • generic-social-link
  • youtube

©2020 by kampeenews. Proudly created with Wix.com

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสระบุรี คนทั่วไปจะต้องคิดถึง “รอยพระพุทธบาท” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง เดียวในประเทศไทย ที่มีรอยพระพุทธบาทของแท้ประทับรอยอยู่ ในแต่ละปีจะมีทั้งพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการ เพราะถือว่าหากได้เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีแล้ว เป็นมงคลสูงสุดในชีวิตก็ว่าได้

 ไม่ใช่ว่าสระบุรีจะมีแต่สถานที่เท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ของสระบุรีที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันโด่งดังไปทั่วภูมิภาคและในท้องถิ่นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ, พระอุปัชฌาย์กาน วัดโคกโพธิ์, อุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา, หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย, หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน และหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง เป็นต้น

 และยังมีพระสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ข้อวัตรงดงามยิ่ง โดยเฉพาะวางอุเบกขาได้อย่างยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความเมตตาบารมีแก่คนทุกชั้นทุกกระดับอย่างเสมอภาค พระสงฆ์รูปนั้นคือ “พระครูอรรถธรรมาทร” หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “หลวงพ่อเฮ็น แห่งวัดดอนทอง” ตำบลดงตะงาว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านถึงจะสร้างไว้ไม่เก่ามาก แต่ความนิยมในหมู่นักสะสมก็ไม่ธรรมดา

 โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก” และ “พระกริ่งดอนทอง” สนนราคาเล่นหาสูงขึ้นเรื่อย

 ตามประวัติ หลวงพ่อเฮ็นท่านถือกำเนิดเมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2454 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 1 ปีกุน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โยมบิดาชื่อนายอยู่ โยมมารดาชื่อนางเขียว ศิริวงษ์ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกร

 เมื่ออายุได้ 8 ขวบได้ ไปศึกษาอักขระสมัยทั้งไทยและขอมกับพระอาจารย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งอยู่ไกล้บ้านของท่าน พออ่านออกเขียนได้ก็ลาจากวัดมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ ท่านเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ใจคอกล้าหาญอดทนกว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก ยุคนั้นบ้านกะวาปาลาย แขวงเมืองกำพงธม เป็นแดนนักเลงหัวไม้ มีทั้งชนไก่กัดปลา ข้องอ้อย ฯลฯ เวลามีงานวัดมักจะนัดตีกันเป็นประจำ

 สำหรับนายเฮ็นพรรคพวกเพื่อนฝูงย่องให้เป็นลูกพี่ ด้วยเหตุนี้ทำให้บิดามารดาวิตกเกรงว่าหนทางข้างหน้าอาจจะเสียคน เพราะคบเพื่อนไม่เลือกว่าคนดีคนพาล ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2474 ปีมะแม เมื่อนายเฮ็นมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บิดามารดาจึงทำการอุปสมบทให้ ณ พัทสีมาวัดพรรณนารายณ์ ตำบลกะวา อำเภอปาลาย แขวงเมืองกัมพงธม ประเทศกัมพูชา (เขมร) โดยมี พระอุปัชฌาย์แก้ว วัดพรรณนารายณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มั่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ให้ฉายว่า “สิริวังโส”

 เมื่อบวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดพรรณนารายณ์ ทำอุปัชฌาย์วัตรอาจาริยวัตรตามธรรมเนียมพระนวกะผู้บวชใหม่ และศึกษาพระธรรมวินัยท่องบ่นสวดมนต์จนจบทุกยุคทุกคัมภีร์ มีอุตสาหะจดจำได้แม่นยำและเกิดเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง

 สิ่งสำคัญได้ศึกษาเล่าเรียนในด้านคาถาอาคมจนมีความชำนาญ เจนจัดด้านวิชาแขนงต่างๆ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแก้ว วัดพรรณนารายณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว ท่านจึงได้ตัดสินใจออกธุดงค์รอนแรมมาตามป่าและภูเขาเพื่อแสวงหาที่สงบวิเวกบำเพ็ญสมณธรรม และปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

 ต่อมาได้อยู่จำพรรษาที่ “วัดดอนทอง” เมื่อปี 2479 ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่นั่นได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านดอนทองมาก ด้วยมีศีลาจารวัตรงดงาม ครั้นเมื่อ หลวงพ่อแพ เจ้าอาวาสวัดดอนทอง มรณภาพลง ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อเฮ็น ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมา ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอรรถธรรมทร”

 หลวงพ่อเฮ็น ได้สร้างมงคลวัตถุไว้หลายรุ่นหลายแบบ อาทิ ผ้ายันต์อุษาสวรรค์ มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อว่า เมื่อต้องการใช้ก่อนออกจากบ้าน ให้นำผ้ายันต์อุษาสวรรค์ เช็ดหน้าจากซ้ายไปขวาสามครั้ง ว่ากันว่าจะมีเสน่ห์ไปตลอดทั้งวัน

 หลวงพ่อเฮ็นมรณภาพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2543 สิริอายุได้ 89 ปี

 สำหรับวัตถุมงคล “ผ้ายันต์อุษาสวรรค์” นั้น เซียนพระเครื่องต่างเสาะแสวงหาสะสมกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เหรียญรุ่นแรก “เหรียญเสมาหลวงพ่อเฮ็นรุ่นแรก ปี 2529” ยังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง คณะศิษย์จัดสร้างถวายมุทิตาสักการะในโอกาสครบรอบอายุ 75 ปี ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบเสมา มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเหรียญเนื้อทองแดง

 ด้านหน้าเหรียญตรงกลาง เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเฮ็นนั่งขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ 3 ชั้น ด้านใต้ฐานอาสนะเขียนคำว่า “หลวงพ่อเฮ็น สุวรรณศรัทธา” ด้านในขอบโค้งใบเสมาด้านซ้ายล่าง เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๒๙” ส่วนด้านขวาของเหรียญเขียนว่า “อายุ ๗๕ ปี” ด้านหลังเหรียญ ตรงกลาง เป็นยันต์ ด้านบนยันต์เขียนว่า “วัดดอนทอง” ขอบโค้งด้านล่าง เขียนคำว่า “ต.ดงตะงาว กิ่ง อ.ดอนพุด จ.สระบุรี” ถือเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมในวงการ มีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้านทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย

 ส่วนวัตถุมงคลที่กำลังมาแรงอีกพิมพ์ "พระกริ่งดอนทอง" เป็นรุ่นแรกที่สร้างในวาระหลวงพ่อเฮ็น ครบ 7 รอบ 84 ปี นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นพิเศษ ที่ท่านได้มอบหมายให้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งด้านรูปลักษณ์พิมพ์ทรงที่ได้เน้นความสวยงามคมชัด รวมทั้งในด้านเนื้อหาซึ่งได้มอบชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งแผ่นจารตะกรุดสามพี่น้องของหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ชนวนกริ่งญาณวิทยาคมพร้อมตะกรุดสาม กษัตริย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และแผ่นจารตะกรุดสามกษัตริย์ของหลวงพ่อเฮ็น

 ทั้งหมดได้นำมาหลอมผสมผสานเพื่อให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ทรงคุณวิเศษยิ่งควรค่าแก่การบูชา ได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2537 จุดประสงค์ในการสร้างเพื่อสมทบทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่ขาดทุนทรัพย์ สมทบทุนอาหารกลางวัน และจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ วัตถุมงคลรุ่นนี้ผู้ที่มีไว้ครอบครองเคยมีประสบการณ์กันมาแล้วในหลายๆด้าน เด่นทางเมตตา มหานิยม ค้าขาย แคล้วคลาด โชคลาภ

 “พระกริ่งดอนทองรุ่นแรก” ที่จัดสร้างขึ้นเนื้อทองคำ สร้างจำนวน 84 องค์ เนื้อเงินจำนวน 500 องค์ เนื้อนวะจำนวน 500 องค์ เนื้อทองเหลืองจำนวน 200 องค์ ด้านหลังตอกโค้ด “นะ พุท ธา” ชัดเจน เป็นวัตถุมงคลที่มาแรง พิมพ์สวยมีอนาคต ของปลอมแปลงยังไม่มี สนนราคาวิ่งแบบไม่คงที่ ขึ้นติดอยู่ในระดับหลักพันกลางๆ  

 วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฮ็นจึงเปี่ยมล้นด้านพุทธคุณ ทั้งคลาดแคล้วคงกระพันชาตรี, เมตตาค้าขายมหาเสน่ห์ และแก้อาถรรพณ์มนต์ดำขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง เก็บสะสมไว้ไม่มีคำว่าผิดหวัง ในไม่ช้าไม่นานจะกลายเป็นวัตถุมงคลที่มากด้วยราคาและหายากยิ่ง

 นักสะสมมือใหม่รีบหาไว้บูชาด่วน!!!

bottom of page